วันนี้ (23 ม.ค.2567) เวลา 17.50 น. ทีมเจ้าหน้าที่จาก สบอ.2 (ชลบุรี) พร้อมด้วยตำรวจ บก.ปทส. ตำรวจท่องเที่ยว เข้าตรวจสอบบ้านของเจ้าของคนเลี้ยงลูกสิงโต หลังพบนำออกไปนั่งรถหรูเปิดประทุนโชว์กลางเมืองพัททยาเบื้องต้นถือว่าผิดกฎหมาย ม.19 วรรค 2 พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 เนื่องจากสิงโตเป็นสัตว์ป่าควบคุมชนิด ก. แจ้งครอบครองได้ แต่ต้องห้ามนำออกจากพื้นที่ขออนุญาตเลี้ยงมาโชว์ในที่สาธารณะ และเคลื่อนย้ายสิงโตมาโดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาต มีความผิดตามระเบียบ อส. ว่าด้วยการแจ้งและการรับแจ้ง และการครอบครองซึ่งสัตว์ป่าควบคุมและซากสัตว์ป่าควบคุม 2565 โทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 50,000 บาท
ข้อมูลจากกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช พบว่า มีการแจ้งครอบครองสิงโตทั่วประเทศ ทั้งในสวนสัตว์และบุคคล รวมจำนวน 224 ตัว มากที่สุดในพื้นที่ สบอ.3 (บ้านโป่ง) แจ้งครอบครอง 8 ราย รวม 57 ตัว รองลงมาเป็น สบอ.2 (ศรีราชา) แจ้งครอบครอง 8 ราย รวม 47 ตัว ในจำนวนนี้เป็นของคาเฟ่ในพื้นที่ฉะเชิงเทรา 27 ตัว ส่วนในพื้นที่กรุงเทพฯ แจ้งครอบครอง 4 ราย รวม 39 ตัว ในจำนวนนี้เป็นของบริษัทซาฟารีเวิลด์ จำกัด (มหาชน) 36 ตัว และเชียงใหม่แจ้งครอบครอง 3 ราย รวม 31 ตัว ในจำนวนนี้เป็นของสำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) 24 ตัว
ขณะที่นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า จะมีการทบทวนการแจ้งขอครอบครองสิงโต โดยเฉพาะในส่วนของรายบุคคล ซึ่งเห็นว่าตามหลักแล้วไม่ควรมีการครอบครอง แต่ในกรณีที่ครอบครองก่อนกฎหมายกำหนด อาจจะต้องยกเว้น
อย่างไรก็ตาม กรมอุทยานฯ จะส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบความเหมาะสมของกรงเลี้ยงให้เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัย และสวัสดิภาพสัตว์ ส่วนการขออนุญาตนำเข้าต้องดูแหล่งที่มาว่าถูกต้องหรือไม่ และเมื่อมายื่นคำขอครอบครองจะต้องตรวจสอบรายละเอียด ส่วนเคสที่เป็นข่าวนำสิงโตนั่งโชว์ตัวบนรถ เบื้องต้นยังไม่ชี้ชัดว่าเป็นตัวเดียวกับที่แจ้งครอบครองแล้วหรือไม่ แต่เบื้องต้นมีความผิดในกรณีเคลื่อนย้ายโดยไม่ขออนุญาต
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง