วันนี้ (26 ม.ค.2567) นายอำพล พงศ์สุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ เพื่อติดตามสถานการณ์แพร่ระบาดโรคติดต่อทางเดินหายใจ หรือโรคไอกรน ที่กำลังแพร่ระบาดในพื้นที่ จ.ยะลา โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 7 ปี กลุ่มเด็กเล็ก และสตรีมีครรภ์ หลังพบผู้ติดเชื้อ 158 คน เสียชีวิต 2 คน
ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์โรคไอกรน พบการแพร่ระบาดของโรคในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และมีแนวโน้มรุนแรม ขณะนี้มีผู้ป่วย 1,000 คน เสียชีวิต 7 คน โดยสั่งการเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัด และหน่วยงานเกี่ยวข้อง เร่งควบคุมการแพร่ระบาด หากไม่มีมาตรการป้องกันที่ดี คาดการณ์ว่าจะพบผู้ป่วยในพื้นที่ยะลาเพิ่มขึ้น ต่อเดือนประมาณ 1,500 คน และอาจจะมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นด้วย
ด้าน นพ.วิเศษ สิรินทรโสภณ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า ข้อมูลสะสมการแพร่ระบาดโรคไอกรนพื้นที่ยะลา ตั้งแต่เดือน ม.ค.2566 ถึงวันที่ 24 ม.ค.2567 จ.ยะลา พบผู้ติดเชื้อ 158 คน ผู้ป่วยเข้าข่าย 91 คน ผู้ป่วยสะสม 448 คน รวมผู้ป่วยมากกว่า 700 คน ส่วนผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 1 เดือน เพราะยังไม่ถึงเกณฑ์เข้ารับการฉีดวัคซีน
สำหรับโรคไอกรน เป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจจากเชื้อแบคทีเรีย ลักษณะคล้าย COVID-19 พบในกลุ่มเด็กเล็กที่ได้รับวัคซีนไม่ครบ มีภูมิต้านทานไม่เต็มที่ ทำให้เกิดอาการเจ็บป่วย เกิดอาการไอและไอต่อเนื่อง กระทั่งบางครั้งหายใจไม่ทัน นำมาสู่การอักเสบของปอด ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ บางรายหนักสุดถึงขั้นเสียชีวิต และโรคนี้สามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน
ทั้งนี้ การป้องกันโรคนี้ ผู้ปกครองเด็กต้องนำบุตรหลานที่มีอายุต่ำกว่า 7 ปี เข้ารับการฉีดวัคซีนคนละ 1 เข็ม เพื่อทำให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ ลดการระบาดในกลุ่มเด็ก รวมถึงกลุ่มหญิงตั้งครรภ์อายุครรภ์เกิน 16 สัปดาห์ขึ้นไป เพื่อสร้างความปลอดภัยทั้งแม่และลูก