พื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ: แหล่งกิจกรรมผิดกฎหมายข้ามชาติ
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เมียนมากลายเป็นศูนย์กลางของกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะหลังการรัฐประหารในปี 2021 ซึ่งส่งผลให้ระบบเศรษฐกิจของประเทศล่มสลาย และอำนาจการบังคับใช้กฎหมายของรัฐอ่อนแอลงอย่างมาก ความสับสนวุ่นวายนี้ดึงดูดกลุ่มอาชญากรข้ามชาติจากหลายประเทศ โดยเฉพาะจีน ที่ได้เข้ามาทำธุรกิจผิดกฎหมายในบริเวณชายแดนสามเหลี่ยมทองคำ ที่เชื่อมต่อกับไทยและลาว กิจกรรมที่มักเกิดขึ้นในบริเวณนี้รวมถึงการฟอกเงิน การค้ามนุษย์ และการเปิดคาสิโนเถื่อน ซึ่งการกระทำเหล่านี้มักได้รับการสนับสนุนโดยกลุ่มกองกำลังรักษาชายแดน (BGF) และกลุ่มติดอาวุธชนกลุ่มน้อยอื่น ๆ ที่มีอิทธิพลในพื้นที่ และได้รับความร่วมมือจากกองทัพเมียนมาในการควบคุมพื้นที่เหล่านี้
ความพยายามของรัฐบาลพลเรือนในการควบคุมกิจกรรมผิดกฎหมายก่อนการรัฐประหาร
ก่อนหน้าการรัฐประหาร รัฐบาลพลเรือนภายใต้การนำของอองซานซูจีได้พยายามแก้ไขปัญหาการฟอกเงินและการค้าผิดกฎหมายในเมืองต่าง ๆ ที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของกลุ่มอาชญากร โดยในเดือนมิถุนายน 2020 รัฐบาลได้จัดตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพื่อจัดการปัญหาเหล่านี้ในเมือง Shwe Kokko ของรัฐกะเหรี่ยง ซึ่งเป็นศูนย์กลางของการฟอกเงินและการพนันที่ดำเนินการโดยนักธุรกิจชาวจีน อย่างไรก็ตาม ความพยายามเหล่านี้ต้องหยุดชะงักเมื่อเกิดการรัฐประหารในปี 2021 ทำให้กิจกรรมผิดกฎหมายสามารถดำเนินการได้อย่างเสรี และยังมีการประกาศผ่านโซเชียลมีเดียเพื่อดึงดูดนักพนันและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอื่น ๆ
ความสัมพันธ์ระหว่างการค้าชายแดนและกลุ่มอิทธิพลในพื้นที่ชายแดนเมียนมา
การค้าชายแดนของเมียนมาเคยเป็นเครื่องมือสำคัญที่รัฐบาลใช้เพื่อสร้างรายได้และลดความขัดแย้งกับกลุ่มชนกลุ่มน้อย โดยให้กลุ่มติดอาวุธดูแลเส้นทางการค้าและเก็บค่าธรรมเนียมจากผู้ค้า แต่เมื่อเส้นทางการค้าชายแดนเริ่มเปิดกว้างมากขึ้นในช่วงปี 1990 การควบคุมของรัฐในเส้นทางการค้าบางเส้นก็เพิ่มขึ้น และเกิดการค้าผิดกฎหมายที่มีมูลค่ามหาศาลในพื้นที่ต่าง ๆ เช่น แม่สายและแม่สอด ซึ่งเชื่อมต่อกับรัฐกะเหรี่ยงของเมียนมา นอกจากนี้ยังมีการฟอกเงินจากการค้ายาเสพติดที่แฝงอยู่ในระบบการค้าของชายแดน
บทบาทของกลุ่มติดอาวุธและกองทัพในเศรษฐกิจเมียนมาช่วงสงครามเย็น
ในช่วงสงครามเย็น เศรษฐกิจของเมียนมาเคยถูกควบคุมโดยกลุ่มติดอาวุธที่เก็บภาษีจากผู้ค้าสินค้าผิดกฎหมาย และกลุ่มติดอาวุธเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มชนกลุ่มน้อยที่มีเป้าหมายสร้างอำนาจอิสระจากรัฐ การเข้ามาของรัฐบาลทหารในช่วงปี 1990 ส่งผลให้รัฐเริ่มเข้ามามีอิทธิพลในเส้นทางการค้าหลายเส้น และแม้การเปิดเสรีทางเศรษฐกิจจะทำให้กิจกรรมการลักลอบนำเข้าสินค้าลดลงอย่างมาก แต่ในช่วงหลังมานี้ กิจกรรมผิดกฎหมายเริ่มกลับมาอีกครั้งเนื่องจากความขัดแย้งในประเทศ
สถานการณ์ปัจจุบันและความท้าทายในการควบคุมการค้าชายแดนในเมียนมา
ปัจจุบันการค้าชายแดนของเมียนมาถูกควบคุมอย่างไม่เป็นระบบ ด้วยความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างกองทัพและกลุ่มติดอาวุธในพื้นที่ชายแดน แม้ว่ารัฐบาลจะพยายามควบคุมการค้าผิดกฎหมาย แต่ความไม่เป็นระเบียบและความอ่อนแอของอำนาจรัฐทำให้กลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติมีพื้นที่ทำงานและสร้างเครือข่ายอย่างมั่นคง
รายงาน:ทีมศูนย์ข่าวภาคเหนือ