ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

“คุณหญิงอ้อ” นำ “เพื่อไทย” ลุยเอง สงครามการเมืองยุคไม่มีใครยอมใคร

การเมือง
14:19
425
“คุณหญิงอ้อ” นำ “เพื่อไทย” ลุยเอง สงครามการเมืองยุคไม่มีใครยอมใคร

การปรากฏตัวที่พรรคเพื่อไทยของ “คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร หรือ “หญิงอ้อ” อดีตภริยานายทักษิณ ชินวัตร ในการประชุมพรรคเพื่อไทย เมื่อวันก่อน ในมุมมอง รศ.โอฬาร ถิ่นบางเตียว นักวิชาการ จาก มหาวิทยาลัยบูรพา ระบุว่า ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นความตั้งใจ และมีนัยทางการเมือง เพราะหากสังคมไทยให้คำนิยามนายทักษิณว่า เป็นผู้นำทางจิตวิญญาณของพรรคแล้ว “คุณหญิงอ้อ” คือพลังงานที่มองไม่เห็นแต่มีอยู่จริงในพรรคเพื่อไทย

เมื่อเกิดวิกฤตกับทั้งพรรคและผู้นำพรรค รวมทั้งนายทักษิณต้องติดคุกรับโทษที่เรือนจำกลางคลองเปรม ทำให้เกิดปฏิกิริยาความไม่มั่นใจต่อ สส.และนักการเมืองในสังกัดพรรคเพื่อไทย จึงต้องอาศัยร่างทรงใหม่ เพื่อช่วยเป็นขวัญและกำลังใจให้กลับคืนมา เห็นได้จากคำพูดสั้นๆว่า “สู้ ๆ นะ” แต่กลับได้รับเสียงปรบมือล้นหลามในห้องประชุม

ไม่เพียงความคึกคักคึกครื้นขึ้นเท่านั้น แต่ยังก่อให้เกิดความอบอุ่นใจ สำหรับ สส.และแกนนำพรรคเพื่อไทย ในสถานการณ์ที่พรรคกำลังตกต่ำ เจอมรสุมปัญหาหลากหลาย กระทั่งมีข่าวว่า จะมี สส.แตกทัพ ย้ายไปพรรคอื่นที่มีอนาคตกว่า

สะท้อนความสำคัญของคุณหญิงอ้อ ในพรรคเพื่อไทยอย่างชัดเจน เพราะที่ผ่านมา ไม่เคยมีปรากฏมาก่อนว่า “นายหญิง” จะไปปรากฏตัวในการประชุมพรรคมาก่อน คนในพรรคหลายคน เชื่อว่า เป็นการส่งสัญญาณ พร้อมเดินเคียงข้างกับคนในพรรคเพื่อไทย ในช่วงที่นายทักษิณไม่อาจทำหน้าที่ดังกล่าวได้ และยังมีความหมาย ถึงทรัพยากรที่จำเป็นที่ต้องใช้ในทางการเมืองว่า ไม่ติดขัด สส.และแกนนำในพรรคไม่ต้องเป็นกังวล

ถือเป็นการเติมเต็ม สร้างความมั่นใจในช่วงเวลาที่ทุกคนในพรรคต้องเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เพื่อพร้อมรับมือศึกใหญ่ ที่ถือว่าท้าทายที่สุดก็ว่าได้ เพราะคู่แข่งในสนามเลือกตั้ง จะไม่มีเพียงพรรคประชาชน ที่คะแนนนิยมจากโพลสำนักต่าง ๆ ดีวันดีคืนถึงขั้นเชื่อว่าจะชนะเลือกตั้งเท่านั้น แต่ยังรวมถึงอดีตพันธมิตรเก่าอย่างพรรคภูมิใจไทย ที่ตอนนี้เนื้อหอมสุด ๆ เป็นศูนย์กลาง และจุดหมายปลายทางของนักการเมืองทั้งเก่าและใหม่ จนหัวบันไดบ้านไม่แห้ง

ล่าสุด กลุ่มการเมืองท้องถิ่น และ สส.ชุมพร ที่แตกทัพมาจากพรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคในขั้วอนุรักษ์นิยมเช่นกัน แต่กำลังเกิดปัญหาภายในอย่างรุนแรง ได้เปิดตัวยกพลเข้าสังกัดพรรคค่ายสีน้ำเงิน

ทั้งยังมีข่าวจะมี สส.และกลุ่มการเมืองจาก 2 บ้านใหญ่ 2 จังหวัดใหญ่ “ตระกูลกาญจนะ” จาก จ.สุราษฎร์ธานี และ “ตระกูลโล่ห์สถาพรพิพิธ” จากจ.ตรัง จะย้ายเข้าไปเสริมในลำดับถัดไป ท่ามกลางความคืบหน้า เรื่อง “ครม.อนุทิน 1” ที่ว่ากันว่าลงตัวแล้ว จ่อพร้อมเป็นรัฐบาลชุดใหม่บริหารประเทศ

ส่งผลถึงการตื่นตัวทางการเมือง และการจุดพลุเรื่องตลาดนัด สส. โดยนายเทพไท เสนพงษ์ อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ แต่ตอนนี้ย้ายออกจากพรรคไปแล้ว และทำหน้าที่เป็นนักวิเคราะห์การเมืองระดับแถวหน้าขาประจำคนหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก นอกจากระบุว่า ตอนนี้เข้าสู่ยุคการเมืองไร้เสถียรภาพ เนื่องจากมีรัฐบาลเสียงข้างน้อยแล้ว ยังระบุชัดว่า มีความเคลื่อนไหวซื้อขาย สส.กันแล้ว ไม่ต่างจากตลาดนัดวัวควายของเกษตรกร

ทั้งระบุว่า ค่าตัว สส.เกรด เอ สูงถึง 80 ล้านบาท เกรด บี 50 ล้านบาท และ เกรด ซี 30 ล้านบาท ทำให้ขณะนี้ มี สส.หลายคนพร้อมจะเข้าสู่ตลาดและย้ายพรรค ซึ่งจะทำให้การเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง จะสู้กันอย่างเข้มข้น และเป็นการพิสูจน์ว่า ระหว่างกระแสกับกระสุน ใครจะแน่กว่ากัน

ประเด็นตลาดนัด สส. และการซื้อขายด้วยค่าตัวมหาศาลดังกล่าว ไม่ได้เกิดขึ้นแบบโคมลอย เพราะนักวิชาการอย่าง รศ.โอฬาร ถิ่นบางเตียว ที่ได้ทำการศึกษาวิจัยเรื่องการเมืองไทยมาตลอดคนหนึ่ง ได้กล่าวยืนยันว่า เป็นเรื่องจริง และสอดคล้องกับผลงานการทำวิจัย

การเข้ามาของ “หญิงอ้อ” จึงถูกจังหวะเวลาตามความเข้มข้นทางการเมือง ที่เชื่อว่าจะไม่มีใครยอมใคร แต่พรรคไหนจะเชี่ยวชาญหรือจะใช้วิธีการใด เป็นอีกกรณีหนึ่ง

พรรคเพื่อไทยก็เช่นเดียวกัน

วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส

อ่านข่าว : ขวากหนาม “วรภัค” ย้อนรอยคดีทุจริตกรุงไทยปล่อยกู้ EARTH

เสธ.ทภ.1 ซัดกัมพูชาเลิกเล่นละคร​ ใช้เด็ก-​ผู้หญิง​ ยั่วยุบ้านหนองหญ้าแก้ว

"อนุทิน" ให้กองทัพจัดการชายแดน ไม่สนกัมพูชาฟ้องผู้นำโลก