"เมียนมา"ติดท็อปชาร์ต แห่ซื้อคอนโดไทย หนีสงครามกลางเมือง

ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบจากการรัฐประหาร ขึ้นจากนั้นเกิดเหตุการณ์ที่รัฐบาลทหารเมียนมาเข้ามายึดอำนาจจนกระทั้งปัจจุบัน จนเกิดการต่อต้านของชนชาติต่าง ๆในเมียนมา และล่าสุดทางรัฐบาลทหาร มีการประกาศในวันที่ 10 ก.พ.ปี 2567 ให้ผู้ชายทุกคนที่มีอายุระหว่าง 18 ถึง 35 ปี และผู้หญิงทุกคนที่มีอายุระหว่าง 18 ถึง 27 ปี จะต้องรับราชการทหารสูงสุด 2 ปี ส่งผลให้กลุ่มคนที่มีความมั่งคั่งในประเทศเมียนมา ที่ไม่ต้องการรับราชการ ต้องการหาที่อยู่อาศัยเพื่อหลบภัยเพื่อหลีกเลี่ยงการเข้ารับราชการทหาร

ไทยจึงเป็นจุดหมายปลายทางของคนรวยในเมียนมาที่มีกำลังซื้ออสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศ ประเภท คอนโดมิเนียม ห้องชุด ในกรุงเทพมหานครและหลายจังหวัดในประเทศ และมีแนวโน้มจะมากขึ้นทุกปี

นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) กล่าวกับ “ไทยพีบีเอสออนไลน์”ว่า ในช่วงปี2564 ตัวเลขการเข้ามาซื้ออสังหาริมทรัพย์ ประเภทคอนโดมิเนียม ห้องชุด ของคน เมียนมาในประเทศไทยมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

เพราะการเข้ามาซื้อสังหาฯในไทย ถือเป็นความมั่นคงในชีวิตและทรัพย์สิน ที่เวลาลี้ภัยทางการเมืองสามารถเข้ามาได้ง่ายสุด ดังนั้นจะเห็นได้ว่า ตั้งแต่ปี2564 จะเห็นว่าคนเมียนมาที่ซื้ออสังหาฯไทยที่มีขนาดใหญ่ ราคาแพง เพื่อให้ได้ที่อยู่อาศัยที่มีขนาดใหญ่โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมมีขนาดตั้งแต่ 50 ตารางเมตรขึ้นไป

ในปี 2564 มีคนเมียนมาเข้ามาซื้อที่อยู่อาศัยประเภทห้องชุดหรือคอนโดมิเนียม 5 จังหวัด คือ กรุงเทพ 23 ยูนิต ,ชลบุรี 1 ยูนิต ,เชียงใหม่ 3 ยูนิต ,สมุทรปราการ 1 ห้อง ,ภูเก็ต 1 ยูนิต และตาก 1 ยูนิต รวมทั้งหมด 30 ยูนิต มูล่า 274 ล้านบาท เฉลี่ยราคาที่ 9.1ล้านบาท

นายวิชัย กล่าวอีกว่า ห้องชุดในในชลบุรี ราคาแพงสุดเฉลี่ย 12 ล้านบาท รองลงมาเป็นกรุงเทพฯ ราคาเฉลี่ย 10.8 ล้านบาท ซึ่งมีพื้นที่รวมทั้งหมด 1,686 ตารางเมตร เฉลี่ยพื้นที่ต่อยูนิต 56.2 ตารางเมตร

ปี2565 การเข้ามาซื้อห้องชุดของคนเมียนมาขยายพื้นที่ในการซื้อมากขึ้นเป็น 10 จังหวัด ซึ่งกรุงเทพยังคงเป็นจังหวัดที่ได้รับความสนใจจากคนเมียนมาอย่างต่อเนื่อง ที่ซื้อเพิ่มถึงกว่า 10 เท่าตัว จำนวนมากถึง 311 ยูนิต ราคาเฉลี่ย 7.8 ล้านบาทต่อยูนิต  รองลงมาเป็นชลบุรี 13 ยูนิต ราคาเฉลี่ยต่อยูนิตสูงถึง 10.5 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังกระจายไปยังจังหวัดท่องเที่ยวอื่นๆ เช่น เชียงใหม่ และปทุมธานี จำนวน 6 ยูนิต ,ชลบุรี 4 ยูนิต ,สงขลา 3 ยูนิต , นนทบุรีและตาก 2 ยูนิต ,นครปฐม 1 ยูนิต ซึ่งรวมห้องชุดที่ชาวเมียนมาร์เข้ามาซื้อในปี2565 มากถึง 349 ยูนิต มูลค่ารวม 2,551 ล้านบาท ราคาเฉลี่ย 7.3 ล้านบาทต่อยูนิต  สำหรับพื้นที่รวมทั้งหมดคือ 18,098 ตารางเมตร เฉลี่ยพื้นที่ 51 .9 ตารางเมตร

ส่วนในปี 2566 พบว่า การซื้อห้องชุดเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยกรุงเทพฯยังคงเป็นที่นิยมของชาวเมียนมา มีการซื้อ 457 ยูนิต เพิ่มขึ้นจากช่วง 2 ปีที่ผ่านมาอย่างเห็นได้ชัด ราคาเฉลี่ยยังคงสูงถึง 7.3 ล้านบาทต่อยูนิต

ทั้งนี้พบว่า ภูเก็ตได้รับความสนใจมากเช่นกัน มีการซื้อห้องชุด 20 ยูนิต  ราคาเฉลี่ย 6.1 ล้านบาทต่อยูนิ และกระจายไปยังเมืองท่องเที่ยวอื่นๆ เช่น ชลบุรี เชียงใหม่ สมุทรปราการ 18 ยูนิต ,นนทบุรี 15 ยูนิต, ปทุมธานี 7 ยูนิต ,ตาก 4 ยูนิต, สงขลา 3 ยูนิต ,และประจวบคีรีขัน์ และระยอง 2 ยูนิต

รวมทั้งหมดที่ชาวเมียนมาร์เข้ามาซื้อห้องชุดใน ปี2566 จำนวน 564 ยูนิต มูลค่า 3,707 ล้านบาท ราคาเฉลี่ยต่อยูนิต 6.6 ล้านยูนิต  มีพื้นที่รวม 28,239 ตารางเมตร มีพื้นที่เฉลี่ย 50.1 ตารางเมตร

คนเมียนมา เข้ามาซื้ออสังหาฯในไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้าปี 2564 คนเมียนแทบจะไม่ติด1 ใน 10 ของประเทศที่เข้ามาซื้ออสังหาฯในไทย แต่ปี 66 พบว่า คนเมียนมา เข้ามาซื้ออสังหาฯสูงถึง 564 ยูนิต มูลค่า 3,707 ล้านบาท เพิ่มขึ้นทั้งจำนวนและมูลค่า

นายวิชัย กล่าวว่า ที่ผ่านมากลุ่มคนรวยในเมียนมา มีการส่งลูกหลานเข้ามาเรียนในประเทศไทย เช่น ท่าขี้เหล็ก มีเด็กเมียนมาเรียนโรงเรียนในไทยทำให้เขามาซื้อที่อยู่อาศัยในไทย หากสถานการณ์ความมั่นคงไม่ยุติ คงมีคนเมียนมาซื้ออสังหาริมทรัพย์ไทยอย่างต่อเนื่องในรูปแบบของเรียลดีมานด์มากกว่าเก็งกำไร

ส่วนทำเลที่คนเมียนมานิยมซื้อจะกระจายไปในทำเลที่หลากหลายในกรุงเทพ ไม่ว่าจะเป็นดินแดง ห้วยขวาง สุขุมวิท ทองหล่อ และในจังหวัดท่องเที่ยวมากขึ้น และคาดว่าน่าปีนี้น่าจะมีการซื้ออสังหาฯมากขึ้น

รายงานสถิติการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของชาวต่างชาติของศูนย์อสังหาริมทรัพย์ (REIC) พบว่า สัดส่วนของเมียนมาขึ้นมาเป็นอันดับ 3 ตั้งแต่ปี 2565 ต่อเนื่องถึงปี 2566 มีมูลค่า 2,250 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 4.3% รั้งอันดับ 3 รองจากรัสเซียและจีน ที่สำคัญมีราคาเฉลี่ย 6.5 ล้านบาทต่อยูนิต สูงกว่า จีน และรัสเซีย

 

 อ่านข่าวอื่นๆ:

อุตสาหกรรมอีวีมาแรง นักลงทุนไทย-เทศ แห่แย่งชิงส่วนแบ่งตลาด

 กกร.ชี้ ศก.โลกโต ไทยยังอ่อนแอ-ฟื้นช้า"หนี้ครัวเรือน"กดกำลังซื้อ

กระอัก EU ดีเดย์ ธ.ค.67 ออกมาตรการแบนสินค้าเข้าข่ายทำลายป่า