“จีน-เมียนมาร์” แชมป์ซื้อห้องชุด กทม.-ชลบุรี ครองใจต่างชาติ

เศรษฐกิจ
19 ก.ย. 67
17:56
127
Logo Thai PBS
“จีน-เมียนมาร์” แชมป์ซื้อห้องชุด กทม.-ชลบุรี ครองใจต่างชาติ
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เผย ยอดโอนห้องชุด 6 เดือน “จีน-เมียนมาร์” แชมป์ซื้อห้องชุด ขณะที่พื้นที่กรุงเทพและชลบุรียังครองใจนักลงทุน หลังรัฐบาลเล็งให้สามารถเช่าอสังหาฯในไทยระยะยาวได้ถึง 99 ปีหวังดึงกำลังซื้อฟื้น

วันนี้ (19 ก.ย.2567) นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยถึงสถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติทั่วประเทศ ในไตรมาส 2 ปี 2567 พบว่า ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2567 (ม.ค.-มิ.ย.) ชาวจีนเป็นสัญชาติที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดมากที่สุดทั่วประเทศโดยมีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้ผู้ซื้อสัญชาติจีนไปแล้วทั้งหมด 2,872 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนที่สูงถึง 39.5 % ของหน่วยทั้งหมด มูลค่า13,203 ล้านบาท

นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์

นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์

นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์

รองลงมา พม่า จำนวน 638 หน่วย คิดเป็นสัดส่วน 8.8 % มูลค่า3,240 ล้านบาท รัสเซีย จำนวน 567 หน่วย คิดเป็นสัดส่วน 7.8 % มูลค่า1,874 ล้านบาท ไต้หวัน จำนวน 326 หน่วย คิดเป็นสัดส่วน 4.5 % มูลค่า1,592 ล้านบาท และ สหรัฐอเมริกา จำนวน 292 หน่วย หรือ 4.0% มูลค่า1,580 ล้านบาท

สำหรับขนาดและราคาห้องชุดเฉลี่ย พบว่า ห้องชุดที่ชาวต่างชาติโอนกรรมสิทธิ์ มีขนาดเฉลี่ย 44.7 ตารางเมตร มูลค่าเฉลี่ย 4.5 ล้านบาท/หน่วย หรือประมาณตารางเมตรละ 101,123 บาท พบว่า อินเดีย เป็นสัญชาติที่มีทั้งมูลค่าการโอนต่อหน่วยและขนาดห้องใหญ่ที่สุด เฉลี่ย 6.0 ล้านบาทต่อหน่วย และขนาดห้องเฉลี่ย 71.3 ตารางเมตร

ส่วนผู้ซื้อสัญชาติจีนซึ่งเป็นสัญชาติที่มีสัดส่วนการโอนห้องชุดมากที่สุด มูลค่าการโอนเฉลี่ย 4.6 ล้านบาทต่อหน่วย และพื้นที่ห้องชุดเฉลี่ย 39.4 ตารางเมตร

โดยจังหวัดที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดคนต่างชาติสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ชลบุรี กรุงเทพฯ ภูเก็ต เชียงใหม่ และสมุทรปราการ ตามลำดับ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ใน 2 จังหวัดแรก คือ ชลบุรี มีจำนวน 2,792 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 38.4 และกรุงเทพฯ จำนวน 2,651 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 36.4

ทั้งนี้ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (REIC) รายงานในครึ่งแรกปี 2567 ภาครัฐได้เห็นถึงโอกาสและแนวทางที่จะนำกำลังซื้อจากชาวต่างชาติเข้ามาทดแทนกำลังซื้อที่อ่อนแอของคนไทย และยังเป็นการช่วยกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์และเศรษฐกิจในระดับมหภาคของประเทศ รวมถึงดึงดูดนักลงทุนขนาดใหญ่ให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทยอีกด้วย

โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ของมาตรการที่จะส่งเสริมการเข้ามาทำงานของชาวต่างชาติที่มีศักยภาพ ทั้งในส่วนของอาคารชุดที่เน้นการเพิ่มสัดส่วนการถือครองกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติเป็นร้อยละ 75 ของพื้นที่กรรมสิทธิ์ รวมถึงความเป็นไปได้ในการเปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติสามารถเช่าอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยระยะยาวได้ถึง 99 ปี

อ่านข่าว:

พิษน้ำท่วม ฉุดดัชนีเชื่อมั่นอุตฯลด จี้รัฐออกมาตรการเยียวยาธุรกิจ

"พิพัฒน์" เดินหน้าขึ้นค่าแรง 400 เร่งสรุปมาตรการเยียวยานายจ้าง

สภาอุตฯ ชี้ดัชนีเชื่อมั่นปรับตัวลดลง ชงรัฐบาล ปรับค่าจ้างให้เหมาะสมตาม “ฝีมือ”

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง