วันนี้ (14 ต.ค.2567) ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) แจ้งความคืบหน้าการดำเนินการคดี ดิไอคอนกรุ๊ป ณ 14 ต.ค.2567
ยอดผู้เสียหาย หลอกลวงลงทุน ของ "บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป" ที่มาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ณ ห้องประชุม ชั้น 2 อาคารประชาอารักษ์ กองบังคับการปราบปราม วันที่ 10 – 13 ต.ค. 2567 มีดังนี้
1.วันที่ 10 ตุลาคม 2567 ผู้เสียหายที่สอบปากคำแล้ว จำนวน 91 คน มูลค่าความเสียหาย 35.4 ล้านบาทเศษ
2.วันที่ 11 ตุลาคม 2567 ผู้เสียหายที่สอบปากคำแล้ว จำนวน 148 คน มูลค่าความเสียหาย 54.7 ล้านบาทเศษ
3.วันที่ 12 ตุลาคม 2567 ผู้เสียหายที่สอบปากคำแล้ว จำนวน 198 คน มูลค่าความเสียหาย 71.9 ล้านบาทเศษ
4.วันที่ 13 ตุลาคม 2567 ผู้เสียหายที่สอบปากคำแล้ว จำนวน 198 คน มูลค่าความเสียหาย 70.4 ล้านบาทเศษ
รวมยอดผู้เสียหายที่สอบปากคำแล้ว ระหว่างวันที่ 10 – 13 ต.ค.2567 จำนวน 635 คน มูลค่าความเสียหายรวม 232.4 ล้านบาทเศษ
ทั้งนี้ จำนวนผู้เสียหายและความเสียหายรวม อาจไม่ตรงกับที่ได้มีการแจ้งข้อมูลไปก่อนหน้านี้ เนื่องจากตรวจสอบแล้ว ผู้เสียหายบางรายขอเดินทางกลับไปแจ้งที่ภูมิลำเนา จึงมีการปรับปรุงตัวเลข ซึ่งขณะนี้คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนเตรียมรับมอบคำให้การจากสถานีตำรวจทั่วประเทศเพื่อมาประกอบข้อมูลของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ที่คาดว่าจะส่งมาถึงในวันเปิดทำการวันอังคารที่ 15 ต.ค.นี้
ขณะที่เมื่อวันที่ 13 ต.ค. คณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ได้เข้าตรวจสอบบริษัทเป้าหมายเพื่อจัดเก็บข้อมูลจากเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่าย (Server) ของบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป จำกัด และ บริษัทในเครือ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการตรวจสอบวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อหาความเชื่อมโยงทางคดี
ส่วนวันนี้ (14 ต.ค.) กรรชัย กำเนิดพลอย และ กัน จอมพลัง เดินทางมาที่ศูนย์รับแจ้งเหตุการหลอกลงทุนฯ โดยพาผู้เสียหายมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน และประชาสัมพันธ์ให้ผู้เสียหายเข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มขึ้นเพื่อเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ทั้งนี้ บอย ปกรณ์ เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ประกาศจุดยืนชัดเจนพร้อมจะอยู่ฝั่งผู้เสียหาย และจะรวมผู้เสียหายในส่วนของคุณบอยมาให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนด้วย
อ่านข่าว : "สามารถ" ยืนยันไม่ใช่เสียงตัวเอง คลิป "บอสพอล" คุยนักการเมือง
นอกจากนี้ ในส่วนของผู้แทนแพทยสภา ได้เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวน กรณี นายฐานานนท์ หรือ "บอสหมอเอก" ดิไอคอน กรุ๊ป อ้างตนเป็นแพทย์ แต่พบว่าเป็นนักประกอบวิชาชีพเทคนิคการแพทย์ และใบประกอบวิชาชีพเทคนิคการแพทย์หมดอายุ ซึ่งจากการตรวจสอบรายชื่อแพทย์จากฐานข้อมูลแพทยสภา พบว่า บอสหมอเอก ไม่ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรมแต่อย่างใด โดยต่อจากนี้ทางคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนจะดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐาน และออกหมายเรียกมาดำเนินคดีในความผิดที่เกี่ยวข้องต่อไป
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย บก.ปคบ. ตลอดจนคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนทุกนาย อยู่ระหว่างเร่งรัดการรวบรวมข้อมูลทั้งจากการสอบปากคำผู้เสียหาย ข้อมูลจากฝ่ายสืบสวน และข้อมูลจากวัตถุพยานต่าง ๆ และเมื่อได้รับการสอบปากคำผู้เสียหายจากสถานีตำรวจทั่วประเทศแล้ว จะรีบดำเนินการและแถลงความคืบหน้าในครั้งต่อไป
ทั้งนี้ ขอแจ้งประชาสัมพันธ์กรณีมีข้อสงสัย ต้องการแจ้งเบาะแส ปรึกษาหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับ กรณีการขายตรงของ บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป และ กรณีหลอกลวงขายทองรูปพรรณ ของ น.ส.กรกนก-นายกานต์พล สามารถโทรสอบถามได้ที่ สายด่วน 1599
อ่านข่าว : "บอย ปกรณ์" ยอมรับรู้สึกผิดที่มีส่วนทำให้มีผู้เดือดร้อนปม "ดิไอคอนกรุ๊ป"
