วันนี้ (14 ก.พ.2568) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายหลังการประชุมร่วมกันระหว่าง พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กับเจ้าหน้าที่สำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ เพื่อร่วมหามาตรการปราบปรามแก็งคอลเซนเตอร์และค้ามนุษย์ ตามแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน และช่วยเหลือผู้เสียหาย
- “ดีเคบีเอ” ลั่นปราบแก๊งคอลเซนเตอร์ เว้นให้แค่ “กาสิโน”
- "ดีเคบีเอ" ปฏิเสธเอี่ยวค้ามนุษย์-หลอกลวงไซเบอร์
พล.ต.อ.ธัชชัย เปิดเผยว่า จากการประชุมได้ข้อสรุปว่า จะมีการนัดหมายตัวแทนตำรวจจากประเทศต่าง ๆ มาประชุมเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลโดยเฉพาะประเทศที่มีผู้เสียหายถูกหลอกไปทำงานในเมียนมา
ส่วนเจ้าหน้าที่สำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC ) จะเข้ามาช่วยในการคัดกรองแยกผู้เสียหายออกจากกลุ่มมิจฉาชีพ และจะทำหน้าที่เป็นผู้อบรมและฝึกเจ้าหน้าที่ไทยเกี่ยวกับวิธีการสอบถาม รวมถึงจัดหาล่ามเข้ามาช่วยแปลภาษาเนื่องจากในขั้นตอนนี้มีผู้เสียหายหลายประเทศ
สำหรับข้อมูลรายชื่อผู้ต้องสงสัยว่า อาจเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์หรือแก๊งคอลเซนเตอร์ ที่ทางการจีนส่งมาให้ 3,700 รายชื่อ เบื้องต้นพบว่า ทั้งหมดเป็นคนจีนที่ทำงานอยู่ในเมียนมา และส่วนใหญ่เชื่อมโยงกันมีลักษณะเป็นกลุ่มแก๊ง ส่วนรายชื่อใดจะมีหมายจับของตำรวจสากลหรือไม่ ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูล และยังไม่มีรายงานว่าในจำนวนนี้สามารถจับกุมได้แล้วกี่คน ขณะที่ผู้ที่ถูกปล่อยตัวกลับจากเมียนมาสะสม 260 คน โดยเป็นชาวฟิลิปปินส์และชาวเคนยามากที่สุด
อ่านข่าว : ตร.ชี้แค่ 1% ชาวต่างชาติถูกลวงเข้าแก๊งคอลเซนเตอร์
เปิดอาณาจักรทุนจีน โยงค้าทาสแอฟริกายุคใหม่ในธุรกิจไซเบอร์สแกม
ช่วย 261 ต่างชาติ ถูกหลอกทำงานแก๊งคอลเซนเตอร์