วันนี้ (1 ธ.ค.2566) เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันปรามปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบประจำจังหวัดปัตตานี (ป.ป.ช.) เข้าตรวจสอบโครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวป่าชายเลนและคลองท่ากำชำ โดยขุดลอกคลองท่ากำชำ หมู่ 1 บ้านท่ากำชำ ต.ท่ากำชำ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ขนาดกว้าง 39 เมตร ยาว 1,000 เมตร ลึกเฉลี่ย 2.00 เมตร วงเงินงบประมาณ 9,780,000 บาท
และโครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว ป่าชายเลนและคลองท่ายามู โดยขุดคลองท่ายามู ขนาดกว้าง 45 เมตร ยาว 850 เมตร ลึกเฉลี่ย 2 เมตร วงเงินงบประมาณ 9,750,000 บาท
ซึ่งทั้ง 2 โครงการจัดจ้างด้วยวิธีการคัดเลือก มี หจก.พรเจริญการช่าง 1987 เป็นคู่สัญญา ระยะเวลาดำเนินการขุดลอกรวม 120 วัน ตั้งแต่ 22 ก.ย.2566 สิ้นสุด 19 ม.ค.2567 แต่ปัจจุบัน กลับพบว่า ทั้ง 2 โครงการ ผู้รับจ้างยังไม่เข้าดำเนินการ
เจ้าหน้าที่ อบต.ท่ากำชับ ให้ข้อมูลกับ ป.ป.ช.ว่า สาเหตุที่บริษัทผู้รับจ้างเข้าดำเนินการล่าช้า เพราะมีปัญหาในการขนย้ายเครื่องจักร เนื่องจากเส้นทางเข้ามายังโครงการเล็กและแคบ จึงไม่สามารถนำเรือขุดที่มีขนาดใหญ่เข้ามาได้ จึงต้องเปลี่ยนเส้นทาง วิธีการ รวมถึงลดขนาดของเรือที่ขุดลอกเพื่อเข้ามาดำเนินการ ทำให้เกิดความล่าช้า
ทางเข้ามีสะพานเล็กและถนนแคบ จึงขนเรือขุดที่มีขนาดใหญ่มาไม่ได้ แต่ในสัญญาบังคับว่าต้องใช้เรือขุด ผู้รับเหมาเลยต้องกลับไปหาเรือขนาดขุดที่มีขนาดเล็กกว่าเพื่อให้ย้ายมากับรถได้ จึงต้องใช้เวลาหน่อย
จากการลงพื้นที่ตรวจสอบ ของ ป.ป.ช.ปัตตานี ได้ตั้งข้อสังเกตใน 2 โครงการนี้ โดยเฉพาะปริมาณดินขุดที่ไม่สอดคล้องตามแบแปลน โดยในโครงการแรกคลองท่ายามู หมู่ 3 แบบแปลนระบุว่า มีปริมาณดินขุด 69,700 ลูกบาศก์เมตร แต่ในปริมาณดินขุดตามราคากลางอยู่ที่ 83,300 ลูกบาศก์เมตร
ส่วนโครงการที่ 2 โครงการขุดลอกคลองท่ากำชำ หมู่ 1 มีปริมาณดินขุด 70,000 ลูกบาศก์เมตร แต่ในปริมาณดินขุดตามราคากลางอยู่ที่ 82,000 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งปริมาณดินมีส่วนต่างของงบประมาณรวมเกือบ 2 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังไม่พบการกำหนดจุดทิ้งดินในแบบแปลน และหากขุดแล้วนำไปทิ้งไว้ริมตลิ่ง ก็ต้องขออนุญาตจากเจ้าท่า แต่ทาง อบต.ยังไม่ได้ดำเนินการ
อีกทั้งการดำเนินการที่ล่าช้าไป 2 เดือน คงเหลือเวลาไม่ถึง 2 เดือน ส่งผลต่อการบริหารสัญญา และต้นทุน เช่น ค่าเช่าเรือโบ๊ะ และเรือลากจูง ระยะเวลา 2 เดือน จำนวนกว่า 1.2 ล้านบาท
ทั้งสองโครงการ แต่ละโครงการมีปริมาณดินที่เกินมา 10,000 กว่าคิว ทำให้มีส่วนต่างคือ โครงการหนึ่ง 900,000 บาท อีกโครงการ 800,000 บาท จึงได้ทักทวงกับ อบต.กลับไปพิจารณาใหม่ เพื่อให้ทำถูกต้องตามกฎหมาย
ป.ป.ช. ปัตตานีระบุว่า สาเหตุที่ ป.ป.ช ต้องเข้ามาตรวจสอบโครงการขุดลอกคลอง ปากแม่น้ำ และชายทะเล ก็เพื่อป้องปรามการทำผิดกฎหมาย เพราะหากเข้ามาตรวจสอบในภายหลังที่รับมอบโครงการแล้ว ก็จะเป็นเรื่องยากในการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะมีการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อม น้ำขึ้นน้ำลง
นอกจากนี้ยังพบว่า จากการตรวจสอบว่า 10 โครงการในพื้นที่ปัตตานี มีบริษัทผู้รับเหมาเพียง 2-3 บริษัทเท่านั้นที่ได้รับการว่าจ้างด้วยวิธีคัดเลือก โดยโครงการส่วนใหญ่งบประมาณ 9 ล้านบาทเศษ มูลค่ารวมทุกโครงการกว่า 100 ล้านบาท
ในพื้นที่ปัตตานี มีโครงการกว่า 10 โครงการ แต่พบว่า มีบริษัทผู้รับจ้างแค่ประมาณ 2-3 รายที่ถูกว่าจ้าง กระจายกันไปใน 4-5 อำเภอ มูลค่ารวมกว่า 100 ล้านบาท
และยังมีโครงการใหญ่ที่ดำเนินการโดยกรมเจ้าท่า ในการขุดลอกร่องน้ำปะนาเระ มูลค่ากว่า 77 ล้านบาท รวมทั้งหมด ใน จ.ปัตตานี เกือบ 200 ล้านบาท
โครงการของกรมเจ้าท่า ที่ทาง ป.ป.ช.เข้าไปตรวจสอบพบว่า อยู่ระหว่างการส่งงานงวดสุดท้าย แต่ทางผู้รับจ้างดำเนินการล่าช้า เพราะต้องครบกำหนดสัญญาแล้ว ตั้งแต่วันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา จึงถูกปรับวันละ 77,000 บาท รวมเวลาเกือบ 2 เดือนแล้ว มูลค่าค่าปรับรวมกว่า 10 ล้านบาท
ป.ป.ช.ปัตตานี ยังพบว่า การเสนอโครงการของ อบต.หลายแห่ง มักใช้ถ้อยคำว่า จะใช้วิธีการขุดลอกโดยเรือ แต่สภาพจริงกลับนำรถแบคโฮมาวางบนทุ่นแล้วขุด
ซึ่ง ป.ป.ช ตั้งข้อสังเกตว่า เป็นการขุดด้วยรถมากกว่า ซึ่ง 2 วิธีการนี้ จะต้นทุนจะห่างกันประมาณ 10-20 บาทต่อลูกบาศก์เมตรของปริมาณดินที่ขุด จึงอาจพิจารณาหาข้อเท็จจริงอีกครั้งว่า วิธีการนี้สามารถตีความว่าเป็นการขุดด้วยเรือได้หรือไม่ตามข้อกฎหมาย
อ่านข่าวอื่นๆ
ลด 20% คนจองตั๋วออนไลน์ เดินทาง "ไปก่อน-กลับทีหลัง" ปีใหม่
"ศรีสุวรรณ" จ่อฟ้องราชทัณฑ์-ยธ.-รพ.ตำรวจ ปม "ทักษิณ" นอน รพ.100 วัน
รัฐบาลขอประชาชนอย่ากังวลขึ้นค่าไฟ - "รมว.พลังงาน" พร้อมพิจารณาให้เหมาะสม