"ทนายตั้ม" ให้ข้อมูล ป.ป.ช.คดี "บิ๊กต่อ" ถูกกล่าวหาพัวพันเว็บพนัน

อาชญากรรม
23 ก.ค. 67
12:57
397
Logo Thai PBS
"ทนายตั้ม" ให้ข้อมูล ป.ป.ช.คดี "บิ๊กต่อ" ถูกกล่าวหาพัวพันเว็บพนัน
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
"ทนายตั้ม" ให้ถอยคำกับ ป.ป.ช.คดี "บิ๊กต่อ" ถูกกล่าวหาเข้าไปพัวพันเว็บพนัน หลังตำรวจ ปปป.ส่งสำนวนให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบ ขณะที่ทนายตั้มเชื่อว่าเป็นการผลักภาระและมีขบวนการช่วยเหลือคดีอยู่เบื้องหลัง

วันนี้ (23 ก.ค.2567) นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ เดินทางไปให้ถ้อยคำกับเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีที่เคยยื่นเรื่องให้ตรวจสอบ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล เกี่ยวกับปมเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์และส่วย 18 ธุรกิจสีเทา ซึ่งก่อนหน้านี้เคยไปยื่นกับ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และกองบังคับการป้องกันปราบปรามการการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) แต่สำนวนการสอบสวนถูกส่งต่อมายัง ป.ป.ช. จึงนำมาสู่การเรียกเข้าให้ถ้อยคำในวันนี้

นายษิทรา ระบุว่า ตนเองตั้งข้อสงสัยว่าตอนที่ยื่นเรื่องให้กับ ปปป. เป็นการยื่นให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเส้นทางการเงินต่างๆ ของเครือข่ายเว็บพนันที่โยงไปถึง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ แต่ปรากฏว่า ปปป.ไม่สืบสวนหาข้อเท็จจริงในคดีนี้เอง กลับส่งสำนวนให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบการกระทำความผิด ลักษณะเหมือนเป็นการผลักภาระทั้งที่รับปากกับตนเองว่าจะทำเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา ซึ่งทั้ง ปปป.เป็นหน่วยงานที่มีอำนาจสอบสวนตรวจสอบการทุจริตในภาครัฐอย่างเต็มที่อยู่แล้ว

ส่วนตัวมองว่า พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ จึงไม่อยากทำคดีและโยนมาให้ ป.ป.ช.ทำแทน อีกทั้งเรื่องนี้ยังแสดงให้เห็นว่ากระบวนการทำงานของ ปปป.สองมาตรฐาน ไม่เหมือนตอนทำคดีของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

นายษิทรา กล่าวอีกว่า เรื่องนี้ตนเองไม่อยากส่งให้ ป.ป.ช.แต่แรก เพราะเชื่อว่าท้ายที่สุดต้องหาทางออกในการช่วยเหลือทางคดี เปรียบเทียบจากกรณีที่ตนเองเคยแจ้งความเอาผิด พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และภรรยาพร้อมพวกอีก 2 คนในข้อหาสมคมฟอกเงินไว้ที่ สน.เตาปูน ตั้งแต่เดือน เม.ย. จนถึงขณะนี้คดียังไม่คืบหน้า

ส่วนหลักฐานและเอกสารต่างๆ ที่ใช้ประกอบคดีทั้งหมด นายษิทรา เปิดเผยว่า ได้มอบเอกสารและพาพยานบุคคลไปให้การกับตำรวจทั้งหมดแล้ว ทั้งคดีเว็บพนันและส่วย 18 ธุรกิจสีเทา วันนี้ (23 ก.ค.) จึงไม่จำเป็นต้องนำหลักฐานมายื่นเพิ่มเติม

ทั้งนี้ มีรายงานว่าหลักฐานสำนวนคดีของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ที่ บก.ปปป.ส่งมาให้ ป.ป.ช. มีจำนวนพยานหลักฐานและคำให้การมีหลักร้อยหน้าเท่าที่นายษิทรายื่นให้ตรวจสอบไว้ก่อนหน้านี้ โดยไม่มีหลักฐานอื่นๆ เพิ่มเติม หากเปรียบเทียบกับพยานหลักฐานคดีของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ กลับมีจำนวนกว่าหมื่นหน้า

ส่วนกรณีเว็บพนันที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายลูกอดีต สว. โดยมีความเชื่อมโยงกับตำรวจนั้น นายษิทรา อ้างว่า กลุ่มบุคคลเหล่านี้ได้รับการสนับสนุนจนเป็นที่รู้กันว่าโผการแต่งตั้งที่ผ่านมา ผู้ช่วย ผบ.ตร.เป็นคนทำโผ ทำให้ฝ่ายการเมืองไม่พอใจเพราะมีแต่ฝ่ายตั๋วช้าง รวมถึงเป็นตั๋วที่ได้รับการโปรโมตอยู่ในตำแหน่งที่ดี และมีกระแสข่าวว่าได้รับการสนับสนุนขึ้นเป็นผู้บังคับการหน่วยหนึ่ง โดยตนเองเตรียมจะเปิดหลักฐานเกี่ยวกับเครือข่ายนี้ที่มีทั้งรัฐมนตรี และ สก.เข้ามาเกี่ยวข้อง พร้อมยืนยันว่าที่พูดมาทั้งหมดเป็นเรื่องจริง ซึ่งนายษิทรายังเปิดเผยอีกว่าคดีนี้มีตำรวจระดับนายพลเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย

อ่านข่าว

ปัดจนท.เอี่ยวป้ายขายสัญชาติ-พาสปอร์ต เอาผิดหลายข้อหา

ตามคาด! "มงคล สุระสัจจะ" นั่งประธานวุฒิสภา ด้วยคะแนน 159 เสียง

ลอบวางบึ้ม ตร.สภ.เทพ ขณะลาดตระเวน เจ็บ 2 นาย

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง