ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

เชียงใหม่เร่งตรวจสอบ บริษัทนำเที่ยวและไกด์เถื่อน

ภูมิภาค
28 ก.พ. 68
15:39
157
Logo Thai PBS
เชียงใหม่เร่งตรวจสอบ บริษัทนำเที่ยวและไกด์เถื่อน
มัคคุเทศก์ไทยในจังหวัดเชียงใหม่เรียกร้องภาครัฐเร่งแก้ปัญหาต่างชาติ ตั้งบริษัทนำเที่ยวผิดกฎหมาย และ ทำงานเป็นมัคคุเทศก์ แย่งอาชีพสงวนของคนไทย

ตำรวจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ เข้าตรวจสอบบริษัทนำเที่ยวย่านตำบลช้างคลาน อำเภอเมืองเชียงใหม่ เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา หลังพบบุคคลนำทัวร์มีพฤติกรรมต้องสงสัยที่ท่าอากาศยานจังหวัดเชียงใหม่ จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้ มีชาวสิงคโปร์ถือหุ้น 49 % แต่ถูกนายทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวเพิกถอนใบอนุญาตแล้ว การให้บริการลูกค้าจึงมีความผิดฐาน "ประกอบธุรกิจนำเที่ยวโดยไม่ได้รับใบอนุญาต” ล่าสุดตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่กำลังตรวจสอบเส้นทางการเงินว่าเข้าข่ายกรณีต่างชาติเป็นเจ้าของผ่านนอมีนี หรือไม่

ล่าสุดสื่อสังคมออนไลน์มีการส่งต่อภาพกลุ่มคนลักษณะคล้ายชาวจีน ชูป้ายรับนักท่องเที่ยวที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ อ้างว่ามารับเพื่อนเพื่อพาเที่ยว แต่มีการตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดจึงมีการรับเพื่อนทุกวัน และ คนกลุ่มนี้เป็นมัคคุเทศก์เถื่อนหรือไม่ ทั้งที่มัคคุเทศก์ คือ 1 ในอาชีพสงวนของคนไทย

พ.ต.ท.มกรา ศรีสกุลพิสุทธิ์ สารวัตรใหญ่สถานีตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาสามารถจับกุมบริษัททัวร์ผิดกฎหมายได้ 3-4 แห่ง รวมทั้งมัคคุเทศก์ที่กระทำผิด เดือนละกว่า 60-70 ราย โดยเฉพาะชาวต่างชาติ ที่ลักลอบทำงานเป็นมัคคุเทศก์ไปรอรับนักท่องเที่ยวโดยอ้างว่าเป็นญาติ หรือ เพื่อน และ นำไปท่องเที่ยวตามจุดต่างๆ ซึ่งนอกจากเป็นการทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต และ แย่งอาชีพคนไทยแล้ว ยังกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยว เพราะการนำเที่ยวลักษณะนี้จะไม่มีการทำประกันภัยให้แก่นักท่องเที่ยว หากเกิดอุบัติเหตุรุนแรง นักท่องเที่ยวก็จะไม่ได้รับการดูแล หรือ เยียวยา

ทั้งนี้ ยอมรับว่าในการตรวจสอบจับกุมมีความยากพอสมควรเพราะการอ้างว่านักท่องเที่ยว เป็น พ่อ แม่ พี่ น้อง หรือ เพื่อน พิสูจน์ได้ยาก ต่างจากคดีอาญาที่มีการกระทำความผิดชัดเจน ที่ผ่านมาตำรวจท่องเที่ยวจึงต้องใช้วิธีทำประวัติบุคคลต้องสงสัย และ สืบสวนหาข่าวเพิ่มเติม

พ.ต.ท.มกรา ศรีสกุลพิสุทธิ์ สารวัตรใหญ่สถานีตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่

พ.ต.ท.มกรา ศรีสกุลพิสุทธิ์ สารวัตรใหญ่สถานีตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่

พ.ต.ท.มกรา ศรีสกุลพิสุทธิ์ สารวัตรใหญ่สถานีตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่

สิ่งที่ตำรวจทำคือ นำตัวมาตรวจสอบแล้วจัดทำประวัติไว้ จากนั้นจึงตรวจสอบในเชิงลึกอีกครั้งว่า เวลาไปร้านอาหาร บุคคลคนนี้เป็นคนจ่ายเงินให้นักท่องเที่ยวทั้งหมดในกลุ่มหรือไม่ หากตรวจสอบพบว่า 2-3 ร้าน ผู้ต้องสงสัยเป็นผู้จ่ายเงินทั้งหมด ก็ถือว่าเข้าข่ายการเป็นไกด์เถื่อน ตำรวจก็จะเริ่มดำเนินการตามกฎหมาย ทำให้ขั้นตอนค่อนข้างซับซ้อน กว่าคดีอาญาทั่วไป

นายสีหเดช เจียเจษฎา รองประธานสมาพันธุ์มัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทยภาคเหนือ บอกว่า ปัญหามัคคุเทศก์เถื่อนยังคงเกิดขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มไกด์ชาวจีน ขณะที่การตรวจสอบของตำรวจ ยังมีข้อจำกัด จึงเสนอให้มีหน่วยงานอื่นๆ ร่วมบูรณาการตรวจสอบ โดยเฉพาะสำนักงานแรงงานจังหวัด และ ตรวจคนเข้าเมือง ควรมาร่วมกันช่วยกันตรวจสอบ เพราะการทำทัวร์เถื่อนไม่ได้กระทบเฉพาะผู้ประกอบการที่ทำถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น แต่ยังมีผลด้านความมั่นคงอื่นๆด้วย

ผมเคยพบคณะนักท่องเที่ยวประมาณ 60 คน มีคนจีนมารอรับถือป้ายข้อความ และ นำขึ้นรถตู้ไป เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถตั้งข้อหาการเป็นผู้นำเที่ยวโดยไม่ถูกต้อง เพราะว่ายังไม่เข้าข่าย เนื่องจากเขามักจะอ้างว่ามารับเพื่อน คำถามคือ ทำไมต้องถือป้าย และ รับแล้ว เขาพาไปทำอะไร
สีหเดช เจียเจษฎา รองประธานสมาพันธุ์มัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทยภาคเหนือ

สีหเดช เจียเจษฎา รองประธานสมาพันธุ์มัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทยภาคเหนือ

สีหเดช เจียเจษฎา รองประธานสมาพันธุ์มัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทยภาคเหนือ

สอดคล้องกับความเห็นของ นางพิกุล เรืองไชย นายกสมาคมมัคคุเทศก์เชียงใหม่ ระบุว่าปัญหามัคคุเทศก์ต่างชาติแย่งงานมัคคุเทศก์ไทย ยังคงมีอยู่ ไม่เฉพาะกลุ่มชาวจีน แต่ยังมีมัคคุเทศก์เกาหลีใต้ ที่เข้ามารับงาน รวมไปถึงบริษัทนำเที่ยวของชาวยุโรปที่มีข้อมูลว่า อาจไม่ได้จดทะเบียนเป็นบริษัทนำเที่ยวถูกกฎหมาย

อยากเรียกร้องให้ตำรวจท่องเที่ยว และ นายทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์สาขาภาคเหนือ (จังหวัดเชียงใหม่) เข้ามาตรวจสอบ โดยเน้นการติดตามการทำงานของบริษัททัวร์ และ มัคคุเทศก์ ในแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ห่างไกลจากเขตเมือง เพราะถือเป็นพื้นที่ช่องว่างที่ยังไม่มีการตรวจสอบอย่างจริงจัง
พิกุล เรืองไชย นายกสมาคมมัคคุเทศก์เชียงใหม

พิกุล เรืองไชย นายกสมาคมมัคคุเทศก์เชียงใหม

พิกุล เรืองไชย นายกสมาคมมัคคุเทศก์เชียงใหม

นายกสมาคมมัคคุเทศก์เชียงใหม่ ยังเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่เน้นการตรวจสอบไกด์ต่างชาติไกด์ เป็นพิเศษ ส่วนการตรวจสอบมัคคุเทศก์ไทย ก็ร้องขอให้เป็นไปด้วยความนุ่มนวล เพราะที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่บางส่วนจู่โจมตรวจสอบ จนสร้างความตกใจ และ กลายเป็นภาพลักษณ์ด้านลบสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง