ไม่มีพลิกโผ สว.ค่ายใหญ่สีน้ำเงิน กินรวบตำแหน่งใหญ่ในวุฒิสภา แม้ว่าผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานและรองประธานวุฒิสภา จากกลุ่ม สว.พันธุ์ใหม่ ที่ถูกมองว่าอยู่คนละฝ่ายกับ สว.ค่ายใหญ่สีน้ำเงิน จะแสดงวิสัยทัศน์จะยกระดับให้วุฒิสภา และ สว.เป็นของประชาชน คนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ จนเรียกเสียงเชียร์ในโลกออนไลน์ได้ไม่น้อย
แต่สุดท้ายต้องเป็นไปตามวิธี และครรลองที่ถือปฏิบัติมายาวนาน คือตัดสินที่คะแนนเสียงโหวตเลือก ฝ่ายไหนมีเสียงมากกว่า เป็นผู้ชนะ ไม่ได้ตัดสินกันที่วิสัยทัศน์หรือผลงาน
ผลที่ออกมาแบบกินรวบ ในเชิงการเมืองแล้วจะส่งผลให้ดุลการเมืองเปลี่ยนไป จากเดิมที่ค่ายสีแดงยึดคุมอำนาจเบ็ดเสร็จในสภาผู้แทนราษฎร และยังผ่าน สว.ชุดเก่า ในสายอนุรักษ์นิยมขั้วรัฐบาลเก่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่ครั้งนี้ แม้จะยังถูกมองว่า เป็นกลุ่มสายอนุรักษ์นิยมเช่นเดิมเป็นส่วนใหญ่ แต่กลับเชื่อมโยงกับค่ายใหญ่สีน้ำเงินแทน
อย่างไรก็ตาม นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ยืนยันชัดตั้งแต่ต้นว่า สว.ชุดใหม่ที่ได้รับเลือกไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรค และตนได้ออกหนังสือเตือน 2 ครั้ง ห้ามคนในพรรคไปเกี่ยวข้องกับเรื่องเลือก สว.เด็ดขาด เป็นการสะท้อนจุดยืนของพรรคต่อเรื่องนี้ เพียงแต่ยอมรับว่า อาจมีบางคนที่รู้จักกัน แต่ไม่ได้ช่วยเหลือใด ๆ
ทั้งนี้สมการทางการเมืองที่หลายฝ่ายเชื่อว่า จะทำให้ 2 ค่ายใหญ่เกิดปัญหาไม่ไว้วางใจต่อกัน และเกิดการคานอำนาจกัน จนอาจทำให้การเมืองสะดุดนั้น หากใครเชื่ออาจต้องคิดใหม่
หลังจากได้เห็นภาพบรรยากาศอันชื่นมื่นรื่นรมย์ที่เขาใหญ่ ระหว่างการพักผ่อนสุดสัปดาห์กับลูกหลานของนายใหญ่ ทักษิณ ชินวัตร ที่รีสอร์ทหรูของนายอนุทิน ชาญวีรกูล ที่เจ้าตัวเดินทางไปให้การต้อนรับอย่างดี
มิหนำซ้ำยังร่วมโชว์ลูกคอร้องเพลงบนเวที โดยมีนายแกนนำจากพรรคเพื่อไทยและชาติพัฒนา คอยเป็นลูกคู่ให้
พร้อม ๆ กับที่มาของ “ปฏิญญาเขาใหญ่” ที่ว่ากันว่าจบแบบแฮปปี้เอ็นดิ้ง ไม่ว่าจะเรื่องต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ทั้งในวุฒิสภาและสภาผู้แทนฯ เรื่องขับเคลื่อนงานต่อไปของรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน
ขณะที่เรื่องกัญชาเสรีอันเป็นนโยบาย “เรือธง” ของพรรคภูมิใจไทย และต่อมากระทรวงสาธารณสุข โดยรัฐมนตรีคนล่าสุด นายสมศักดิ์ เทพสุทิน จะดึงกลับไปเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5
มีข่าวลือกระหึ่มวงในว่า มีการเจรจาให้เดินหน้าผลักดันร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง แทนการดึงกลับไปเป็นยาเสพติดอีกรอบ หลังจากนายอนุทินไม่เห็นด้วย และขู่จะโหวตสวนในการประชุมกรรมการ ป.ป.ส.
สำหรับนายอนุทินนั้น ไม่เคยวิพากษ์ในเชิงลบต่อนายทักษิณมาแต่ไหนแต่ไร แม้ในช่วงที่นายทักษิณ ยังลี้ภัยอยู่ในต่างประเทศ “เสี่ยหนู” จะพูดย้ำมาตลอดว่า เคารพนับถือนายทักษิณในฐานะเจ้านายเก่า และเป็นคนเปิดทางให้เขาได้เข้าสู่เวทีการเมือง
อีกทั้งเมื่อพรรคเพื่อไทยเปิดตัว “อุ๊งอิ๊ง” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สู่เวทีการเมือง ขณะนั้นหลายคนในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ วิพากษ์ในเชิงด้อยค่า แต่นายอนุทินกลับชื่นชมสนับสนุนว่าเป็นทางเลือกจากคนรุ่นใหม่เพิ่มขึ้น
เท่ากับไม่เคยยกตนเทียบเท่านายทักษิณ เช่นเดียวกับการทำตัวเป็น “น้องชายแสนดี” สำหรับพล.อ.ประยุทธ์ จึงเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของนายอนุทิน ที่ร่วมงานกับใครจะมีแต่คนรัก
ปฏิญญาเขาใหญ่จึงเป็นการเติมเต็มความเข้มแข็งให้กับรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย ในจังหวะที่ต้องพึ่งพาแสวงหามิตรในสถานการณ์ที่ต้องการมีหุ้นส่วนยืนเคียงข้างอย่างในขณะนี้
วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส
อ่านข่าว : "ศิริกัญญา" จี้รัฐบาลตอบให้ชัดแหล่งที่มาของเงิน "ดิจิทัลวอลเล็ต"