วันนี้ (1 พ.ย.2567) พล.ต.ต.ธวัช วงศ์สง่า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วยนายกิตติกร ตันเปาว์ รองผู้ว่าการ (วิศวกรรมและก่อสร้าง) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ในฐานะผู้อำนวยการโครงการรถไฟฟ้าสาสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ - ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ร่วมแถลงข่าวการจัดการจราจรเพื่อดำเนินงานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ - ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ สร้างรับรู้ให้แก่ประชาชนก่อนเริ่มดำเนินงานก่อสร้างโครงการฯ
นายกิตติกร ตันเปาว์ รองผู้ว่าการ (วิศวกรรมและก่อสร้าง) รฟม. ในฐานะผู้อำนวยการ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ - ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า รฟม. ได้เร่งรัดดำเนินงาน โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มฯ เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม เพื่อส่งมอบการเดินทางที่สะดวกสบายให้แก่ประชาชนโดยเร็ว
ซึ่ง รฟม. ได้แจ้งให้ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ร่วมลงทุนเริ่มงานเมื่อวันที่ 31 ก.ค.2567 โดยปัจจุบัน บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้รับจ้างของผู้ร่วมลงทุน มีกำหนดจะเริ่มเบี่ยงจราจรในบริเวณพื้นที่ก่อสร้าง 5 สถานีแรก ตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย.2567 เวลา 22.00 น. เป็นต้นไป ได้แก่
- สถานีบางขุนนนท์
- สถานีศิริราช
- สถานีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
- สถานียมราช
- สถานีประตูน้ำ
เพื่อดำเนินงานรื้อย้ายสาธารณูปโภคเป็นลำดับแรก โดยจะดำเนินการปิดเบี่ยงจราจราจร ชิดทางเท้า 1 ช่องจราจร ยกเว้นสถานีศิริราช จะเป็นการจัดการจราจรในพื้นที่ก่อสร้างที่ไม่ส่งผลกระทบต่อช่องจราจร สำหรับสถานีส่วนที่เหลือจะดำเนินการปิดเบี่ยงจราจรในช่วงปลายเดือน พ.ย.2567
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากพื้นที่ก่อสร้างโครงการฯ มีสภาพการจราจรที่ค่อนข้างหนาแน่นและมีชุมชน โรงเรียนโดยรอบ รฟม. และผู้รับจ้างก่อสร้างงานโยธา จึงได้ประสานขอความร่วมมือจากตำรวจนครบาลและสถานีตำรวจในพื้นที่เพื่อหามาตรการร่วมกันในการลดผลกระทบต่อผู้ใช้เส้นทางตลอดระยะเวลาการดำเนินงาน
พร้อมกันนี้ รฟม. ยังตระหนักถึงผลกระทบในระหว่างการดำเนินงานก่อสร้างโครงการฯ จึงได้กำชับให้ผู้รับจ้างลดผลกระทบด้านการจราจร โดยดำเนินการปิดเบี่ยงจราจรเท่าที่จำเป็นในระหว่างดำเนินงาน ติดตั้งป้ายและเครื่องหมายจราจรให้มีความชัดเจนเป็นไปตามมาตรฐาน จัดให้มีอาสาจราจรบริเวณพื้นที่ก่อสร้างแต่ละจุดเพื่อช่วยอำนวยความสะดวก โดยจะประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบล่วงหน้าทางช่องทางต่างๆ
ตลอดจนการดำเนินงานตามมาตรการลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง เช่น ฝุ่นละออง PM 2.5 โดยการติดตั้งรั้วสูง 2 เมตร ล้อมรอบพื้นที่ก่อสร้าง ปิดคลุมกองวัสดุก่อสร้าง/กระบะรถบรรทุกล้างทำความสะอาดถนนสาธารณะสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง ใช้รถกวาดดูดฝุ่นทุกวัน ติดตั้งระบบฉีดพ่นละอองน้ำแรงดันสูง (High Pressure Water System) ทำความสะอาดล้อรถก่อนออกจากพื้นที่ก่อสร้าง ตรวจสอบสภาพเครื่องจักรให้อยู่ในสภาพดี ติดตั้งกำแพงกันเสียงชั่วคราวในพื้นที่ที่กำหนด เป็นต้น
ทั้งนี้ ในช่วงก่อสร้าง รฟม. จะเน้นย้ำกำชับที่ปรึกษาและผู้รับจ้าง ให้ดำเนินการก่อสร้างด้วยความปลอดภัยสูงสุด ตามนโยบายด้านความปลอดดภัยของกระทรวงคมนาคมอย่างเคร่งครัด
พล.ต.ต.ธวัช วงศ์สง่า รอง ผบช.น. กล่าวว่า รฟม. และผู้รับจ้างฯ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มฯ ได้นำเสนอแผนการจัดจราจรและหารือแนวทางการปิดเบี่ยงจราจรกับ บช.น. และสถานีตำรวจในพื้นที่ เพื่อบริหารและจัดการจราจรให้มีประสิทธิภาพมากที่สุดในช่วงระหว่างดำเนินงาน โดยจะมีการพิจารณามาตรการบรรเทาความหนาแน่นด้านการจราจรในช่วงเวลาเร่งด่วนเพิ่มเติมในบริเวณพื้นที่ที่มีการจราจรหนาแน่น เช่น การปรับทิศทางการสัญจรเป็นพิเศษในบางช่วงเวลา การกำหนดทางลัดทางเลี่ยงเพื่อเป็นทางเลือกในการเดินทางและช่วยระบายการจราจร บรรเทาผลกระทบที่จะเกิดขึ้น
นอกจากนี้ ในระหว่างการดำเนินงานปิดเบี่ยงจราจร จะมีการจัดสรรกำลังเจ้าหน้าที่ ตำรวจจจราจร พร้อมด้วยอาสาจราจรของผู้รับจ้างฯ เพื่อร่วมกันอำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้กับประชาชนที่ใช้เส้นทาง รวมถึงจะร่วมกันเฝ้าระวังและประเมินสถานการณ์ตลอดระยะเวลาการดำเนินงาน ทั้งนี้ ในการพิจารณาจัดรูปแบบการจราจรต่างๆ ในระหว่างดำเนินงานก่อสร้าง ตำรวจจราจรจะพิจารณาโดยมุ่งลดผลกระทบต่อประชาชนผู้สัญจรทางถนนเป็นสำคัญ
สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ส่วนตะวันตก ช่วงบางขุนนนท์ - ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยมีระยะทาง 13.4 กิโลเมตร จำนวน 11 สถานี (สถานีใต้ดินตลอดสาย) มีความก้าวหน้าการก่อสร้างงานโยธาของโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มฯ ในภาพรวม ณ สิ้นเดือน ต.ค.2567 ร้อยละ 1.90 โดยเป็นไปตามแผนงาน
อ่านข่าว :
“พาณิชย์” ปูพรมตรวจห้าง-ตลาดสด ย้ำ น้ำมันปาล์มขวด ไม่ขาดตลาด