ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ทนายเข้าเยี่ยม "พอล" รับมอบอำนาจฟ้องผู้กล่าวหาปมโอนเงินคริปโต

อาชญากรรม
25 ต.ค. 67
11:27
223
Logo Thai PBS
ทนายเข้าเยี่ยม "พอล" รับมอบอำนาจฟ้องผู้กล่าวหาปมโอนเงินคริปโต
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ทนาย "พอล" เยี่ยมลูกความเซ็นมอบอำนาจดำเนินคดีผู้กล่าวหาปมโอนเงินคริปโต และกรณีคลิปเสียง เตรียมฟ้องกลับทนายตั้ม ปมเงิน 7 ล้านบาท

วันนี้ (25 ต.ค.2567) นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล (บอสพอล) ผู้ต้องหาในคดีบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า วันนี้จะเข้าพบนายวรัตน์พล เพื่อนำเอกสารให้ลูกความลงนามมอบอำนาจให้ตนเองตรวจสอบและพิจารณาที่จะดำเนินคดีกับผู้ก่อตั้งเพจเฟซบุ๊กและพยานเท็จ (เอกภพ) ที่อ้างว่าเป็นคนสนิทใกล้ชิดกับนายพอล และนำข้อมูลว่า นายวรัตน์พลเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลหรือคริปโต ซึ่งตำรวจได้ออกมายืนยันแล้วว่า ข้อมูลดังกล่าวจากบุคคลนี้เชื่อถือไม่ได้

นายวิฑูรย์ ยังกล่าวว่า จะรวบรวมข้อมูลเพื่อดำเนินคดีกับทนายความคนหนึ่งซึ่งเป็นหนึ่งในทนายดรีมทีม เพราะก่อนหน้าที่กลุ่มผู้บริหาร ของ บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จะถูกจับกุมทนายคนดังกล่าวได้โทรศัพท์ไปหานายวรัตน์พลเพื่อเจรจาต่อรองให้จ่ายเงิน 7 ล้านบาท เพื่อแลกกับการที่จะไม่นำผู้เสียหายกลุ่มนี้ไปแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งตนเองจะใช้เอกสารมอบอำนาจของนายวรัตน์พลเตรียมไปดำเนินคดีแจ้งความกลับ

ส่วนการยื่นขอประกันตัวชั่วคราวนายวรัตน์พล และผู้ต้องหาอีก 10 คน จะยังไม่เกิดขึ้นภายในสิ้นเดือน ต.ค.นี้อย่างแน่นอน เพราะจะขอใช้เวลาพิจารณาเอกสารพยานหลักฐานสำหรับการต่อสู้คดี

สำหรับการเยี่ยมญาติของแม่นายวรัตน์พล เมื่อวานที่ผ่านมา (24 ต.ค.) เบื้องต้น ตนเองยังไม่ได้คุยกับญาติของนายวรัตน์พลแต่ส่วนใหญ่เท่าที่เคยได้พูดคุยกับแม่ของนายวรัตน์พลที่ได้โทรศัพท์มาสอบถามว่า ตนเองจะยื่นประกันตัวชั่วคราวนายวรัตน์พลช่วงใด ซึ่งตนเองได้อธิบายแนวทางการทำงานทั้งหมดให้ฟังมาโดยตลอด

ส่วนกรณีที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ได้มีการโพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊กพร้อมระบุให้ฝั่งตนเองเปิดคลิปเสียงสนทนาเรื่องที่อ้างว่ามี 1 ในทนายดรีมทีมเรียกรับเงิน 7 ล้านบาทว่า เป็นการเรียกรับเงินหรือให้นำเงินมาคืนผู้เสียหายนั้น

นายวิฑูรย์ เปิดเผยว่า การโพสต์เฟซบุ๊กเช่นนั้น ถือเป็นเรื่องดีเพราะคลิปเสียงใช้ในชั้นศาลไม่ได้ แต่การโพสต์จะช่วยทำให้ตัวเองตรวจสอบได้ว่า ผู้เสียหายของนายษิทรามีความเสียหายเกิดขึ้น 7 ล้านบาทจริง หรือกลุ่มคนเหล่านั้นคือผู้เสียหายจริงหรือไม่

สิ่งที่ตัวเองจะทำอันดับแรก คือ การไปตรวจสอบกลุ่มผู้เสียหายที่นายษิทรา กล่าวอ้างก่อนว่าเป็นกลุ่มเปราะบางจริงหรือไม่ และมีจำนวนมากพอสอดคล้องไปกับยอดเงิน 7 ล้านบาทจริงหรือไม่

ส่วนจะนำคลิปเสียงสนทนาเรื่องเจรจาเงิน 7 ล้านบาทไปมอบให้กับตำรวจหรือไม่นั้น เบื้องต้นนายวิฑูรย์ ระบุว่า ขอพิจารณาหลักฐานแวดล้อมทั้งหมดก่อนเพราะศาลไม่ได้รับฟังเรื่องคลิปเสียง

ส่วนการหารือปรึกษากับทนายความคนอื่น ๆ นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างหารือแนวทางการต่อสู้คดี โดยล่าสุด ทราบว่านายชูชาติ กันภัย ทนายความของ น.ส.พีชญา วัฒนามนตรี (มิน) และนายยุรนันท์ ภมรมนตรี (แซม) ยังไม่มีความประสงค์จะยื่นประกันตัวชั่วคราวเหมือนกัน

ด้าน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยว่า ในวันนี้จะมีพนักงานสอบสวนเดินทางมาสอบปากคำผู้ต้องขังบางส่วน ในประเด็นที่ต้องสอบเพิ่มเติมเกี่ยวกับคดี แต่ไม่ขอตอบในรายละเอียดเนื่องจากอยู่ในสำนวนการสืบสวนสอบสวน ซึ่งเมื่อเวลาประมาณ 10.35 น. ได้มีตำรวจจากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางเดินทางมาที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครเพื่อสอบปากคำกลุ่มผู้ต้องหา

ส่วน พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยหลังเมื่อวานนี้ (24 ต.ค.2567) ดีเอสไอรับคดีฟอกเงินของบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป เป็นคดีพิเศษเลขที่ 115/2567 ว่า ขณะนี้ยังไม่มีการเข้ามาสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 18 คนภายในเรือนจำ เพราะอยู่ระหว่างมอบหมายงาน รวบรวมพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงจากตำรวจสอบสวนกลางและตรวจสอบเส้นทางการเงิน

ล่าสุดเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการทำงาน ส่วนบรรยากาศที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ยังไม่มีตำรวจสอบสวนกลางเดินทางเข้ามา หลังมีการเตรียมที่จะเข้ามาสอบปากคำบอสพอลเพิ่มเติม กรณีคลิปเสียง

อ่านข่าว : ผู้เสียหายคดี "ดิไอคอน" พุ่ง 8,137 คน ความเสียหาย 2,412 ล้าน 

"กฤษอนงค์" ยื่นหลักฐานการเงินแจงปมเรียกรับเงิน "บอสพอล"

"ดีเอสไอ" รับความผิดฟอกเงิน "ดิไอคอน" เป็นคดีพิเศษ 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง