เมื่อวันที่ 18 พ.ย.2567 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงมาตรการระเบิดสะพานโจร ครั้งที่ 2 ครั้งนี้เป็นการจับกุมกลุ่มชาวจีน ที่ร่วมมือกับชาวไทย เปิดบริษัทเช่าเบอร์ 02 กว่าหมื่นเลขหมาย โทรหลอกประชาชนคนไทยไปมากกว่า 700 ล้านครั้ง นอกจากนี้ยังมีการใช้เครื่องส่ง SMS ปลอม ตระเวนขับรถส่งข้อความให้ประชาชนเกือบล้านครั้งในเวลาแค่ 3 วัน
ก่อนหน้านี้ เวลาประชาชนจะระมัดระวังหมายเลขโทรเข้าที่อาจเป็นมิจฉาชีพ ก็อาจจะระวังจากเบอร์มือถือ หรือเบอร์ที่มีเครื่องหมายบวกนำหน้าที่เป็นเบอร์จากต่างประเทศ แต่พอเป็นเบอร์ 02 บางทีก็พิจารณาว่าอาจจะต้องรับเพราะอาจเป็นเบอร์คอลเซนเตอร์จริง ๆ ของบริษัท หรือหน่วยงานต่าง ๆ ที่อาจจะมีเรื่องติดต่อเข้ามา
แต่หลัง ๆ ไม่ใช่แบบนั้น เบอร์ 02 กลายเป็นเบอร์ของมิจฉาชีพ
วิธีการคือ ผู้ต้องหาชาวจีนกับชาติอื่นในอาเซียน ร่วมมือกับชาวไทย จดทะเบียนบริษัทนิติบุคคล เพื่อเช่าเบอร์ 02 จากผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ โดยใช้การทำงานผ่านระบบ SIP Trunk Solution ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่สามารถใช้โครงข่ายโทรศัพท์ประจำที่ หรือเบอร์พื้นฐาน ผ่านอินเตอร์เน็ตได้ ดังนั้นจึงไม่ติดข้อจำกัดเรื่องสถานที่ และสามารถใช้เบอร์ 02 ที่เรานึกว่าจะต้องโทรจากกรุงเทพ แต่จริง ๆ แล้วโทรมาจากชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน เข้ามาหลอกลวงคนไทยได้
เบอร์โทร 02 ที่เช่าไป รวม 11,201 เลขหมาย เช่าผ่าน 3 บริษัท ห้วงเวลาที่ใช้โทรเข้าหาคนไทย คือ มิ.ย.-ก.ค. โทรรวม 700 ล้านครั้ง คือ
- บ.หรวนหยุน อินฟอร์เมชัน จดทะเบียนเช่าไป 3,000 เลขหมาย พยายามโทรหลอกคนไทยถึงกว่า 256 ล้านครั้ง
- บ.ยูนเตี้ยนเค่อ เทคโนโลยี จดทะเบียนเช่าไป 6,000 เลขหมาย พยายามหลอกคนไทย 345 ล้านกว่าครั้ง
- บ.พรีมา เทคโนโลยี เช่าไป 2,000 กว่าเบอร์ พยายามใช้โทรหาคนไทยกว่า 128 ล้านครั้ง
เจ้าหน้าที่จับกุมผู้ต้องหาในขบวนการเบอร์ 02 ได้ 10 ราย เป็นคนไทย 9 คน และ คนสัญชาติเมียนมาอีก 1 คน โดยดำเนินคดีฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันนำข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์, ร่วมกันเป็นสมาชิกของคณะบุคคลที่ปกปิดวิธีการและมีมุ่งหมายเพื่อการมิชอบด้วยกฎหมาย (สมคบกันเป็น อั้งยี่ หรือ ซ่องโจร), สมคบกันกระทำความผิดฟอกเงิน, ร่วมกันฟอกเงินและความผิดฐานบัญชีม้า โดยขณะนี้ได้ประสานตำรวจสากล (Interpol) ในการออกหมายแดงเพื่อจับกุมตัวผู้ร่วมขบวนการชาวต่างชาติที่หลบหนีอยู่ต่างประเทศ กลับมาดำเนินคดีตามกฎหมายที่ประเทศไทยต่อไป
นั่นแค่คดีแรก ยังมีอีกคดีที่ระยะหลัง เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้รับ SMS ข้อความว่า "คุณมีคะแนน 9,000 คะแนนจะหมดอายุ รีบแลกของขวัญ" แล้วแนบลิงก์มาซึ่งนี่ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร เพราะหลาย ๆ คนคงเคยได้ SMS น่าสงสัย แต่ครั้งนี้ที่ตำรวจจับได้เพราะทางผู้ให้บริการตรวจพบความผิดปกติ
วิธีการไม่ได้ใหม่ คือคนร้ายที่เป็นชายสัญชาติจีน ใช้เครื่องส่งสัญญาณปลอม ส่ง SMS ข้อความที่ว่ามา เฉพาะช่วง 3 วัน คือระหว่าง 11-13 พ.ย. ส่งข้อความไปเกือบล้านครั้ง ผู้ให้บริการเลยรู้สึกว่ามันผิดปกติ และยังพบว่า เครื่องส่งสัญญาณที่ว่านี้ สามารถส่งข้อความได้ในรัศมีถึง 3 กม. ดังนั้นคนที่ได้รับข้อความหลอกลวงจึงมีเยอะมาก
วิธีการคือ ภายในรถจะมีเครื่องจำลองสถานีฐาน False Base Station อยู่ข้างใน มีการเชื่อมต่อกับเครื่องจ่ายไฟเคลื่อนที่ Power Station กำลังไฟ 8,000 W จำนวน 1 ตู้, เราต์เตอร์ไวไฟ จำนวน 1 ตัว และโทรศัพท์มือถืออีกจำนวน 4 เครื่อง แล้วก็วิ่งวนส่งข้อความตามเส้นทางที่มีคนพลุกพล่าน
ตำรวจแจ้ง 3 ข้อกล่าวหา คือ "ทำ มี ใช้ นำเข้า นำออก หรือค้า ซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคม โดยไม่ได้รับใบอนุญาต" , "ตั้งสถานีวิทยุคมนาคม โดยไม่ได้รับใบอนุญาต" และ "ใช้คลื่นความถี่ในการประกอบกิจการโทรคมนาคม โดยไม่ได้รับอนุญาต" กับชาวจีนที่ถูกจับกุม และอยู่ระหว่างขยายผลไปถึงตัวผู้จ้างวาน และเครือข่ายของขบวนการนี้ต่อไป
ในการแถลงไม่ได้ระบุถึงความเสียหายกับผู้เสียหาย ว่ามีใครถูกหลอกมากน้อยแค่ไหน แต่ว่าเป็นการตัดอีกหนึ่งวงจรแก๊งคอลเซนเตอร์
ซึ่งเมื่อ 4 วันก่อน ทาง DES ก็เพิ่งแถลงมูลค่าความเสียหายจากการหลอกลวงโดยมิจฉาชีพ ทั้งหลอกลงทุน หลอกทำงาน หลอกโอนเงิน หลอกซื้อสินค้า พบมูลค่าความเสียหายเฉพาะเดือน พ.ย.66 - ต.ค.67 รวม 19,000 ล้านบาท กลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด คือช่วงอายุ 20-49 ปี ช่องทางที่ถูกหลอกมากสุด คือเฟซบุ๊ก คอลเซนเตอร์ ดิ๊กต็อก เป็นต้น
อ่านข่าวอื่น :
อร่อยเต็มเปี่ยมโซเดียมเต็มคำ เตือนก่อน "ไตพัง" ปรับเปลี่ยนการกิน
ปศุสัตว์ชี้คนวางยา "แมว" ซีรีส์ดัง ไม่ใช่สัตวแพทย์ เอาผิดทารุณกรรม