ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ฝ่ายค้านจัดเต็ม! โรมลั่นใช้ "ยุทธการโรยเกลือ" ซักฟอกนายกฯ

การเมือง
22 มี.ค. 68
15:44
109
Logo Thai PBS
ฝ่ายค้านจัดเต็ม! โรมลั่นใช้ "ยุทธการโรยเกลือ" ซักฟอกนายกฯ
"โรม" เผยฝ่ายค้านเตรียมขุนพลอภิปรายไม่ไว้วางใจ 24 มี.ค.นี้ มั่นใจหลักฐานแน่นปิดจ็อบรัฐบาล พร้อม "ยุทธการโรยเกลือ" ดำเนินคดีนายกฯ มองท่าทีนายกฯ กังวลหนัก ดินเนอร์พรรคร่วมชี้รอยร้าว ขณะที่กรณี ป.ป.ช. จ่อสอย 44 สส. ม.112 มองเป็นนิติสงครามขัดขวางการตรวจสอบ

วันนี้ (22 มี.ค.2568) นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคประชาชน เปิดเผยถึงการเตรียมการอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 ซึ่งกำหนดวันเริ่มต้นในวันที่ 24 มี.ค.2568

โดยระบุว่าฝ่ายค้านพร้อมหยิบยกทุกความล้มเหลวของรัฐบาลภายใต้การนำของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไม่ว่าจะเป็นประเด็นความมั่นคง การทุจริตคอร์รัปชัน ปัญหาเศรษฐกิจที่กระทบประชาชน หรือความล้มเหลวในการบริหารราชการแผ่นดิน โดยย้ำว่า

ความล้มเหลวนี้ไม่ได้อยู่ที่เรา แต่อยู่ที่ตัวท่าน

โดยการอภิปรายครั้งนี้จะเริ่มต้นด้วย นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชนและผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร อ่านญัตติ ตามด้วยขุนพลฝ่ายค้านอีกหลายคนที่เตรียมข้อมูลแน่นหนา

นายรังสิมันต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ฝ่ายค้านมั่นใจในพยานหลักฐานและเอกสารที่รวบรวมมา ซึ่งจะไม่เพียงแค่ชี้ให้เห็นความบกพร่องของรัฐบาล แต่ยังนำไปสู่ "ยุทธการโรยเกลือ" หลังจบการอภิปราย โดยยุทธการนี้จะเป็นการดำเนินการทางกฎหมายต่อนายกรัฐมนตรีในประเด็นที่ฝ่ายค้านเชื่อมั่นว่าสามารถเอาผิดได้แน่นอน

ส่วนการจัดลำดับผู้อภิปรายนั้น นายรังสิมันต์ยังไม่ยืนยันว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะอภิปรายต่อจากนายณัฐพงษ์หรือไม่ โดยระบุว่าต้องรอการสรุปจากพรรคร่วมฝ่ายค้าน แต่ยืนยันว่าให้เกียรติหัวหน้าพรรคด้วยลำดับต้น ๆ

ขณะที่กระแสข่าว ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง สส.พรรคเพื่อไทย อาจร่วมอภิปรายนั้น นายรังสิมันต์บอกว่ายังไม่มีการส่งรายชื่อครบถ้วน จึงตอบไม่ได้ว่าจะมีชื่อหรือไม่ และหากมีการขอร่วม ต้องหารือกับพรรคร่วมฝ่ายค้านเพื่อจัดสรรเวลา เนื่องจากไม่มีโควตาสำหรับฝ่ายรัฐบาล

ส่วนการนัดดินเนอร์ของพรรคร่วมรัฐบาลเมื่อวันที่ 21 มี.ค. ที่ผ่านมา นายรังสิมันต์ ตั้งข้อสังเกตว่านายกฯ แสดงท่าที "กังวลและเครียด" อย่างเห็นได้ชัด ซึ่งมากกว่าการอภิปรายในสมัยรัฐบาลที่แล้ว เขาชี้ว่าการนัดดินเนอร์ครั้งนี้สะท้อนถึงความไม่ไว้วางใจกันเองในหมู่พรรคร่วมรัฐบาล แม้จะร่วมตั้งรัฐบาลด้วยกัน พร้อมยกตัวอย่างเหตุการณ์ที่บ่งบอกถึงความตื่นตระหนก เช่น การตั้ง "องครักษ์พิทักษ์นายกฯ" 20 คน การพยายามให้ถอนชื่อบุคคลบางรายออกจากญัตติ หรือการที่ประธานสภาฯ อ้างว่าญัตติบกพร่อง

ทั้งที่ฝ่ายค้านยืนยันว่าปฏิบัติตามขั้นตอนถูกต้องและมีการหารือกับสภาฯ มาโดยตลอด พร้อมยังตั้งคำถามว่ารัฐบาล "กลัวเกินไปหรือไม่" และไม่พร้อมชี้แจงข้อกล่าวหาต่าง ๆ ที่ฝ่ายค้านเตรียมไว้

นอกจากนี้ นายรังสิมันต์ ยังกล่าวถึงกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จัดกลุ่ม 44 สส.พรรคก้าวไกล ที่เคยลงชื่อเสนอแก้ไขมาตรา 112 โดยแบ่งเป็น 4 กลุ่ม และมีอย่างน้อย 12 คนที่เสี่ยงถูกตัดสิทธิทางการเมืองว่า เรื่องนี้อาจเป็น "นิติสงคราม" ที่จงใจออกมาก่อนการอภิปราย เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของฝ่ายค้านจากการตรวจสอบรัฐบาล โรมกล่าวว่า

เกลียดเราได้ วิจารณ์เราได้ แต่ประเทศได้อะไร

พร้อมตั้งคำถามว่าการใช้กระบวนการเช่นนี้กับฝ่ายนิติบัญญัติที่เสนอกฎหมายตามหน้าที่นั้นสมเหตุสมผลหรือไม่ เมื่อเทียบกับการทุจริตหรือการสมคบคิดที่ร้ายแรงกว่าแต่กลับไม่ถูกจัดการ เขาย้ำว่าการทำลายฝ่ายค้านจะยิ่งทำให้การทุจริตทวีคูณ และประเทศไทยจะติดอยู่ในวังวนขัดแย้งแบบเดิม

ท้ายที่สุด นายรังสิมันต์ ยืนยันว่าพรรคประชาชนและฝ่ายค้าน จะยังคงทำหน้าที่ตรวจสอบอย่างเต็มที่ แม้จะเผชิญอุปสรรคทั้งจากรัฐบาลและกระบวนการทางกฎหมาย โดยระบุว่า "เราจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเพื่อประชาชน" และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายมองถึงประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก แทนการมุ่งโจมตีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเพียงอย่างเดียว

อ่านข่าวอื่น :

จนท.สันนิษฐาน "ชายเยอรมัน" ทำร้ายตัวเองตายในบ้านพัก

"ชายเยอรมัน" ทำร้ายหมอฟัน กลายเป็นศพในบ้านพักที่โคราช

ข่าวที่เกี่ยวข้อง