Thailand Web Stat
ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"ยื้อ ประวิงเวลา" ทางรอด "บอส อยู่วิทยา" สู่ "ทักษิณ คดี 112"

การเมือง
11 มิ.ย. 67
10:29
977
Logo Thai PBS
"ยื้อ ประวิงเวลา" ทางรอด "บอส อยู่วิทยา" สู่ "ทักษิณ คดี 112"
อ่านให้ฟัง
08:07อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)

อีก 7 วัน หรือวันที่ 18 มิ.ย.นี้ ก็จะครบกำหนดอัยการสูงสุดนัด "นายทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี ให้มาฟังคำสั่งฟ้องต่อศาลอาญา ในคดีที่ตกเป็นผู้ต้องหากระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จากการให้สัมภาษณ์สื่อเกาหลีใต้เมื่อปี 2558 หลังจากก่อนหน้านี้ได้ขอเลื่อนนัดโดยให้เหตุผลว่า มีอาการป่วยเพราะติดโควิด-19

แต่ล่าสุดในงานบวช นายสมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ ลูกชายคนสุดท้อง ของนายกฤษฎา หลีนวรัตน์ นายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายทักษิณ ยืนยันว่า หายจากอาการป่วยแล้ว พร้อมเดินทางไปฟังคำสั่งฟ้อง และยังมองว่าคดีแทบจะไม่มีมูล คดีนี้ เรียกว่าเป็นผลไม้เป็นพิษ ที่เกิดจากต้นไม้เป็นพิษ การทำคดีตั้งแต่ต้นที่มีการข่มขู่พนักงานสอบสวนโดยผู้บังคับบัญชา

แม้อดีตนายกฯ จะระบุว่า คดีดังกล่าวแทบจะไม่มีมูล แต่กลับพบว่า ในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา นายทักษิณได้ส่งทีมกฎหมายยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมไปยังอัยการสูงสุดอีกครั้ง เพื่อยืนยันเหตุผลเพิ่มเติมคัดค้านคำสั่งฟ้อง

โดยทีมกฎหมายได้บรรยายในคำร้องขอความเป็นธรรมที่ยื่นต่ออัยการสูงสุดคือ พนักงานสอบสวนที่ทำสำนวนถูกกดดันข่มขู่จากผู้มีอำนาจในยุคนั้น ซึ่งเป็นยุค คสช. เพราะมีการแจ้งความดำเนินคดีนี้กับนายทักษิณ ช่วงหลังจาก คสช.เข้าควบคุมอำนาจการปกครองเมื่อวันที่ 22 พ.ค.2557 ทำให้พนักงานสอบสวนไม่มีความเป็นอิสระในการทำหน้าที่ กระบวนการได้มาซึ่งพยานหลักฐานจึงมิชอบด้วยกฎหมาย และมีความเบี่ยงเบนไปตามที่ผู้มีอำนาจต้องการ

"...คำให้สัมภาษณ์ของ "อดีตนายกฯ ทักษิณ" ที่กล่าวกับสื่อเกาหลีใต้ ไม่ได้มีเนื้อหาพาดพิงสถาบันเบื้องสูง และไม่ได้มีถ้อยคำหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย จึงไม่เข้าองค์ประกอบความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112" ข้อความในหนังสือร้องขอความเป็นธรรมระบุ

ปฏิเสธไม่ได้ว่า การยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุด ถือเป็นขั้นตอนปกติของกระบวนการยุติธรรมโดยทั่วไป สำหรับผู้ถูกกล่าวหา หรือผู้ที่ตกเป็นผู้ต้องหาจะใช้ในการร้องขอให้มีการพิจารณาคดีขึ้นใหม่ ในกรณีที่มีพยานหลักฐานใหม่ ซึ่งมีเหตุให้เกิดการเปลี่ยนแปลงคำสั่งถึงขั้นถอนคำร้อง หรือคำสั่งฟ้องได้

ในขณะเดียวกันก็ปฎิเสธไม่ได้ หากจะถูกสังคมมองว่า การยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม คือ กลไกหนึ่งที่ถูกนำมาใช้ในการประวิงเวลา หรือยื้อคดี เพื่อช่วยเหลือผู้มิให้ต้องหาได้รับโทษตามกฎหมาย

เช่นเดียวกับคดี "วรยุทธ" หรือ "บอส อยู่วิทยา" ขับรถชนตำรวจเสียชีวิตตั้งแต่ปี 2555 ซึ่งมีการมอบหมายให้ทนายไปยื่นคำร้องขอความเป็นธรรมต่อพนักงานอัยการจำนวน 14 ครั้ง และปัจจุบันผู้ต้องหายังอยู่ระหว่างการหลบหนีหมายจับ และเหลือข้อหาเดียว คือ การขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี จึงมีอายุความ 15 ปี และจะหมดอายุความในอีก 3 ปีข้างหน้า หรือ วันที่ 3 ก.ย.2570

แม้การยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรม จะถูกสังคมมองว่า เป็นการยื้อคดี หรือประวิงเวลาการรับโทษ หากแต่บริบททางคดีความของอดีตนายกฯ และ "บอส อยู่วิทยา" แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด เพราะเป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปี ของนายทักษิณ ที่ส่งทนายมายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมจากอัยการในคดี 112

ส่วนคดีมหากาพย์ "บอส อยู่วิทยา" ที่หลบหนียาวนาน 12 ปี เคยยื่นคำร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุดมากสูงสุดถึง 14 ครั้ง ซึ่งคดีดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของสำนักงานอัยการสูงสุดมาก จนทำให้ต้องมีการปรับหลักเกณฑ์และระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุด ในการพิจารณาคำร้องขอความเป็นธรรมให้เข้มงวดมากกว่าเดิม และเพื่อมิให้มีการใช้ดุลยพินิจเกินขอบเขต

หากพลิกเกณฑ์การพิจารณาคำร้องขอความเป็นธรรมของอัยการ ตามขั้นตอนกฎหมายปกติทั่วไป แม้อัยการจะมีคำสั่งฟ้องไปแล้ว แต่ผู้ถูกกล่าวหาก็สามารถร้องขอความเป็นธรรมได้ โดยอัยการสูงสุด (อสส.) เป็นผู้พิจารณาว่า คำร้องขอความเป็นธรรมที่ยื่นมานี้ ฟังขึ้นหรือไม่ มีน้ำหนักมากพอที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งฟ้องได้หรือไม่ หรือในกรณีที่คดีนั้น ๆ เคยมีการพิจารณารับคำร้องไว้แล้ว อัยการสูงสุดก็จะไม่รับพิจารณาอีก หรือกรณีที่ตรวจพบว่า คำร้องมีพฤติการณ์ประวิงคดี ก็จะไม่รับคำร้องนั้นไว้

หรือกรณีที่มีการสอบสวนไว้แล้ว แต่ถ้าการสอบสวน ไม่ตรงกับความเป็นจริง ไม่ครบถ้วนหรือตรงประเด็น ผู้ต้องหาก็สามารถร้องใหม่ได้ ยกเว้นเรื่องดังกล่าวเป็นอำนาจหน้าที่ของหน่วยงานอื่น และเป็นเรื่องที่หน่วยงานนั้น ๆ จะพิจารณาตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ สำหรับคดีร้องขอความเป็นธรรมของอดีตนายกฯ นั้น ตามหลักการต้องไม่เป็นการยื่นเพื่อประวิงคดี และต้องมีดูเนื้อหาว่า มีหลักฐานใหม่เข้ามาหรือไม่ และขอให้สอบสวนเพิ่มเติมในประเด็นใดบ้าง และหากอัยการผู้ตรวจสอบสำนวนโดยละเอียดว่า มีหลักฐานใหม่ และพิจารณาเห็นว่า ไม่ได้กระทำการเพื่อประวิงเวลา หรือยื้อคดี อัยการสูงสุดก็สามารถรับเรื่องดังกล่าวไว้พิจารณาใหม่ได้เลย แต่ถ้าหากยื่นมาแล้วไม่พบหลักฐานใหม่อื่นใดก็จะสั่งยุติทันที

ทั้งนี้โดยทั่วไปการพิจารณารับคำร้องขอความเป็นธรรมจะมี 3 แนวทาง ประกอบด้วย ในกรณีที่คำร้องที่นำมายื่น มีน้ำหนักหรือมีมูลพอที่จะพิจารณา ก็อาจเลื่อนนัดส่งตัวผู้ต้องหาไม่ส่งฟ้องศาลวันที่ 18 มิ.ย. เพื่อตรวจสอบคำร้องขอความเป็นธรรมให้เสร็จทั้งหมดก่อน

หรือหากอัยการสูงสุดพิจารณาแล้ว เห็นว่าหนังสือขอความเป็นธรรมไม่มีน้ำหนักหรือข้อมูลเพียงพอ อัยการสูงสุดไม่มีคำสั่งเลื่อนก็ต้องส่งตัวนายทักษิณฟ้องศาลเลย แต่นายทักษิณสามารถยื่นขอความเป็นธรรมต่ออัยการฯ ได้อีกหลังจากฟ้องศาลไปแล้ว แต่ขึ้นอยู่กับอัยการฯ จะรับไว้พิจารณาหรือไม่

และสุดท้าย คือ หากอดีตนายกฯ จะขอเลื่อนการเข้าพบอัยการสูงสุดเอง ซึ่งอัยการสูงสุดก็จะพิจารณาว่า เหตุผลมีน้ำหนักเพียงพอจะอนุญาตหรือไม่ อย่างไรก็ตาม การยื่นร้องขอความเป็นธรรมในชั้นอัยการนั้น ปกติจะยื่นได้เพียงครั้งเดียว โดยเรื่องดังกล่าว มีระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดเขียนไว้แล้วอย่างชัดเจน ดังนั้นหากนายทักษิณจะต่อสู้คดีเรื่อง มีการข่มขู่พนักงานสอบสวน อาจก็ต้องไปสู้ในชั้นศาลเท่านั้น

ควรจับตาและนับเวลาถอยหลังว่า อัยการสูงสุดจะรับเรื่องดังกล่าวไว้พิจารณาหรือไม่ และจะมีคำสั่งใดออกมา

อ่านข่าวอื่น :

ศาลฎีกาชั้นวินิจฉัยอุทธรณ์ยืนคุก 9 เดือน 3 สส.ภูมิใจไทยเสียบบัตร

“ส้มสายน้ำผึ้งฝาง” สินค้า GI เชียงใหม่ หวานอมเปรี้ยว กลิ่นหอม

รับมือยังไง? เมื่อ Apple ปล่อย AI ที่คิดแทนมนุษย์ (แทบ) ทุกอย่าง

เส้นทางกลับไทย "วัฒนา" เจ้าพ่อเมืองปากน้ำ ยัง (ไม่) ไกลเกินหวัง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Failed to load player resources

Please refresh the page to try again.

ERROR_BYTEARK_PLAYER_REACT_100001

00:00

00:00

ให้คะแนนการอ่านข่าวนี้