วันนี้ (11 ต.ค.2566) นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม กล่าวว่า กรณีคดีนายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ “กำนันนก” ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รับเป็นคดีพิเศษแล้ว พบหลายโครงการมีการเกี่ยวข้องกับการประมูลโครงการของหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงคมนาคม เช่น กรมทางหลวง (ทล.) และ กรมทางหลวงชนบท (ทช.) ดังนั้น หากพบว่ามีการทุจริตเกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ของกระทรวงคมนาคม จะให้ไฟเขียวตำรวจเต็มที่ในการสอบสวน และสั่งการให้ผู้บริหารกระทรวงคมนาคมให้ความร่วมมือเต็มที่ไม่ให้หลุดรอดไปได้
ในช่วงที่ผมเป็นรมว.คมนาคม จะต้องไม่ให้มีส่วยสติ๊กเกอร์ทางหลวงเกิดขึ้น และจะไปตรวจสถานีด่านชั่งน้ำหนักว่าทำตามนโยบายหรือไม่ หากพบมีการทุจริตจะให้ไฟเขียวตำรวจเต็มที่ในการสอบสวน ให้ความร่วมมือเต็มที่ไม่ให้หลุดรอด
นายสุริยะ กล่าวยังตรวจเยี่ยม และมอบนโยบายกรมทางหลวง (ทล.) ว่า ได้สั่งการให้เร่งเดินหน้าพัฒนาโครงข่ายทางถนน โดยเฉพาะถนนสายหลักเชื่อมภูมิภาคต่างๆ และเชื่อมระหว่างจังหวัด
เดินหน้าแผนพัฒนามอร์เตอร์เวย์
ส่วนบริหารการเบิกจ่ายงบประมาณ และสัญญาของโครงการต่างๆ สั่งการให้ ต้องวางแผนล่วงหน้า พร้อมทั้งจัดเตรียมทุกขั้นตอนก่อนลงนามสัญญาก่อสร้าง เช่น การเวนคืนที่ดิน การรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภค การสำรวจสภาพพื้นที่ก่อสร้างให้ตรงกับแบบที่ออกไว้
โดยเฉพาะโครงการในงบประมาณปี 2567 เนื่องจากมีระยะเวลาการทำงานที่สั้นลง ซึ่งโครงการพัฒนามอเตอร์เวย์สายใหม่ ที่ต้องเร่งดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างให้มีการลงนามสัญญาก่อสร้างได้ทันภายในรัฐบาลนี้
นอกจากนี้ยังให้ จัดลำดับความสำคัญโครงการเร่งด่วน ที่มีสัญญาอยู่แล้ว และอยู่ระหว่างก่อสร้าง โดยกำชับให้ดำเนินการแล้วเสร็จ เพื่อเปิดให้บริการโดยเร็ว ได้แก่ โครงการก่อสร้างมอเตอร์เวย์ หมายเลข 6 (M6) สายบางปะอิน-นครราชสีมา, โครงการก่อสร้างมอเตอร์เวย์สาย M81 สายบางใหญ่-กาญจนบุรี, โครงการทางยกระดับบนถนนพระราม 2 และมอเตอร์เวย์สาย M82 สายบางขุนเทียน–บ้านแพ้ว, โครงการพัฒนาคูน้ำริมถนนวิภาวดีรังสิต และโครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ-บอลิคำไซ)
เตรียมชง 3 โครงการเมกะโปรเจกต์เข้าครม.
นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง กล่าวว่า มีโครงข่ายที่รับผิดชอบ 1,530 สายทาง ระยะทาง 52,293 กม. ในปีงบฯ 2566 ได้รับ 118,994.93 ล้านบาท เบิกจ่ายได้ 96.12% หรือ 110,000 ล้านบาท
ส่วนในปีงบประมาณ 2567 ทล.ได้ยื่นคำของบประมาณ 338,418.3181 ล้านบาท มากกว่าในปีงบฯ 2566 ประมาณ 40,000 ล้านบาท หรือปีงบฯ 2566 ขออยู่ที่ 298,418.3181 ล้านบาท
ในส่วนของโครงการที่เตรียมเสนอ ครม.พิจารณาเห็นชอบ 3 โครงการ ระยะทางรวม 59.77 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 91,901 ล้านบาท ได้แก่ 1.โครงการมอเตอร์เวย์ M9 สายวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก ช่วงบางขุนเทียน-บางบัวทอง ระยะทาง 35.85 กม. วงเงิน 56,035 ล้านบาท
โครงการมอเตอร์เวย์ M5 สายทางยกระดับอุตราภิมุข ช่วงรังสิต-บางปะอิน 22 กม. วงเงิน 31,358 ล้านบาทผ่านความเห็นชอบคณะกรรมการ PPP แล้ว โครงการใช้รูปแบบการให้เอกชนร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน โดยเอกชนร่วมลงทุนก่อสร้างงานโยธา งานระบบดำเนินงานและบำรุงรักษา ระยะเวลา 34 ปี ดำเนินงานโยธางานระบบ 4 ปี และ O&M 30 ปี
ทั้ง 2 โครงการนี้จะเสนอกระทรวงคมนาคมภายในสัปดาห์หน้า เพื่อเตรียมเสนอครม.จากนั้นจัดทำร่างเอกสารการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุน และรับฟังความคิดเห็นภาคเอกชน
พร้อมประกาศเชิญชวนให้เอกชนร่วมลงทุน และเปิดประมูลไตรมาส 3 ปี 2567 (ก.ค.-ก.ย. 2566) เริ่มก่อสร้างภายในปี 2567 ใช้ระยะเวลาก่อสร้างและติดตั้งระบบ 4 ปี คาดเปิดให้บริการปี 2571
เปิดแผนขยายเชื่อมต่อสนามบินอู่ตะเภา
ส่วนโครงการมอเตอร์เวย์ M7 ส่วนต่อขยายเชื่อมต่อสนามบินอู่ตะเภา ระยะทาง 1.92 กม. วงเงินลงทุน 4,508 ล้านบาท แบ่งเป็น ค่าก่อสร้างและค่าควบคุมงาน 4,400 ล้านบาท และค่าเวนคืน 108 ล้านบาท ขณะนี้ได้เจรจาแหล่งเงินกู้กับธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) เรียบร้อยแล้ว สัดส่วนเงินกู้ 80% หรือ 3,520 ล้านบาท และเงินงบ 20% หรือ 880 ล้านบาท โดยเรื่องเงินกู้ได้บรรจุในแผนเงินกู้แล้ว
ส่วนเงินงบประมาณได้จัดตั้งงบประมาณปี 2567 จำนวน 880 ล้านบาท และรอพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณปี 2567 คาดจะประกาศใช้ประมาณเดือน เม.ย.2567 จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการประกวดราคาหาผู้รับจ้าง โดยต้องเป็นไปตามเงื่อนไข ADB ซ คาดว่าเดือน ส.ค.-ก.ย.2567 จะได้ตัวเอกชนผู้รับจ้าง จากนั้นจะก่อสร้างภายในปี 2567 แล้วเสร็จปี 2569 ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 2.5 ปี