วันนี้ (12 มิ.ย.2567) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นวันที่ 2 ที่คณะทูตกลุ่มประเทศอิสลาม หรือ OIC ลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนการพัฒนาขับเคลื่อนแก้ปัญหาในพื้นที่ ที่ TK Park จ.ยะลา
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ระบุว่า การลงพื้นที่ของคณะทูตฯ เป็นการพยายามทำความเข้าใจพื้นที่ และยืนยันด้านความปลอดภัย เป็นพื้นที่ท่องเที่ยว สวยงาม และต้องการให้คณะทูตเห็นว่า พื้นที่มีความพร้อม สามารถลงทุนโดยเฉพาะอุตสาหกรรมอาหารฮาลาล
อย่างไรก็ตามคณะทูต ได้ถามถึงสถานการณ์ความมั่นคงในพื้นที่ ซึ่งได้ทำความเข้าใจแล้ว โดยขอให้ทุกหน่วยงาน ทั้งฝ่ายปกครอง ด้านการศึกษา พร้อมกันนี้ ย้ำให้หน่วยงานความมั่นคงต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด
สำหรับการลงพื้นที่ของคณะทูตกลุ่มประเทศมุสลิม 12 ประเทศมี กิจกรรมรวม 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 11-13 มิ.ย. ในพื้นที่ จ.ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส โดยเมื่อวานนี้ คณะทูต ลงพื้นที่ จ.ปัตตานี เยี่ยมชมมัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี โดยมีคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานีให้การต้อนรับ
จากนั้นได้ร่วมชมวิธีการผลิตผ้าบาติกของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนยาริงบาติก ของกลุ่มสตรีในพื้นที่ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี โดยคณะทูตได้ทดลองลงสีลวดลายด้วยตัวเอง และลงนามเป็นที่ระลึกด้วย
จากนั้นจึงเดินทางไปยังจ.ยะลา ซึ่งจัดงานเลี้ยงรับรองไว้ โดยมีนายอนุทิน และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อ รมว.ยุติธรรม เป็นตัวแทนรัฐบาลในการต้อนรับคณะทูตและผู้แทนกลุ่มประเทศมุสลิม จาก 12 ประเทศ ที่ศูนย์ราชการจังหวัดชายแดนใต้ จ.ยะลา ร่วมรับประทานอาหารค่ำร่วมกัน
ทั้งตัวแทนรัฐบาลและคณะทูตฯ ต่างสวมใส่เสื้อผ้าบาติก ลายขอ ซึ่งเป็นลายพระราชทานผ้าลายสิริวชิราภรณ์ สีเขียว สีประจำ จ.ปัตตานี ด้วย
ขณะที่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวขอบคุณคณะทูต และระบุว่า พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มีความหลากหลาย มีประวัติศาสตร์ และทรัพยากรสมบูรณ์ แต่ก็มีความท้าทายต่าง ๆ ที่ต้องการความร่วมมือและความเข้าใจจากทุกฝ่าย
สำหรับบทบาททางการเมืองและผู้แทนประชาชนในพื้นที่ ต้องการพัฒนาและแก้ปัญหา โดยมีเป้าหมายลดความขัดแย้ง และสร้างสันติภาพใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยให้พลเรือนมีบทบาทสำคัญ ด้วยการยกระดับคุณภาพชีวิตผ่านการพัฒนาเศรษฐกิจ การศึกษา และพัฒนาสังคมควบคู่กัน
ส่วนช่วงบ่ายวันนี้ คณะทูตฯ จะเดินทางไปยัง ต.โกตาบารู อ.รามัน จ.ยะลา ซึ่งสะท้อนถึงความเป็นสังคมพหุวัฒนธรรม และจะเยี่ยมชมจุดก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส
ด้าน พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการ ศอ.บต. ระบุว่า การทางเดินทางเยือนพื้นที่ของเอกอัครราชทูตประเทศโลกมุสลิมนั้น มีเป้าหมายสื่อสารข้อเท็จจริงในพื้นที่สู่สายตาชาวโลก ที่สำคัญเพื่อสร้างประโยชน์ต่อยอดความสัมพันธ์ และยกระดับคุณภาพชีวิตในพื้นที่
เนื่องจากจะมีการสื่อสารแบบ two-way communication ด้านเศรษฐกิจ การศึกษา ซึ่งคณะฯ ที่จะเดินทางมามีบทบาทต่อความคิดต่อประเทศโลกมุสลิม ดังนั้นรัฐบาลต้องการสร้างความเชื่อมั่นในเรื่องของการลงทุน พร้อมนำเสนอความสามารถและศักยภาพของพื้นที่ ให้คณะได้เห็น เพื่อเป็นโอกาสที่ดีแก่ประชาชนในพื้นที่
อ่านข่าว : "ฮัจย์" พิธีศักดิ์สิทธิ์ครั้งหนึ่งในชีวิตที่ "มุสลิม" ทุกคนปรารถนา