เมื่อวานนี้ (10 ก.ค.2567) เป็นวันแรกที่การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดให้จองตั๋วรถไฟ เส้นทางกรุงเทพฯ-เวียงจันทน์ (คำสะหวาด) ลาว โดยทันทีที่เปิดให้จอง พบว่าหลายคนไม่สามารถทำรายการผ่านเว็บไซต์และแอปพลิเคชันได้ หน้าจอระบุว่า "เกิดความผิดพลาด" นับตั้งแต่เริ่มเปิดให้จองตั๋วในเวลา 09.00 น.
ไทยพีบีเอสทดลองกดจองตั๋วไฟในเส้นทางนี้เช่นกัน โดยเข้าระบบจองตั๋วตั้งแต่ช่วงเวลา 09.00 น. พยายามจนถึงเวลา 10.00 น. ก็ไม่สามารถทำรายการผ่านทางเว็บไซต์ได้ โดยพบว่าหากเลือกเส้นทางแล้ว หน้าเว็บไซต์จะมีขบวนรถไฟขึ้นในระบบ แต่พอจะทำรายการในขั้นตอนต่อไป กลับมีหน้าต่างขึ้นมาว่า เกิดข้อผิดพลาด
ขณะที่ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ ต่างโพสต์ว่าจะเข้าไปจองแต่ก็ไม่สามารถจองตั๋วได้เช่นกัน โดยยังมีข้อมูลว่าตลอดช่วงเช้าต้องใช้วิธีการไปจองที่สถานีเท่านั้น ซึ่งบางส่วนเริ่มเตรียมทริปการเดินทางไปท่องเที่ยวลาว และบางส่วนก็ยังห่วงเรื่องการเดินทางเมื่อไปถึง โดยเฉพาะเรื่องการต่อรถเมื่อไปถึงที่สถานีเวียงจันทน์
เส้นทางกรุงเทพฯ-เวียงจันทน์ เริ่มให้บริการ 19 ก.ค.นี้
สำหรับการเปิดเส้นทางเดินรถในครั้งนี้ ทางการรถไฟแห่งประเทศไทย และรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งชาติลาว ได้ขยายเส้นทางขบวนรถไฟที่มีอยู่เดิม 4 ขบวน ซึ่งขบวนที่ได้รับความสนใจ คือ เส้นทางจากกรุงเทพฯ ไปยังเวียงจันทน์ เริ่มให้บริการในวันที่ 19 ก.ค.นี้ โดยรถจะออกจากกรุงเทพฯ ในช่วงกลางคืน และไปถึงเวียงจันทน์ในช่วงเช้า
สำหรับรูปแบบการให้บริการ รถจะออกเดินทางจากสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ เวลา 21.25 น. โดยจะเดินทางไปถึงที่หนองคาย เวลา 07.55 น.ในวันรุ่งขึ้น ผู้โดยสารจะมีเวลาในการทำพิธีการตรวจคนเข้าเมืองที่ด่านสถานีหนองคาย 40 นาที จากนั้นก็ขึ้นรถเดินทางต่อ ในเวลา 08.35 น. โดยจะไปถึงที่สถานีเวียงจันทน์ (คำสะหวาด) ในเวลา 09.05 น. ซึ่งการตรวจหนังสือเดินทางจะต้องทำ 2 จุด คือ สถานีรถไฟหนองคาย และสถานีรถไฟเวียงจันทน์ (คำสะหวาด)
ส่วนราคาตั๋วโดยสาร แบ่งเป็น รถนั่งชั้น 3 คนละ 281 บาท, รถนั่งชั้น 2 ปรับอากาศ ราคา 574 บาท และยังมีรถนอนชั้น 2 ปรับอากาศให้บริการด้วย หากเป็นเตียงบนราคา 784 บาท และเตียงล่าง 874 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีที่จะนั่งรถไฟจากรุงเทพฯ แล้วไปต่อรถไฟลาว-จีน ไปคุนหมิง อาจไม่ได้สะดวกมากนัก เพราะสถานีรถไฟเวียงจันทน์คำสะหวาด มีระยะห่าง 16 กิโลเมตร และใช้เวลาเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมง
"ไทย-ลาว" สแกนคิวอาร์โค้ดจ่ายเงินได้แล้ว
นอกจากการเดินทางจะสะดวกขึ้นแล้ว การใช้จ่ายเงินระหว่างเดินทางท่องเที่ยวอยู่ในลาวก็เช่นเดียวกัน เพราะอาจไม่ต้องพกแต่เงินสดเท่านั้น แต่ยังใช้แอปพลิเคชันธนาคารสแกนจ่ายได้เหมือนอยู่ที่ไทย โดยตั้งแต่วันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา ธนาคารแห่งประเทศไทย ระบุว่า คนไทยสามารถใช้แอปพลิเคชันของธนาคารกรุงศรีอยุธยา สแกน LAO QR code เพื่อจ่ายค่าสินค้าและบริการกับร้านค้าใน ประเทศลาวที่เข้าร่วมโครงการได้ และภายในไตรมาส 4 ของปีนี้ จะมีธนาคารไทยเข้าร่วมให้บริการเพิ่มเติมอีก ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย และธนาคารกสิกรไทย
