วันนี้ (20 พ.ย.2567) กระทรวงกลาโหมรัสเซีย เปิดเผยว่า ยูเครนใช้ขีปนาวุธทางยุทธวิธี ATACMS ยิงเข้าไปในภูมิภาคบรียานส์ค ที่อยู่ติดกับชายแดนยูเครนทางตอนเหนือ เมื่อช่วงเช้าวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น โดยรัสเซียยิงสกัดขีปนาวุธไว้ได้ 5 ลูก ส่วนอีก 1 ลูกทำให้เกิดความเสียหาย โดยเศษชิ้นส่วนของขีปนาวุธดังกล่าวทำให้เกิดเพลิงไหม้บริเวณสิ่งก่อสร้างทางการทหารแห่งหนึ่งในภูมิภาค
แถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมรัสเซีย ระบุว่า ขีปนาวุธนี้ถูกยิงเข้าใส่รัสเซียเมื่อเวลา 03.25 น. ของวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น แต่เจ้าหน้าที่สามารถดับไฟที่ลุกไหม้จากเศษซากขีปนาวุธได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
ข้อมูลดังกล่าวขัดแย้งกับข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ทางการสหรัฐฯ ที่ระบุว่า เบื้องต้นพบว่ารัสเซียสกัดขีปนาวุธชนิดได้เพียง 2 ลูก จากทั้งหมด 8 ลูกที่ยูเครนยิงโจมตี ซึ่งสื่อต่างประเทศหลายสำนักยังไม่ยืนยันข้อมูลนี้
ด้านกองทัพยูเครน ยืนยันข้อมูลก่อนหน้านี้ว่า สามารถโจมตีคลังสรรพาวุธในภูมิภาคดังกล่าวของรัสเซียได้สำเร็จ แต่ไม่ได้ระบุชัดเจนว่าได้ใช้ขีปนาวุธ ATACMS หรือไม่ และยังเปิดเผยด้วยว่าการโจมตีคลังสรรพาวุธดังกล่าว ที่ห่างจากชายแดนไปประมาณ 100 กิโลเมตร ทำให้เกิดการระเบิดตามมาภายหลัง 12 ครั้ง
รัสเซียประกาศตอบโต้ยูเครน
หลังจากรายงานข่าวการใช้ขีปนาวุธ ATACMS ของยูเครน ต่อมา เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ออกมากล่าวหาทางการสหรัฐฯ ว่าเป็นฝ่ายพยายามยกระดับความตึงเครียดในสงคราม หลังจากยูเครนใช้ขีปนาวุธที่สหรัฐฯ เพิ่งจะไฟเขียวให้โจมตีภูมิภาคของรัสเซีย
ลาฟรอฟ ระบุว่า เป็นไปไม่ได้ที่ยูเครนจะใช้ขีปนาวุธล้ำสมัยดังกล่าวหากไม่มีสหรัฐฯ สนับสนุน โดยเป็นสิ่งที่วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย เคยกล่าวไว้
รัสเซียจะถือว่าการยิงขีปนาวุธ ATACMS เหล่านี้ มีผู้เชี่ยวชาญด้านกลาโหมของสหรัฐฯ อยู่เบื้องหลัง และจะถือเป็นพัฒนาการใหม่ของสงครามที่ชาติตะวันตกมุ่งเป็นปรปักษ์กับรัสเซีย และรัสเซียจะตอบโต้ตามสมควร
ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นหลังจากเมื่อวานนี้ (19 พ.ย.) ทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซียอนุมัติหลักการใช้อาวุธนิวเคลียร์ที่ผ่านการแก้ไขใหม่ก่อนหน้านี้ โดยจะถือเป็นการโจมตีร่วม กรณีที่รัสเซียโจมตีรัฐที่ไม่ได้ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ แต่มีรัฐที่ครอบครองนิวเคลียร์คอยหนุนหลังอยู่ ซึ่งจะเปิดทางให้พิจารณาการตอบโต้อย่างเหมาะสมได้ต่อไป
ขณะที่ Matthew Miller โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า สหรัฐฯ ไม่เห็นถึงเหตุผลอันสมควรที่จะเปลี่ยนแปลงหลักการการใช้อาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ แต่ขอเน้นย้ำการเรียกร้องให้รัสเซียยุติท่าทีที่ก้าวร้าวและการใช้วาทกรรมอันไร้ความรับผิดชอบ ไร้การคำนึงถึงผลที่จะตามมา
ด้านเคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ วิจารณ์ท่าทีของรัสเซียเกี่ยวกับหลักการอาวุธนิวเคลียร์ในครั้งนี้ ว่า เป็นความเคลื่อนไหวและวาทกรรมที่ไร้ความรับผิดชอบ พร้อมย้ำว่าท่าทีดังกล่าวจะไม่ทำให้การสนับสนุนยูเครนของอังกฤษเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
ยูเครนรำลึกครบรอบสงคราม 1,000 วัน
ขณะที่ประชาชนจำนวนมากในกรุงเคียฟร่วมกันจุดเทียนบริเวณอนุสาวรีย์มาตุภูมิ เพื่อรำลึกครบรอบ 1,000 วัน ตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากโจมตียูเครน ทำให้ชาวยูเครนเสียชีวิตจำนวนมาก และกว่า 6,000,000 คน ต้องอพยพหนีภัยการสู้รบออกนอกประเทศ ซึ่งจำนวนประชากรยูเครนลดลงถึง 1 ใน 4 ตั้งแต่รัสเซียเริ่มเปิดฉากบุกในสงครามครั้งใหญ่ที่สุดบนภาคพื้นทวีปยุโรป นับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา
อ่านข่าว : "ไบเดน" ไฟเขียวยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลโจมตีรัสเซีย
เตือน "ไต้ฝุ่นหม่านหยี่" เข้าใกล้เกาะไหหลำ 19-20 พ.ย.นี้
จับมือครั้งสุดท้าย! ไบเดน-สี หวังความสัมพันธ์ 2 มหาอำนาจมั่นคง