ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

สนาม อบจ.บุรีรัมย์ เดือด! "อดีตนายก" ชน "การุณ" ปชน.ส่งแต่ ส.อบจ.

การเมือง
16 ม.ค. 68
12:16
152
Logo Thai PBS
สนาม อบจ.บุรีรัมย์ เดือด! "อดีตนายก" ชน "การุณ" ปชน.ส่งแต่ ส.อบจ.
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
วิเคราะห์ เลือกตั้ง อบจ.บุรีรัมย์เดือด “ภูษิต” หลานเนวิน กลุ่ม “คนบุรีรัมย์” ปะทะ “การุณ” อดีต ส.ว.ชิงนายกฯ ขณะพรรคประชาชนขอแบ่งเค้ก ส.อบจ.

สนามการเมืองท้องถิ่นของ จ.บุรีรัมย์ โดยเฉพาะองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) บุรีรัมย์ หลังจากทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดรับสมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 23-27 ธ.ค.2567 ที่ผ่านมา ทำให้อุณหภูมิการเมืองท้องถิ่นที่ดูคงที่กลับสูงขึ้นมาอีกครั้ง

สำหรับ จ.บุรีรัมย์ มีผู้สมัครรับเลือกตั้ง อบจ.บุรีรัมย์ รวม 187 คน แต่ถูกตัดสิทธิ์รับสมัคร 3 คน เหลือผู้สมัครรับเลือกตั้ง อบจ.บุรีรัมย์ จำนวน 184 คน โดยมีผู้สมัครนายก อบจ.บุรีรัมย์ จำนวน 5 คน ถูกตัดสิทธิ์รับสมัคร 1 คน เหลือผู้สมัครนายก อบจ. 4 คน ได้แก่ หมายเลข 1 นายการุณ ใสงาม อดีต ส.ว.บุรีรัมย์, หมายเลข 2 น.ส.พิมพ์ชนก รัตนบรรณกิจ

หมายเลข 3 นายณัฐกิตติ์ ล้อประสิทธิ์ อดีตผู้สมัครนายก อบจ.บุรีรัมย์ เมื่อปี 2563 และ หมายเลข 4 นายภูษิต เล็กอุดากร อดีตนายก อบจ.บุรีรัมย์ สมัยที่ผ่านมา หลานชายของนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอล บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในนามทีมกลุ่ม “คนบุรีรัมย์”

ส่วนผู้สมัครสมาชิกสภา อบจ.บุรีรัมย์ ทั้ง 42 เขตเลือกตั้ง ใน 23 อำเภอ ของ จ.บุรีรัมย์ มีจำนวนทั้งสิ้น 182 คน ถูกตัดสิทธิ์รับสมัคร 2 คน เหลือผู้สมัครสมาชิกสภา อบจ.บุรีรัมย์ 180 คน

ได้แก่ ผู้สมัครสมาชิกสภา อบจ.บุรีรัมย์ ในนามทีมกลุ่ม “คนบุรีรัมย์” จำนวน 42 คน ส่งสมัครใน 42 เขตเลือกตั้งๆ ละ 1 คน เป็นอดีตสมาชิกสภา อบจ.บุรีรัมย์ กว่า 30 คน และผู้สมัครสมาชิกสภา อบจ.บุรีรัมย์ ในนาม “พรรคประชาชน” (ปชน.) จำนวน 9 คน ส่งสมัครใน 9 เขตเลือกตั้ง 7 อำเภอ

ส่วนที่เหลือเป็นผู้สมัครสมาชิกสภา อบจ.บุรีรัมย์ ในนามอิสระ จำนวน 129 คน ใน 42 เขตเลือกตั้ง 23 อำเภอ ซึ่งผู้สมัครส่วนใหญ่เป็นนักการเมือง อดีตสมาชิกสภา อบจ.บุรีรัมย์ เกือบทั้งหมด ข้าราชการบำนาญ ผู้ท้องถิ่น เกษตรกร และผู้นำชุมชน

โดยกำหนดวันเลือกตั้งในวันที่ 1 ก.พ. 2568 แบ่งการเลือกตั้งออกเป็น 42 เขตเลือกตั้ง 2,645 หน่วยเลือกตั้ง ใน 23 อำเภอ 2,546 หมู่บ้าน ซึ่ง กกต.ท้องถิ่นตั้งเป้ามาใช้สิทธิ์ร้อยละ 70 ส่วนจะมีผู้มาใช้สิทธิ์มากน้อยเพียงใด

หากดูภูมิหลังของผู้สมัครนายก อบจ.ทั้ง 4 คน ว่ามีดีเด่นดังอะไรบ้าง และกระแสประชาชนชาวบุรีรัมย์จะเลือกใครเข้ามาเป็นนายก อบจ. และสมาชิกสภา อบจ.บุรีรัมย์ ครั้งนี้

นายการุณ ใสงาม อดีต ส.ว.บุรีรัมย์ ผู้สมัครนายก อบจ. หมายเลข 1 ซึ่งคร่ำหวอดในแวดวงการเมืองมาตลอด และเป็นการลงชิงเก้าอี้นายก อบจ.ครั้งแรก เพราะต้องการเข้ามาเปลี่ยนแปลงการเมืองท้องถิ่น รวมถึงเข้าไปทำหน้าที่ในการปราบทุจริตในทุกรูปแบบ

เนื่องจากที่ผ่านมา ยังไม่เคยเห็นใครปราบปรามการกระทำทุจริตอย่างจริงจังเลย รวมถึงอยากเข้ามาดูแลสวัสดิการ ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนตั้งแต่เกิด แก่ เจ็บ ตาย โดยใช้งบประมาณขององค์การบริหารส่วนจังหวัด

คู่แข่งที่คาดว่าสู้กันเข้มข้นอย่าง นายภูษิต เล็กอุดากร นายก อบจ.บุรีรัมย์ สมัยที่ผ่านมา หลานชายของนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอล บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ผู้สมัครนายก อบจ. หมายเลข 4 ในนามทีมกลุ่ม “คนบุรีรัมย์” ขออาสามารับใช้พี่น้องประชาชนอีกครั้ง

ที่ว่ากันว่า มีฐานคะแนนแน่นในแทบทุกพื้นที่ของบุรีรัมย์ ฐานคะแนนหลักเป็นอดีตสมาชิกสภา อบจ.บุรีรัมย์ นายกเทศมนตรี และ อบต. ซึ่งการเลือกตั้งคราวที่แล้วได้คะแนน 439,547 คะแนน

นายภูษิต กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ ขอให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน และไม่รู้สึกหนักใจเพราะการเมืองต้องมีคู่แข่งอยู่แล้ว เราแข่งขันกันโดยประชาธิปไตยไม่มีอะไร ส่วนเรื่องนโยบายก็จะสานต่อนโยบายเก่าที่ได้ทำไว้ และก็จะมีการเพิ่มอีกนโยบายในเรื่องน้ำดื่ม น้ำสะอาด ของพี่น้องประชาชนชาวบุรีรัมย์

และมั่นใจจะไม่มีความรุนแรง เพราะเราหาเสียงโดยความชอบธรรม ตามระบอบประชาธิปไตยอยู่แล้ว ก็คงจะไม่มีความรุนแรงเหมือนจังหวัดอื่น บุรีรัมย์เราหาเสียงกันแบบแฮปปี้ ไม่มีการใช้ความรุนแรงแต่อย่างใด

ส่วนในตัวผู้สมัครสมาชิกสภา อบจ.บุรีรัมย์ ทั้ง 42 เขต ก็มีความมั่นใจ เนื่องจากผู้สมัครของเราแต่ละคนลงพื้นที่หนัก โดยเฉพาะช่วงที่ผ่านมา ดูแลพี่น้องประชาชนอย่างดี ส่วนจะมีพรรคการเมืองเข้ามาหาเสียงในพื้นที่หรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ แต่เราก็หาเสียงในนามของ “คนบุรีรัมย์”

ขณะที่ผู้สมัครนายก อบจ.อีก 2 คน แม้ชื่อเสียงจะไม่โด่งดัง และไม่เคยผ่านสนามการเมืองท้องถิ่นมาเลยอย่าง หมายเลข 2 น.ส.พิมพ์ชนก รัตนบรรณกิจ ผู้สมัครอิสระ ส่วนหมายเลข 3 นายณัฐกิตติ์ ล้อประสิทธิ์ อดีตผู้สมัครนายก อบจ.บุรีรัมย์ เมื่อปี 2563 ได้คะแนน 21,697 คะแนน ที่ไม่ค่อยคาดหวังอะไรมากกับการเลือกตั้งครั้งนี้ แต่ขออาสารับใช้พี่น้องชาวบุรีรัมย์ เป็นตัวเลือกใหม่ในการตัดสินใจ

หลายคนอาจมองว่า ทั้งสองคนเป็นไม้ประดับทางการเมือง แต่ผู้สมัครกลุ่มอิสระแต่ละคนก็หวังคะแนนจากพี่น้องประชาชนทั้ง 23 อำเภอ เลือกเข้าไปทำหน้าที่บริหาร อบจ.บุรีรัมย์

การเลือกตั้งครั้งนี้แม้ถูกมองว่า เป็นการแข่งขันกันระหว่าง นายภูษิต กับนายการุณ เพราะทั้งสองล้วนเป็นนักการเมืองในท้องถิ่น ที่ประชาชนในพื้นที่ต่างคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี แต่นายภูษิตก็ยังถูกมองว่า เป็นคนที่มีโอกาสดีกว่าผู้สมัครคนอื่น อย่างไรก็ตามทุกคนก็ไม่ควรประมาทเช่นกัน ทำให้สนามเลือกตั้งนี้ดูเข้มข้นขึ้นมาก

แม้ว่าทางพรรคประชาชน จะไม่ส่งผู้สมัครนายก อบจ.บุรีรัมย์ แต่ก็ส่งผู้สมัครสมาชิกสภา อบจ.บุรีรัมย์ จำนวน 9 คน ลงใน 9 เขตเลือกตั้ง 7 อำเภอ ทำให้มีการแข่งขันค่อนข้างเข้มข้นในหลายเขตเลือกตั้ง

สมาชิกสภา อบจ.บุรีรัมย์ ระหว่างผู้สมัครกลุ่มคนบุรีรัมย์ ของนายภูษิต กับผู้สมัครของพรรคประชาชน เพราะมีการแบ่งขั้วการเมืองกันอย่างชัดเจน อีกทั้งการเลือกตั้ง ส.ส.เมื่อปี 2566 ทางพรรคก้าวไกล ที่ปัจจุบันคือ พรรคประชาชน ก็มีคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ ใน จ.บุรีรัมย์ มากเป็นอันดับหนึ่งด้วย จึงขอมาเป็นตัวสอดแทรกในการแบ่งเก้าอี้สมาชิกสภา อบจ.บุรีรัมย์ ครั้งนี้

สำหรับการหาเสียงของผู้สมัครแต่ละคน เริ่มคึกคัก ทั้งผู้สมัครนายก อบจ. และสมาชิกสภา อบจ.บุรีรัมย์ พบว่า ส่วนมากจะใช้วิธีการแนะนำตัวผ่านโซเชียล และจัดทีมงานออกไปติดโปสเตอร์หาเสียงตามที่ต่าง ๆ และมีรถโฆษณาหาเสียงตระเวนไปทั่วในเขตเลือกตั้งตลอดทั้งวัน ซึ่งยอมรับว่า มีการจัดตั้งทีมงานที่ไว้ใจได้ นอกจากนี้ยังมีการลงพื้นที่ออกพบปะตามหมู่บ้าน ชุมชนเพื่อขอคะแนนเสียงอีกด้วย

สนามเลือกตั้งนายก อบจ.บุรีรัมย์ และสมาชิกสภา อบจ.บุรีรัมย์ ครั้งนี้ ถูกจับตามองเป็นพิเศษว่า จะมีการแข่งขันค่อนข้างเข้มข้น คาดว่าในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนวันเลือกตั้ง จะการส่งทีมงานเข้าไปเจาะหาผู้นำในชุมชน หมู่บ้านให้ช่วยเป็นหัวคะแนน เพื่อพยายามเจาะฐานเสียงคู่แข่งโดยอาศัยญาติพี่น้อง และผู้ใกล้ชิด แบบน้ำซึมบ่อทราย ซึ่งจะเป็นคะแนนจัดตั้งมากกว่า

ท้ายที่สุดแล้ว ผลการเลือกตั้งจะออกมาในรูปใด คงต้องรอในวันที่ 1 ก.พ.2568 นี้ จะเป็นเครื่องชี้วัดได้ว่า พี่น้องประชาชนชาวบุรีรัมย์ จะเลือกใครเป็นนายก อบจ.บุรีรัมย์ เข้ามาทำงาน และเลือกสมาชิกสภา อบจ.บุรีรัมย์ ทั้ง 42 คน เข้ามาเป็นปากเสียงในสภา อบจ.บุรีรัมย์ ครั้งนี้

รายงาน : ไทยพีบีเอส ศูนย์ข่าวภาคอีสาน

อ่านข่าว : เลือกตั้ง อบจ. 2568 "ผู้แทน - ผู้นำ" แบบไหน ที่คุณอยากเห็น

ทำไม 29 จังหวัดไม่ต้องเลือกนายก อบจ.ในวันที่ 1 ก.พ.68

เปิดรายชื่อผู้สมัครนายก อบจ. 47 จังหวัด เลือกตั้งพร้อมกัน 1 ก.พ.2568

ข่าวที่เกี่ยวข้อง