ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"พิชัย" รับเศรษฐกิจไม่ดี แต่มั่นใจดัน GDP ถึงเป้า 3%

การเมือง
25 มี.ค. 68
18:22
75
Logo Thai PBS
"พิชัย" รับเศรษฐกิจไม่ดี แต่มั่นใจดัน GDP ถึงเป้า 3%
"พิชัย" ชี้แจงสภา​ฯ ตั้งเป้า​ GDP ปีนี้ถึง​ 3% ส่วนการกระตุ้นเศรษฐกิจจำเป็นต้องเติมเม็ดเงินในระบบ พร้อมเผยโครงการซื้อหนี้ประชาชนฯ เลือกลูกหนี้ไม่มีหลักทรัพย์

วันนี้ (25 มี.ค.2568) นายพิชัย​ ชุณหวชิร​ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง​ ชี้แจงกรณี น.ส.ศิริกัญญา​ ตันสกุล​ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายประเด็นเศรษฐกิจ ว่า เห็นด้วยว่าเศรษฐกิจไม่ดีมายาวนาน อย่างไรก็ตามการตั้งตัวเลขจีดีพีไว้ 3% เพราะคาดหวังและเชื่อว่าจะเติบโต แม้จะช้า โดย 6 เดือนที่ผ่านมาโต 3.1% ทำให้ต้องผลักดันเพื่อไปให้ถึง

ส่วนการส่งออกสินค้าเกษตร เช่น ข้าวไทย มีการส่งออกมากกว่าจำนวนบริโภคภายในประเทศ การส่งออกข้าวบางพันธุ์เสมอกับต้นทุน ไม่มีกำไร ขณะนี้การผลิต 17 ล้านตัน บริโภคในประเทศ 11 ล้านตันและส่งออก 6 ล้านตัน โดยสิ่งที่ต้องทำคือลดการผลิตให้น้อยลง ใช้พื้นที่เพาะปลูกทำอย่างอื่น เช่น 14 ล้านไร่เพื่อปลูก อีก 12 ล้านไร่ต้องลดพื้นที่ปลูกข้าว ดีที่สุดคือสิ่งที่นำเข้าต้องผลิตเอง โดยดูต้นทุนการนำเข้า เช่น ข้าวโพด หากทำให้ดีจะได้ไร่ละ 15,000-16,000 บาท ซึ่งเป็นโครงการ 3-5 ปีที่ต้องดูแล

อ่านข่าว : "ศิริกัญญา" ชี้ "แพทองธาร" มือไม่ถึงบริหารเศรษฐกิจล้มเหลว

รมว.คลัง​ ยังกล่าวอัตราค่าไฟฟ้า โดยยอมรับว่าค่าไฟฟ้าของประเทศไทยสูงอยู่ที่ 4.10 บาท​ ซึ่งราคาที่เหมาะสมควรอยู่ที่ 3.50 บาท โดยสิ่งที่จะทำให้ค่าไฟลดลงได้จริงคือการปรับโครงสร้างของการผลิตไฟจากไฮโดรคาร์บอน ซึ่งเป็นการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซ LPG เป็นสิ่งที่มีต้นทุนต่ำกว่า เช่น โซลาเซลล์ ที่ปัจจุบันมีต้นทุนต่ำลงเรื่อยๆ คาดว่าจะใช้ต้นทุนไฟฟ้าไม่เกิน 2 บาทต่อหน่วย

นายพิชัย​ ชุณหวชิร​ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง​

นายพิชัย​ ชุณหวชิร​ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง​

นายพิชัย​ ชุณหวชิร​ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง​

ส่วนเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจ จำเป็นจะต้องเติมเม็ดเงินเข้าไปในระบบ วันนี้หนี้ถึงระดับที่ทุกคนรับไม่ไหว แต่การใช้ศัพท์คำว่า Stablecoin จะต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง ซึ่งตามกฎหมายธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กระทรวงการคลังไม่สามารถพิมพ์เงินใหม่เพื่อแข่งกับ ธปท.ได้ แต่ที่ต้องทำเพื่อให้มีสภาพคล่องและเข้าถึงรายย่อยมากขึ้น ซึ่งจะเป็น Token ไม่ใช่เงินใหม่ ใครมีสามารถเข้าไปแลกเปลี่ยนได้ หากเป็นแบบนี้ใครที่เงินฝาก 20,000 บาทสามารถซื้อธนบัตรรัฐบาลได้ ทั้งนี้ ธปท.ยังไม่เห็นด้วย

ส่วนเรื่องการแก้หนี้ ปกติขั้นตอนทั่วไปต้องขอยืดหนี้ให้น้อยลง ซึ่งทำได้เฉพาะคนที่มีกำลัง ทั้งนี้ข้อเท็จจริงของการแก้หนี้ให้คนที่มีหนี้ไม่เยอะ เงินที่ช่วยเหลือปรับโครงสร้างหนี้ใช้ไม่ถึงครึ่งหนึ่ง สำหรับหนี้ที่มี 13.6 ล้านล้านบาท ไม่คิดว่าซื้อหนี้ทั้งระบบ เพราะไม่มีปัญญา ในจำนวนดังกล่าวมีหนี้ที่ไม่เสียรวมอยู่ จำนวน 6 ล้านล้านบาท แต่จะเลือกซื้อหนี้เสีย ไม่เลือกกลุ่มลูกหนี้ที่มีกำลังเจรจากับเจ้าหนี้ได้ โดยจะเลือกแต่ลูกหนี้ไม่มีหลักทรัพย์ กู้มากินและตามตัวลูกหนี้ไม่ได้

          “หนี้ที่มีปัญหาคือ 3 ล้านคน มีหนี้ติดอยู่ 1.2 แสนล้านบาท ด้วยเงินนิดเดียวทำให้คนมีความทุกข์ ซึ่งจะทำให้หาทางละเว้น NCB เอ็นซีบี เฉพาะกลุ่มมีรหัสพิเศษ หากหลุดพ้นต้องหาทางกู้ใหม่ คือการให้โอกาส ส่วนจะได้กู้หรือไม่ขึ้นอยู่กับการพิสูจน์ วันนี้ให้ธนาคารออมสินนำร่องโดยใช้เงิน 4,000 ล้านบาท คิดดอกเบี้ยน้อย พบว่า เปิดได้ 3 วัน มีกว่า 4.5 แสนบัญชี หากควบคุมได้ กำกับดีๆ จะช่วยแก้ปัญหาตัวเล็กๆ ได้” นายพิชัย กล่าว

อ่านข่าว

"วิโรจน์" จี้สรรพากรแจงปม "แพทองธาร" ออกตั๋ว PN

ปัดมีดีล "แพทองธาร" ยืนยันไม่เกี่ยวข้องปม "ทักษิณ" กลับบ้าน

“พิชัย” แจงแก้ปัญหาอยู่ไม่ได้เพิกเฉยสินค้าเกษตรตกต่ำ ย้ำเศรษฐกิจไทยกำลังฟื้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง