วันนี้ (30 ม.ค.2568) นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ระบุถึงปัญหาแก๊งคอลเซนเตอร์ที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศไทยว่า
ปัญหาแก๊งคอลเซนเตอร์นี้กระทบต่อประเทศไทยอย่างมาก เพราะเม็ดเงินจำนวนมากไหลออกจากประเทศไปอยู่กับแก๊งคอลเซนเตอร์ ซึ่งไม่ได้ส่งผลกระทบแค่ประเทศไทย แต่ยังส่งผลกระทบต่อหลายประเทศทั่วโลก
หลายครอบครัวต้องจบชีวิตตัวเอง แม้แต่นายกฯ ก็ออกมายอมรับว่าเกือบเป็นเหยื่อของแก๊งคอลเซนเตอร์ ถือว่าเป็นภัยระดับร้ายแรง ซึ่งไม่ได้ส่งผลกระทบแค่ประเทศไทย แต่ยังส่งผลกระทบต่อหลายประเทศทั่วโลก
นอกจากนี้ ยังส่งผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยในสายตาของประเทศอื่น ๆ รวมไปถึงผลกระทบด้านเศรษฐกิจการท่องเที่ยว เพราะจากปัญหา คอลเซนเตอร์ทำให้ถูกมองว่า ประเทศไทยไม่ปลอดภัย หากมาเที่ยวอาจกลายเป็นเหยื่อแก๊งคอลเซนเตอร์ และขบวนการค้ามนุษย์ ถือเป็นการทำร้ายประเทศไทยอย่างมาก
นายรังสิมันต์ ย้ำว่า ไม่ได้เป็นการจินตนาการไปเอง เพราะเกิดขึ้นแล้วจากการยกเลิกของทัวร์จีน ทั้งนี้ประเทศไทยสามารถทำให้แก๊งคอลเซนเตอร์อ่อนแอลงได้ ไม่ว่าจะเป็นการตัดไฟฟ้า ตัดอินเทอร์เน็ต และตัดสาธารณูปโภค ต่าง ๆ
กรณีการตัดกระแสไฟฟ้านั้น การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) สามารถทำได้เพราะในสัญญาระบุว่า หากเป็นเรื่องที่กระทบต่อความมั่นคง กฟภ.สามารถดำเนินการตัดไฟได้ทันที และการที่ กฟภ.ซึ่งเป็นตัวแทนของ ก.มหาดไทย มาประชุมกรรมาธิการ เป็นระยะย่อมทราบข้อมูลที่บ่งชี้ว่า ประเทศไทยเป็นแบตเตอรี่ให้เครือข่ายแก๊งคอลเซนเตอร์
จึงเกิดคำถามว่า เพราะเหตุใดจึงต้องให้หน่วยงานอื่นมาสั่งหรือมาบอก ทั้งที่ ก.มหาดไทย สั่งให้ กฟภ.ดำเนินการตัดไฟได้ ซึ่งสอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรีสมัยนายเศรษฐา ทวีสิน ที่ออกมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่กลับไม่ดำเนินการ
ต้องยอมรับว่า หลายเมืองตามแนวชายแดนมีทั้งทุนเทา ที่เป็นจีนเทา และ ไทยเทาผสมกัน เมื่อทุนเทาจาก 2 สัญชาติมารวมกันได้สร้างอาณาจักรและสร้างปัญหาให้ประเทศไทยมากมายมหาศาล
นายรังสิมันต์ ยังมองว่า การที่ยังไม่ตัดไฟฟ้าไม่ใช่เพราะเรื่องรายได้ แต่เพราะหากตัดไปแล้วจะกระทบ ผู้มีอำนาจในประเทศไทยใช่หรือไม่ หรือว่า สุดท้ายที่ตัดไฟฟ้าไม่ได้เพราะเจอตอหรือไม่ หรือมีการไปทำลายผลประโยชน์ใคร อย่ามาอ้างเรื่องของชาวบ้าน เพราะได้รับเสียงสะท้อนมาว่า ความจริงแล้วชาวบ้านก็ไม่ได้ใช้ไฟในปริมาณมากขนาดนั้น แต่ความเป็นจริงที่ใช้กันมากที่สุดคือ กาสิโนเมียวดีคอมเพล็กซ์ซึ่งเป็นของตำรวจนายหนึ่งยศ "พล.ต.ต." เป็นข้อมูลข้อเท็จจริงที่ได้รับมา
การขายไฟลักษณะนี้มีผลอย่างยิ่งในการสนับสนุนการกระทำความผิดของแก๊งคอลเซนเตอร์และยาเสพติดซึ่งทั้ง 2 สิ่งนี้เป็นปัญหาใหญ่ของประเทศไทยและการที่นักการเมืองจะมาบอกว่าไม่รู้เรื่องนี้เป็นไปไม่ได้ แต่การไม่จัดการอาจแสดงว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่
สำหรับประเด็นเรื่องนายตำรวจยศ "พล.ต.ต." ที่มีข้อมูลเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซนเตอร์และกาสิโนดังกล่าวนั้น ในส่วนของกรรมาธิการฯ ก็มีบทบาทหน้าที่ในเรื่องของการรวบรวมข้อมูล และให้เวลารัฐบาลในการจัดการ โดยยืนยันว่า ไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้รวบรวมข้อมูลเอกสารพยานหลักฐานทั้งหมดไว้ โดยใช้กลไกของสภาดำเนินการ และอาจจะใช้กลไกอื่นด้วยหรือไม่นั้นให้รอติดตาม แต่ยืนยันว่าไม่นิ่งเฉยอย่างแน่นอน
นายรังสิมันต์ ยังระบุถึงการที่รัฐบาลประกาศนโยบายซีลชายแดน 2 ชั้น เพื่อสกัดยาเสพติดว่า เรื่องนี้ต้องอาศัยหลายปัจจัยคือ เรื่องของอำนาจคน เทคโนโลยี และใช้เงิน หากรัฐบาลจะซีลชายแดนจะต้องให้เงินทรัพยากรอำนาจและกำลังคนเพิ่มขึ้น จึงจะทำให้การซีลชายแดนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
อ่านข่าว : ชะลอส่งตัวบุคคลต่างชาติ 61 คน ให้ไทย หลัง "เมียนมา" ยังไม่อนุมัติ
เส้นทาง "ฉือ จื้อเจียง" บอสใหญ่ชเวโก๊กโก่ถึงเรือนจำไทย
"จีนหารือไทย" ปราบปรามคอลเซนเตอร์แนวชายแดนไทย