วันนี้ (16 ส.ค.2567) นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยกับ "ไทยพีบีเอสออนไลน์" ว่า หลังน.ส.แพทองธาร ชินวัตร ได้รับการโหวตให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 แทนนายเศรษฐา ทวีสิน ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสิทธิให้พ้นจากความเป็นนายกรัฐมนตรี ทางภาคเอกชนยอมรับว่าน.ส.แพทองธาร มีความสดใหม่ และภาพลักษณ์ของคนรุ่นใหม่ ในยุคนี้การมีนายกรัฐมนตรีที่อายุยังน้อย เป็นที่ยอมรับของทั่วโลกมากขึ้น เพราะในต่างประเทศก็มีนายกรัฐมนตรีที่อายุน้อยและเป็นผู้หญิง ดังนั้นคงไม่ใช่ปัญหาในการเข้ามาบริหารประเทศ
นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานกรรมการหอการค้าไทย
สำคัญอยู่ที่ว่า คนรอบข้างที่อยู่ข้างนายกรัฐมนตรีมากกว่า แต่เชื่อว่าทีมที่ปรึกษามีความแข็งแรงไม่น่าห่วง จากเท่าที่ดูไม่ว่าจะเป็นฝ่ายการเมือง หรือเศรษฐกิจ มีทีมที่ค่อนข้างพร้อมในการทำงาน
นายวิศิษฐ์ กล่าวอีกว่า การได้นายกฯเร็ว ถือเป็นประโยชน์กับภาพลักษณ์ของประเทศไทยที่มีความต่อเนื่อง และปัญหาด้านสุญญากาศที่หลายฝ่ายกังวล ถือว่า เบาลง ส่วนเหลือก็คือการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งเชื่อว่าไม่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงมาก เนื่องจากพรรคร่วมรัฐบาลก็ยังเหมือนเดิม
กระบวนการหลังจากนี้ น่าจะมีความรวดเร็ว รอเพียงการโปรดเกล้าฯซึ่งก็คงไม่นาน ถ้าไม่ได้มีการสลับขั้วก็ไม่น่าเป็นห่วง ยิ่งเร็วก็เป็นเรื่องที่ดีที่สุด เพราะความชัดเจนเรื่องนโยบายต่างๆ และตัวรัฐมนตรีก็อยู่ครบน่าจะมีการประกาศนโยบายใหญ่ๆให้ประชาชนรับทราบ
ส่วนความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนในตลาดทุนหรือจะมาแบบลงทุนโดยตรง มั่นใจว่าการลงทุนเดินหน้าต่อ เอกชนยังคงมองนายกรัฐมนตรีคนรุ่นใหม่เป็นภาพบวก
รองประธานหอการค้า กล่าวอีกว่า การที่ได้นายกฯที่มีอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ ถือเป็นสีสันเชื่อว่าทำงานได้ เพราะมีพื้นฐานมาจากครอบครัวที่อยู่ในฐานการเมืองอยู่แล้วและการศึกษาก็ถือว่าดีมากมีความรู้ดี หลายๆคนอาจจะพูดถึงอายุ ก็ต้องยอมรับว่าคนรุ่นใหม่ เข้ามามีบทบาทเรื่องการเมืองรวมถึงภาคทำธุรกิจที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุน้อยมากขึ้น
เราต้องให้โอกาสในการพิสูจน์ แต่เชื่อมั่นว่าจะสามารถฝ่าฟันเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังไปได้อย่างแน่นอน และไม่ว่าใครมาเป็นนายกฯปัญหาใหญ่ที่สุดก็คือเศรษฐกิจต้องเจอทุกคน
รองประธานหอการค้า กล่าวอีกว่า การที่ประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรีที่อายุยังน้อย ประสบการณ์ทางการเมืองยังไม่มากอาจะทำให้ความเชื่อมั่นในการลงทุนลดลง ส่วนตัวมองว่าไม่น่าจะกระทบเพราะต่างชาติที่มองเข้ามา มี 2 รูปแบบ หากมองในเชิงของการลงทุน นักลงทุนจะมองในเรื่องนโยบายของรัฐบาลเป็นหลัก การส่งเสริมการลงทุนอย่างไร แข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านได้หรือไม่ ตัวนายกรัฐมนตรีเองมีหน้าที่แค่ขึ้นนำ พาเรื่องนโยบายที่ตกลงกันแล้วไปประกาศเชิญชวนทุกคนและส่งเสริมให้สนับสนุนเดินต่อ
แต่หากมองในแง่การเมืองเชื่อว่าจะผ่านไปได้ด้วยดีเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นตั้งแต่ศาลรัฐธรรมนูญประกาศให้อดีตนายกฯ เศรษฐา หลุดจากตำแหน่ง รวมถึงการเลือกนายกฯคนใหม่เป็นไปตามครรลองประชาธิปไตยและเป็นไปตามรัฐธรรมนูญใหม่ที่ถูกต้อง เดินมาอย่างถูกต้องทุกอย่างไม่น่าจะมีปัญหาและเกิดการยอมรับได้ง่าย
นายวิศิษฐ์ กล่าวถึงโครงการดิจิทัลวอลเล็ต หากจะต้องล้มไป จะไม่กระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่อยากให้กังวล เพราะอาจจะมีทั้งสองทาง คือ ไปต่อหรือไม่ไปต่อ ในกรณีที่ไปต่อก็คงเหมือนเดิม แต่หากไม่ไปต่อก็น่าจะมีมาตรการอื่นๆ เช่น มาตรการทางการเงินการคลังต่างๆมีเครื่องมืออีกหลายตัวที่ทำได้ อาจจะไม่ใช้ชื่อดิจิทัลวอลเล็ตที่จะมาส่งเสริมให้เศรษฐกิจหมุนเวียนขึ้น ก็มีอีกหลายเครื่องมือมีโอกาสทำได้แน่นอน
ถือเป็นการผลัดใบรุ่นเก่าสู่รุ่นใหม่อาจจะได้เห็นเรื่องใหม่ๆ คนรุ่นใหม่ๆออกมาทำงานทำหน้าที่ให้ประเทศชาติบ้าง Soft Power ก็จะถือเป็นภาพของนายกรัฐมนตรีคนใหม่ นาทีนี้ใครก็ได้ขอให้ต่อเนื่องมีเสถียรภาพ การเมืองนิ่งๆ เพราะเราเจอเรื่องจากภายนอกเยอะมากอยู่แล้ว
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานคณะกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานคณะกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า หอการค้าไทย หลังจากน.ส.แพทองธาร ชินวัตร ได้รับความไว้วางใจจากสภาผู้แทนราษฎร ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 มุมมองของหอการค้าไทย ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี ที่สภาฯ สามารถมีมติเห็นชอบ ได้ เสนอชื่อ นายกรัฐมนตรี อย่างรวดเร็ว ซึ่งหลังจากนี้เป็นขั้นตอนของการนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ การแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี และการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งหลังจากจบกระบวนการตามกฎหมายแล้วเสร็จ จะเป็นส่วนช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กลับมาได้อย่างรวดเร็ว
สำหรับมุมมองเศรษฐกิจไทยในระยะสั้นยังต้องการการฟื้นตัวอย่างเร่งด่วน ดังนี้ รักษาเสถียรภาพของค่าเงินบาทให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ไม่แข็งค่ามากเกินไป ซึ่งจะเอื้อต่อภาคการส่งออก โดยเฉพาะสินค้าเกษตร และช่วยสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวให้เติบโตต่อเนื่อง
รวมถึงการรักษาโมเมนตัมภาคการท่องเที่ยว โดยเฉลี่ยนักท่องเที่ยวเข้ามาเดือนละ 3 ล้านคน โดยภาคเอกชนต้องการให้มีการผลักดันและอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยว รวมไปถึงการดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวและการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวและบริการ เพื่อให้นักท่องเที่ยวปีนี้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 36-37 ล้านคน
ขณะเดียวกัน ควรณรงค์ เมืองน่าเที่ยว อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การท่องเที่ยวโดดเด่นและเกิดการกระจายตัว กระจายรายได้จากแหล่งท่องเที่ยวเมืองหลักไปสู่เมืองน่าเที่ยว รวมถึงเดินหน้าแผนการกระจายการลงทุนไปจังหวัดนำร่อง 10 จังหวัด ที่หอการค้าฯ ได้ทำร่วมมาช่วงก่อนหน้านี้ต่อ
นอกจากนี้ การเดินหน้ารุกตลาดต่างประเทศ เพื่อให้การส่งออกของไทยให้ขยายตัวได้ในช่วงที่เหลือไม่ต่ำกว่า 2% ต่อเนื่องจากที่ช่วงก่อนหน้านี้ไปเชิญชวน ให้มีการเจรจาและเชิญหลายบริษัทมาลงทุนที่ประเทศไทย
นายสนั่น กล่าวอีกว่า การเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 67 ให้กระจายไปทุกภูมิภาค ถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวอย่างเด่นชัด และควรเร่งจัดทำงบประมาณปี 68 ให้เสร็จสิ้นตามกระบวนการหรือในกรอบระยะเวลาที่กำหนด เพื่อไม่ให้ยืดเยื้อในปีที่ผ่านมา
รวมถึงการแก้ไขปัญหาปากท้องประชาชน ทั้งมาตราการเยียวยาและการกระตุ้นเศรษฐกิจถือเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่ง รวมถึง มาตรการปกป้องและช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยที่ได้รับความเดือดร้อนจากสินค้านำเข้าที่ทะลักเข้ามาในประเทศ โดยเฉพาะสินค้าจากจีน
พรรคร่วมรัฐบาลจำเป็นต้องทำงานร่วมกันอย่างมีเอกภาพ เพื่อให้การเมืองไทยมีเสถียรภาพ สร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการเข้ามาลงทุนจากต่างประเทศ แต่ต้องรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะภาคเอกชนที่เป็นตัวจริงด้านการค้า และขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน ซึ่งเราเองก็มีหอการค้าในทุกจังหวัดที่พร้อมจะทำงานสนับสนุนร่วมกันกับภาครัฐ
ทั้งนี้ สิ่งที่ภาคเอกชนเห็นคือการที่มีนายกรัฐมนตรีได้เร็วทำให้ประเทศไม่เกิดสุญญากาศ ส่วนนี้ทำให้เรียกความเชื่อมั่นกลับมาได้เร็ว ส่วนเรื่องที่เรามีนากยกหญิงที่อายุน้อยนั้น ประเด็นนี้มองว่าขึ้นอยู่ที่การแสดงความเป็นผู้นำและการบริหารราชการแผ่นดินหลังจากนี้
สำหรับความพร้อมของการบริหารงานที่พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลก็เชื่อว่า พรรคเองมีความพร้อมด้านบุคคลกรที่มีความรู้ความสามารถในทุกด้านอยู่แล้ว ซึ่งภาคเอกชนอยากเห็นการทำงานเป็นทีมกับพรรคร่วมรัฐบาลมากขึ้น ก็จะทำให้การทำงานของ ครม. ชุดใหม่ มีเอกภาพและเสถียรภาพ
นอกจากนี้ หลายมาตรการของอดีตนายกเศรษฐา โดยเฉพาะการเปิดประตูการค้า และการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ สิ่งเหล่านี้รัฐบาลชุดใหม่จำเป็นต้องเดินหน้าสานต่อ โดยมีการกำหนดกระทรวงหรือผู้รับผิดชอบขึ้นเพื่อติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด รวมถึงการเดินหน้าขับเคลื่อนโครงการที่เกี่ยวข้อง
โดยเฉพาะ การผลักดัน Soft Power หอการค้าเห็นว่าเป็นเรื่องที่ไทยมีความได้เปรียบและสามารถที่จะต่อยอดเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเศรษฐกิจของไทยได้อยู่แล้ว ซึ่งเอกชนเห็นด้วยว่าควรเดินหน้าขับเคลื่อนในประเด็นนี้ต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน การดึงดูดอุตสาหกรรมใหม่ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีดิจิทัล ยังเป็นปัญหาของไทยที่ยังขาดบุคคลากรที่มีความพร้อมในด้านทักษะที่เพียงพอ ตลอดจนปัญหาด้านต้นทุนค่าไฟฟ้าที่ยังสูงและกฎหมายที่ล้าสมัยไม่เอื้อต่อการเข้ามาลงทุน
เป็นโจทย์ที่รัฐบาลต้องแก้ไข ซึ่งนอกจากที่รัฐบาลจะเป็นเซลล์แมนแล้วจะต้องปิดการขายให้ได้ด้วย อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาประเทศไทยมีจีดีพีเติบโตเฉลี่ย 2% ซึ่งต่ำกว่าศักยภาพและไม่ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ ดังนั้น ในระยะกลางและระยะยาว เป็นโจทย์สำคัญที่รัฐบาลต้องวางกลยุทธ์สำหรับประเทศ เพื่อทำให้จีดีพีของไทยเติบโตไม่ต่ำกว่า 3 - 5% ต่อปี
อ่านข่าว:
ฉลุย! มติสภา 319 เสียง โหวต "แพทองธาร" นั่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 31
ไม่คิดว่าเก่งที่สุด เปิดใจ "แพทองธาร" นั่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 31
"ภูมิธรรม" ถูกจี้ถาม "ดิจิทัลวอลเล็ต" ย้ำชัดเจนหลังมี ครม.ใหม่