ปฏิเสธไม่ได้ว่า "ทุเรียนไทย" คือ พืชเศรษฐกิจหนึ่งเดียวที่นำรายเข้าประเทศลำดับต้นๆ ของสินค้าเกษตรส่งออกทั้งหมด ตั้งแต่ปี 2566 ไทยส่งออกทุเรียนมูลค่า 1.4 แสนล้านบาท ขณะที่ปี 2567 ตลาดทุเรียนขยายตัวต่อเนื่องมูลค่าสูงถึง 1.5 แสนล้านบาท ทุเรียนเป็นสินค้าที่พึ่งพาตลาดส่งออกถึง 75% และบริโภคภายในประเทศเพียง 25% จากปริมาณผลผลิตทั้งหมด

จีน ถือเป็นตลาดใหญ่ส่งออกทึเรียนของไทย เนื่องจากผู้บริโภคนิยมและมีกำลังซื้อสูง อีกทั้งราคาทุเรียนไทยในจีนมีราคาค่อนข้างสูงและเป็นที่ต้องการ แต่ระยะหลังๆ ทุเรียนไทยกลับต้องเผชิญปัญหาหลายอย่าง ทั้ง การปิดด่าน พบสารย้อมสี BY2 ในทุเรียนซึ่งผู้ประกอบการได้รับผลกระทบอย่างหนัก เมื่อรัฐบาลจีนตีกลับทุเรียนไทย
ทุเรียนไทย "ฮิต" ในจีน สร้างรายได้ปีละ 1.5 แสนล้าน
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อํานวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) โฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงมาตรการดูแลสินค้าผลไม้ โดยเฉพาะทุเรียนซึ่งเป็นสินค้าเกษตรส่งออกสำคัญของไทย ซึ่งแต่ละปีสามารถสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศได้มากกว่าปีละกว่า 1.5 แสนล้านบาท
ที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์ได้ดูแลทั้งด้านตลาดในประเทศ และการขยายตลาดส่งออก ผ่านการส่งเสริมการบริโภค ประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ทุเรียนไทยให้กับผู้บริโภคและผู้นำเข้าในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในตลาดจีน ซึ่งเป็นตลาดส่งออกทุเรียนเกือบทั้งหมดของไทย ถึง 97% ของการส่งออกทั้งหมด

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อํานวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) โฆษกกระทรวงพาณิชย์
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อํานวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) โฆษกกระทรวงพาณิชย์
โดยกลุ่มสินค้าผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง ถือว่าเป็นสินค้าเกษตรส่งออกอันดับที่ 1 ของไทย มีมูลค่าการส่งออกได้แซงสินค้าข้าว และยางพารา ตั้งแต่ปี 2563 และยังคงเป็นสินค้าเกษตรส่งออกอันดับที่ 1 จนถึงปัจจุบัน
สำหรับปี 2567 ไทยส่งออกผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง มูลค่ารวม 6,510.6 ล้านเหรียญสหรัฐ (231,401 ล้านบาท) โดยคิดเป็นสัดส่วน 22.58% ของมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรของไทย ข้าวมีสัดส่วน 22.32% และยางพารา มีสัดส่วน 17.32% ของมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรของไทย) และปี 2568 ช่วง 2 เดือนแรก (ม.ค. – ก.พ.) มูลค่าอยู่ที่ 429.3 ล้านเหรียญสหรัฐ มูลค่า 14,615 ล้านบาท

เฉพาะทุเรียน ในปี 2567 มีมูลค่าการส่งออกรวม 4,404.9 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ157,506 ล้านบาท แบ่งเป็น ทุเรียนสด 3,755.7 ล้านเหรียญสหรัฐ มูลค่า 134,852 ล้านบาทและ ทุเรียนแช่เย็นจนแข็ง 649.2 ล้านเหรียญสหรัฐ มูลค่า 22,654 ล้านบาท

2 เดือน ปี 68 ส่งขายทุเรียนตลาดโลกแล้ว 4,374 ล้านบาท
ล่าสุดปี 2568 ช่วง 2 เดือนแรก (ม.ค. – ก.พ.) ไทยมีมูลค่าส่งออกรวม 128.5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ4,374 ล้านบาท ปริมาณ 24,365 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.87 แบ่งเป็น ทุเรียนสด 85.8 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 2,918 ล้านบาทและ ทุเรียนแช่เย็นจนแข็ง 42.7 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 1,456 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนพบว่า ไทยมีมูลค่าส่งออกทุเรียนรวม 137.9 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 4,822 ล้านบาท ปริมาณ 24,155 ตัน แบ่งเป็นทุเรียนสด 99.1 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 3,469 ล้านบาท และ ทุเรียนแช่เย็นจนแข็ง 38.8 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 1,353 ล้านบาท

โฆษกกระทรวงพาณิชย์ กล่าวอีกว่า ทุเรียนเป็นสินค้าที่ไทยพึ่งพาตลาดส่งออกถึง 75% ขณะที่บริโภคภายในประเทศเพียง 25% ของปริมาณผลผลิตทั้งหมด ดังนั้น หากมีปัญหาเกี่ยวกับการส่งออก ไม่ว่าจะเป็นความเข้มงวดของจีนในการตรวจสาร Basic Yellow 2 (BY2) และแคดเมียม
คู่แข่งทุเรียนไทยมีมากขึ้น ทั้งทุเรียนจากเวียดนาม ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย ทำให้เกิดการแข่งขันของในตลาดทุเรียนในตลาดจีนที่มีความรุนแรงมากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบให้ทุเรียนล้นตลาด ซึ่งจะส่งผลกับราคาทุเรียนในประเทศ

โฆษกกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ทุเรียน เป็นสินค้าเกษตรสำคัญของไทย โดยเฉพาะตลาดต่างประเทศที่มีสัดส่วนการบริโภคถึง 75% ของปริมาณผลผลิตทุเรียนไทย ซึ่งกระทรวงฯให้ทูตพาณิชย์ในจีน 8 แห่ง รวมทั้งสำนักงานพาณิชย์ ณ กรุงปักกิ่ง หาตลาดรองรับทั้งในเมืองหลักและเมืองรองของจีนเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งหาตลาดใหม่ที่มีศักยภาพเพิ่มเติม พร้อมเดินหน้ามาตรการเชิงรุก ตามแผนบริหารจัดการผลไม้ปี 2568 รวม 7 มาตรการ ครอบคลุม 25 แผนงาน ให้ผลไม้ไทยปีนี้ได้ราคาดีตลอดทั้งปี

"นภินทร" ขยายตลาดทุเรียน เยือน ลาว-จีน 26-31 มี.ค.
นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่ากระทรวงฯมีเป้าหมายสำคัญในการ ขยายตลาดทุเรียนและผลไม้ไทยอื่น ๆ ในจีน ผ่านโครงข่ายโลจิสติกส์ที่เชื่อมต่อจากไทยผ่านลาวสู่จีน ซึ่ง วันที่ 26-31 มีนาคม 2568 จะนำคณะกระทรวงพาณิชย์ เยือน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) และสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือด้านการค้า และโลจิสติกส์

นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์
นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์
และจะเข้าพบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงโยธาธิการและขนส่ง สปป.ลาว เพื่อหารือด้านโลจิสติกส์สำหรับการขนส่งสินค้าเกษตร และเดินทางไปเยี่ยมชม ท่าบกท่านาแล้ง จุดเปลี่ยนถ่ายสินค้าสำคัญของลาว ซึ่งเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์สำคัญในการส่งออกทุเรียนไทยไปจีน
จากนั้น จะนำคณะเดินทางโดย รถไฟจีน-ลาว ที่เวียงจันทน์สู่เมืองบ่อเต็น ซึ่งเป็นจุดผ่านแดนสำคัญไปจีน และจะตรวจเยี่ยม ด่านโม๋ฮ่าน ซึ่งเป็นจุดตรวจปล่อยสินค้านำเข้าทุเรียนไทย ก่อนเข้าสู่ตลาดจีน โดยจะมีการเข้าพบผู้แทนภาครัฐของจีน เพื่อหารือเรื่องกระบวนการตรวจปล่อยสินค้าให้รวดเร็วขึ้น

เพื่อขยายตลาดทุเรียนไทยในจีน ผ่านระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ กระบวนการตรวจปล่อยสินค้า ลดความล่าช้าในการนำเข้าสินค้าเกษตรไทยผ่านด่านจีน เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของทุเรียนและผลไม้อื่น ๆของไทยจะทำให้สินค้าไทยมีราคาที่แข่งขันได้ในตลาดจีน
รมว.พาณิชย์ ยัน ปัญหาสารย้อมสี BY2 จบแล้ว
นายพิชัย นริพทะพันธ์ รมว.พาณิชย์ ยืนยันว่า ปัญหาการพบสารย้อมสี BY2 ในทุเรียน ได้รับคำยืนยันจากจังหวัดว่าได้แก้ปัญหาปัญหานี้แล้ว และขณะนี้ไม่พบสารนี้ในทุเรียน
นอกจากนี้ ยังได้หาหรือกับเอกอัครราชทูตจีน ประจำประเทศไทย เพื่อขอให้ประสานกับทางการจีน ให้ช่วยผ่อนคลายการตรวจสอบทุเรียนที่นำเข้าจากไทยจากตรวจสอบ 100% ของเปลี่ยนเป็นสุ่มตรวจแทน โดยฝั่งไทยจะคุมเข้มและตรวจสอบ 100% ก่อนการส่งออก

นายพิชัย นริพทะพันธ์ รมว.พาณิชย์
นายพิชัย นริพทะพันธ์ รมว.พาณิชย์
การตรวจสอบทุกล็อต ทุกตู้คอนเทนเนอร์ จะทำให้เกิดความล่าช้า และอาจทำให้ทุเรียนที่รอการตรวจสอบเพื่อนำเข้าสู่จีนเน่าเสียหายได้ ซึ่งทูตจีน รับปากที่จะประสานกับทางรัฐบาลให้
นายพิชัย กล่าวอีกว่า กระทรวงฯได้มีมาตรการบริหารจัดการผลไม้ปี 2568 ออกมาแล้ว จำนวน 7 มาตรการ 25 แผนงาน ในการดูแลผลไม้ทุกชนิด รวมถึงทุเรียน เพราะทุเรียน ถือเป็นตัวหลัก เพราะส่งออกปีละกว่า 1.5 แสนล้านบาท และปีนี้ มีผลผลิตปริมาณ 1.767 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 37%

ทั้งนี้ ในปี 2568 ผลผลิตผลไม้สำคัญ 9 ชนิด ได้แก่ ทุเรียน ลำไย มะม่วง สับปะรด มังคุด ส้มเขียวหวาน เงาะ ลองกอง และลิ้นจี่ คาดว่า จะมีประมาณ 6.736 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 15% โดยทุเรียนเพิ่มขึ้นมากสุด ผลผลิต 1.767 ล้านตัน เพิ่ม 37% รองลงมาเป็น ลำไย 1.456 ล้านตัน เพิ่ม 1% และ มะม่วง 1.306 ล้านตัน เพิ่ม 10% สับปะรด 1.343 ล้านตัน เพิ่ม 17% และมังคุด 2.79 แสนตัน เพิ่ม 2% ซึ่งแบ่งเป็นการบริโภคสด 65% และแปรรูป 35% เป็นการส่งออก 74% ในจำนวนนี้เป็นส่งออกแบบสด 62% และแปรรูป 38% และบริโภคในประเทศ 26%
จากมาตรการและแผนรับมือผลไม้ปี 2568 ของกระทรวงพาณิชย์ เกษตรกร - ผู้ประกอบการคงใจชื้นขึ้นมาบ้าง แต่การรักษาคุณภาพผลไม้ไทยยังคงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะไม่ว่าจะอย่างไร "รสชาติ"อร่อยแบบไทย ๆ ก็ยังยากจะเลียนแบบและสามารถครองใจผู้บริโภคตลอดกาล
อ่านข่าว:
ทวงแชมป์ "ทุเรียนไทย" ส่งออกตลาดจีน 4 เดือน พุ่ง 2.25 แสนตัน
ศึกชิงตลาด “ทุเรียน” (ไทย) เสี่ยงสูงถูก "เวียดนาม" ล้มแชมป์
จบแล้ว พาณิชย์ แก้ปัญหา BY2 พาณิชย์ ถกทูตจีนขอผ่อนปรนเป็นสุ่มตรวจแทน