วันนี้ (1 ส.ค.2567) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะอนุกรรมาธิการ พิจารณาศึกษาสาเหตุและแนวทางการแก้ไขปัญหา รวมถึงผลกระทบจากการนำเข้าปลาหมอคางดำ เพื่อการวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์ในราชอาณาจักรไทย"
ปรากฎว่า นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF พร้อมคณะ เดินทางมาเพื่อเตรียมเข้าชี้แจง กมธ.อว.สภา ที่มีนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เป็นประธาน และมีนพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง เป็นรองประธาน
มีรายงานว่า ทางกมธ.ได้เชิญ CPF มาชี้แจง เมื่อเวลา 13.30 น. เกี่ยวกับมาตรการที่ทาง CPF ระบุผ่านสื่อเกี่ยวกับมาตรการของบริษัทที่ระบุถึงการพร้อมให้ความร่วมมือกับหน่วยงานรัฐ ตามที่ CPF แถลงก่อนหน้านี้
ส่วนประเด็นอื่น ๆ เกี่ยวกับเรื่องราวปมร้อนปลาหมอคางดำ ต้องรอผลการประชุมโดยเมื่อเวลา 14.00 น.ผู้บริหาร CPF พร้อมคณะ เข้าประชุม กมธ.แล้ว
อ่านข่าว ดีเดย์ รับซื้อปลาหมอคางดำ กก.ละ 15 บ. ผู้รับซื้อโอดได้เงินช้า
นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะ CPF เข้าชี้แจง
นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะ CPF เข้าชี้แจง
CPF ไม่อนุญาตบันทึก-งดสัมภาษณ์
ต่อมาเวลา 14.40 น.หลังจากสื่อมวลชนทราบว่ามีผู้บริหารซีพีเอฟ มาชี้แจง จึงมารอทำข่าวจำนวนมาก ล่าสุดเจ้าหน้าที่สภา มาแจ้งผู้สื่อข่าวว่าทาง CPF แจ้งว่า ตอนคณะออกมาจากห้องประชุม ไม่อนุญาตให้บันทึกภาพ และไม่ให้สัม ภาษณ์ใดๆ ส่วนในห้องประชุม เจ้าหน้าที่แจ้งว่า ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าเก็บภาพ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมอนุ กมธ.อว. เมื่อสัปดาห์ก่อน ได้เชิญผู้บริหาร บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) มาชี้แจง แต่ทางบริษัท ไม่ได้ส่งใครมา เพียงแต่ส่งเอกสารชี้แจงเกี่ยวกับข้อมูลการนำเข้าปลาหมอคางดำ 4 หน้า
ทำให้วันนี้ คณะอนุกมธ.อว.จึงขอรับฟังความเห็นจากหน่วยงานที่กล่าวไป เพื่อเตรียมเสนอใช้มาตรการทางกฎหมายดำเนินการ ในประเด็นที่เกี่ยวข้องต่อการนำเข้าและการแพร่ระบาดปลาหมอคางดำ
ปลาหมอคางดำ
ปลาหมอคางดำ
เตรียมฟ้อง 3 ส่วนคดีปลาหมอคางดำ
นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ และน.ส.ละออง ติยะไพรัช คณะอนุกรรมาธิการแก้ปัญหาปลาหมอคางดำ ร่วมแถลงผลการประชุมหลังได้เชิญหน่วยงานด้านกฎหมายของภาครัฐให้ข้อมูล ว่าคดีที่จะมีการฟ้องร้องแบ่งเป็น 3 ส่วน คดีแพ่ง-คดีอาญา-คดีปกครอง โดยมีการดำเนินคดีทางปกครองกับกรมประมงแล้ว
โดยในที่ประชุมมีการเปรียบเทียบข้อกฎหมาย พ.ศ.2490 ที่บังคับใช้จนถึงปี 2554 กับกฎหมายประมงที่ใช้อยู่ปัจจุบัน พ.ร.บ.ประมงปี 2558 ซึ่งในอดีตมีข้อถกเถียงว่าไม่สามารถเอาผิดได้ เนื่องจากกฎหมายยังไปไม่ถึงเรื่องการได้อนุญาต แต่ไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไข สำนักงานกฤษฎีกาชี้ว่า หากกระดาษหยุดคนละแผ่น แต่ถ้าเป็นกรณีเรื่องเดียวกัน เนื้อหาเดียวกันจะต้องพิจารณาร่วมกัน
นพ.วาโย กล่าวว่า กรณีกรมประมงได้ปฏิบัติตามมาตรา 36 ของ พ.ร.บ.การประมงปี 2490 เรื่องที่ว่าทางบริษัทเอกชนไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไข ทั้งเรื่องการเก็บครีบ ใส่ขวดโหลยังไม่ปฏิบัติหรือไม่ อาจต้องดำเนินกระบวนการต่างๆต่อไป ไม่แน่ใจในตัวนั้นได้กำหนดเวลาไว้หรือไม่ ได้ฝากข้อคิดเห็นทางกรมประมงไปหากมีการเพิกถอนย้อนหลังว่าจะต้องดำเนินการต่อในส่วนนี้
ส่วนการดำเนินคดีทางอาญา ตามมาตรา 54 ของ พ.ร.บ.การประมงปี 2490 และมาตรา 65 ของกฎหมายใหม่ในเรื่องการอนุญาตหากนำเข้ามาแล้วไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไข ทางอัยการสูงสุด สำนักงานกฤษฎีกา ตัวแทนมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เห็นว่าการเอาผิดส่วนนี้ยาก เพราะองค์ประกอบในความผิดในช่วงคาบเกี่ยวของกฎหมาย แต่เชื่อว่าในคดีคดีทางแพ่ง สามารถดำเนินการได้ โดยสภาทนายความ ได้ดำเนินการในส่วนนี้กับภาคประชาชนไปแล้ว
อ่านข่าว "สภาทนายความ" ฟ้องเอกชน-กรมประมง ทำ "ปลาหมอคางดำ" ระบาด
ปลาหมอคางดำ
ปลาหมอคางดำ
คดีแพ่งค่าเสียหายตาม ม.97 พ.ร.บ.
สำหรับคดีแพ่ง จะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือส่วนแรกคดีของประชาชนเกี่ยวกับการละเมิด และจากการพูดคุยเห็นว่าองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สามารถดำเนินคดีแพ่งกับผู้ที่ทำให้เกิดความเสียหายได้ ในกรณีที่มีการเยียวยาให้กับประชาชนสามารถฟ้องบริษัทเอกชนเพื่อนำเบี้ยกลับมา
และในส่วนที่ 2 ส่วนของรัฐโดยตรงตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ปี 2535 มาตรา 97 ว่าผู้ใดที่กระทำการให้สิ่งแวดล้อมหรือทรัพยากรธรรมชาติเสียหายรัฐสามารถฟ้องให้จ่ายมูลค่าคืนกลับมาทั้งหมดได้ ขณะนี้ทราบมาว่าทางกรมทรัพยากรชายฝั่งทางทะเล (ทช.) เริ่มดำเนินการแล้ว กำลังศึกษา และหาความเสียหายเพื่อดำเนินดำเนินการทางกฎหมายต่อไป
อ่านข่าว
ดีเดย์ รับซื้อปลาหมอคางดำ กก.ละ 15 บ. ผู้รับซื้อโอดได้เงินช้า