วันนี้ (10 มี.ค.2568) อาสาสมัครรักษาดินแดน ที่ว่าการอำเภอสุไหงโกลก จ.นราธิวาส ผู้นำศาสนา และประชาชนร่วมละหมาดฮายัด เพื่อขอความสันติสุขจงกลับมา บริเวณด้านหน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส หลังถูกซุ่มยิงและคาร์บอมบ์ซ้ำ ทำให้มี อส.เสียชีวิต 2 นาย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บถึง 16 คน เมื่อ 2 วันก่อน

โดยนายซูปียัน แดเมาะเล็ง นายอำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ที่เพิ่งมารับตำแหน่งวันนี้วันแรก บอกว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นภายในที่ว่าการอำเภอ โดยเฉพาะที่หอประชุมของที่ว่าการอำเภอ ที่เสียหายทั้งหมด เนื่องจากรถคาร์บอมบ์ถูกปล่อยไหล จากทางเข้าจนมาจอดและระเบิดบริเวณนี้ ได้รับความเสียหายอย่างหนัก
สำหรับอาคารหอประชุมแห่งนี้ ถูกใช้เป็นส่วนงานบริการการทำหนังสือผ่านแดนชั่วคราว หรือ บอเดอร์พาสให้กับประชาชน ที่จะเดินทางไปประเทศมาเลเซีย ที่มักจะมาใช้บริการประมาณ 300 คนต่อวัน ในระหว่างประชาชน จึงจำเป็นจะต้องไปติดต่อ เพื่อทำหนังสือผ่านแดนในอีก 12 อำเภอ ใกล้เคียง โดยเฉพาะใน อ.ตากใบ หรือสุไหงปาดีที่ อยู่ใกล้กับ อ.สุไหงโก-ลก แทน
ขณะที่ทางอำเภอก็จะเร่งประสานกับทางจังหวัด เพื่อขอสนับสนุนอุปกรณ์ต่าง ๆ มาทดแทน และพยายามเปิดให้บริการชั่วคราว ที่หอประชุมด้านหลัง ซึ่งไม่เสียหายมากนัก แต่ก็คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน จึงจะกลับมาให้บริการเต็มรูปแบบได้เหมือนเดิม

“ต้องยอมรับว่า กระทบต่อการให้บริการอย่างมาก และประชาชนต้องเดินทางไกลไปต่างอำเภอเพื่อทำหนังสือเดินทาง ทางราชการก็ต้องเร่งให้บริการให้เร็วที่สุด แต่อย่างเร็วก็น่าจะประมาณ 1 เดือน จึงจะกลับมาเปิดบริการได้” นายอำเภอสุไหงโก-ลก กล่าว
ส่วนบรรยากาศภายในที่ว่าการอำเภอ ในส่วนราชการอื่น ๆ เช่น ห้องสำนักงานสรรพากร ที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักเช่นกัน วันนี้ เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปทำความสะอาดภายใน แต่พบว่ายังไม่สามารถกลับมาเปิดให้บริการได้ ทำให้หน่วยงานแต่ละหน่วยงาน ต้องเร่งประสานต้นสังกัด เพื่อขอสนับสนุนอุปกรณ์สำนักงานมาใช้งานพลางก่อน
แต่ในส่วนงานทะเบียนราษฎร์เป็นเพียงส่วนงานเดียวที่สามารถกลับมาเปิดให้บริการได้ตามปกติ

อย่างไรก็ตาม นายอำเภอสุไหงโก-ลก กล่าวว่า หลังจากนี้อาจจะต้องปรับเปลี่ยนเรื่องของการรักษาความปลอดภัย ในพื้นที่ของที่ว่าการอำเภอ และในชุมชนเมือง รวมถึงการปรับแผนร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคง บริเวณด้านตรวจที่จะต้องมีความเข้มข้นมากขึ้น โดยเฉพาะด้านความมั่นคง ที่เป็นด่านหลัก ซึ่งเชื่อมต่อกับอำเภอใกล้เคียง อย่าง อ.สุไหงปาดี อ.แว้ง และ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส
หลังผู้ก่อเหตุเข้ามา พร้อมกันจำนวนมากและมีอาวุธสงครามครบมือ ผ่านด่านต่าง ๆ และถอนกำลังหลบหนี ก่อนนำรถไปจอดทิ้งที่ ต.ริโก๋ อ.สุไหงปาดี ซึ่งห่างไปออกไปหลายสิบกิโลเมตรได้โดยไม่ถูกตรวจพบ
อ่านข่าว : ลุ้น 16-20 ปีกว่า 2 ล้านรับดิจิทัลเฟส 3 เคาะแจกพ.ค.นี้
"ราชทัณฑ์" แจงเพิ่มปมอดีต "ผกก.โจ้" เปิดผังห้องขัง-ไซส์ผ้าขนหนู