วันนี้ (22 ก.ค.2567) บรรยากาศที่วัดยางสุทธาราม ตลอดช่วงบ่ายที่ผ่านมาหลังญาติได้นำร่างของพ.ต.ท.กิตติ์ชนม์ จันยะรมณ์ รองผู้กำกับป้องกันและปราบปราม สน.ท่าข้าม มาประกอบพิธีศาสนา พบว่ามี บุคคลสำคัญทางการเมืองและตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายนายได้ส่งพวงหรีดมาร่วม แสดงความอาลัยเช่น นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี
พลตำรวจโท สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ /พลตำรวจเอกธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมทั้งบรรดาเพื่อนร่วมรุ่นตำรวจอีกหลายนาย ทั้งนี้คาดว่าในช่วงเวลาประมาณ 15.30 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จะเดินทางมาเคารพศพและแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต
สำหรับกำหนดการพระราชทาน น้ำหลวงอาบศพสวดพระอภิธรรม จะเริ่มขึ้นในเวลา 16.00 น. โดยเป็นพิธีรดน้ำศพ ก่อนที่ในเวลา 17.00 น. จะเป็นพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ และในเวลา 19:00 น. เป็นพิธีสวดพระอภิธรรม ซึ่งจะมีพิธีสวดพระอภิธรรมไปจนถึงวันที่ 27 ก.ค. ก่อนที่จะ มีพิธีพระราชทานเพลิงศพในวันที่ 29 ก.ค. 2567 เวลา 17:00 น.
ขณะที่ พันตำรวจโทวันเผด็จ จันยะรมณ์ รองผู้กำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หรือ บก.ปอศ. ซึ่งเป็นหลานของพันตำรวจโทกิตติ์ชนม์ เปิดเผยว่า รู้สึกตกใจหลังจากทราบเหตุ แต่ส่วนตัวเข้าใจว่า ในวันเกิดเหตุ อาคงคิดว่าเหตุเบาลงแล้ว เพราะตอนแรกเห็นอาใส่ชุดเกราะและมีการเจรจากับผู้ก่อเหตุแล้ว ประกอบกับภรรยาของผู้ก่อเหตุห่วงลูกและอยากให้นำตัวลูกออกมาจากบ้าน อาจึงเข้าไปพยายามควบคุมตัวผู้ก่อเหตุ แต่ลูกผู้ก่อเหตุวิ่งสวนออกมาจึงทำให้อาเสียหลัก และเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น
เบื้องต้น เชื่อว่าอาประเมินสถานการณ์มาแล้ว เพราะบ้านหลังนี้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้หลายครั้งแล้ว ซึ่งส่วนตัวรู้สึกเสียใจ ไม่ว่าใครก็ไม่ควรจบชีวิตแบบนี้ แต่ก็มองว่าเป็นการสูญเสียที่มีผลประโยชน์ เพราะหากอาไม่ถูกยิง อาจจะเป็นเด็กที่ถูกยิงและไม่ได้เติบโตมาก็ได้ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตัวเองก็ไม่อยากโทษใคร เพราะมองว่าชีวิตคนสำคัญทุกคน และทุกเรื่องไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น และไม่มีใครรู้ว่าจะเกิด เพราะเป็นอารมณ์ชั่ววูบของคนบางคน
ยืนยันที่ผ่านมาอาตั้งใจปฎิบัติหน้าที่ตำรวจมาตลอด มีเลือดตำรวจสูงมาก รักในอาชีพ ชอบออกตรวจ ขยัน กลางคืนจะฟังวิทยุตลอดทั้งที่ร่างกายไม่ไหวเหมือนตอนหนุ่มๆแต่อาก็สู้ ส่วนตัวคิดเสมอว่าอาทำเต็มที่และทำดีที่สุดแล้ว สำหรับตัวเองที่มาเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เพราะว่าอาตั้งความหวังอยากให้เป็นตำรวจตั้งแต่เด็ก ประกอบกับคุณปู่ที่มีความชอบอาชีพนี้และอยากให้ลูกหลานเป็น จึงเป็นตำรวจตามที่อาหวัง และอาคอยสอนมาเสมอมาว่า ทุกคนต้องรู้หน้าที่ ควรอยู่ในกรอบ และชีวิตต้องไม่ประมาท
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางมาเคารพศพและแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต
ตอนนี้อาก็เสียชีวิตไปแล้ว ตัวเองจะอ่อนแอไม่ได้ และเชื่อว่าอารู้ว่าตนรู้หน้าที่ว่าจะต้องทำอะไรต่อ เพราะที่ผ่านมาอาไว้ใจตัวเองมาตลอด ซึ่งตัวเองก็ตั้งใจทำให้ครอบครัวสบาย สุดท้ายนี้อยากฝากถึงทุกครอบครัวว่า ให้รักกันไว้ และเมื่อมีปัญหาอยากให้พูดคุยกัน อยากให้มีสติ และหากทุกคนอยู่ในกรอบ ทุกคนรู้หน้าที่ เหตุการณ์รุนแรงเช่นนี้จะไม่เกิด
อ่านข่าว:
พี่สาวรับศพ “รองหรั่ง” เปิดใจน้องชายทำเต็มที่ ไม่โกรธทุกฝ่ายสูญเสีย
ปูนบำเหน็จ 6 ขั้นให้ “พ.ต.ท.กิตติ์ชนม์” พลีชีพขณะปฏิบัติหน้าที่
อาลัยตำรวจกล้า "รองหรั่ง" คุ้มครอง ปชช.จนวินาทีสุดท้ายของชีวิต