วันนี้ (6 ต.ค.66) นายชูศักดิ์ ศิรินิล รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย สส.บัญชีรายชื่อ และ ประธาน กมธ.ป.ป.ช.ของสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึง ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแก่ผู้บุคคลซึ่งได้กระทำความผิดอันเนื่องมาจากเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง พ.ศ. .... ที่เสนอโดยพรรคก้าวไกลว่าสมควรจะยื่นร่างกฎหมายประกบหรือไม่ เพราะความคิดเห็นของพรรคยังคงมีความหลากหลาย ซึ่งหากพูดถึงการนิรโทษกรรมอาจดูเหมือนว่าพรรคเพื่อไทยจะตกเป็นจำเลยในอดีต
แต่ส่วนตัวแสดงความเห็นว่า การนิรโทษกรรมมีสิ่งที่ต้องระมัดระวังอย่างยิ่ง อย่าให้ร่างกฎหมายนั้นไปสร้างความขัดแย้งในสังคมมากขึ้น จนกลายเป็นประเด็นใหม่ของความขัดแย้งในสังคม เพราะปัญหายังไม่จบว่าอะไรคือคดีการเมือง หรืออะไรคือการแสดงออกทางการเมือง ต้องหารือให้มีความชัดเจน ไม่เช่นนั้นจะโต้เถียงกันไม่จบ แม้ว่าร่างกฎหมายของพรรคก้าวไกลจะมีคณะกรรมการขึ้นมาวินิจฉัยคดีได้เข้าหลักเกณฑ์
เช่นจะรวมคดีอะไรบ้าง 112 เอาไหม 113 เอาไหม 114 เอาไหม คดีชุมนุมทางการเมืองรวมถึงอะไรบ้าง ควรจะพูดเรื่องนี้กันให้จบ ให้ตกผลึกไม่เช่นนั้นนำเข้าไปพิจารณาจะเป็นปัญหาความขัดแย้ง แต่สำหรับพรรคเพื่อไทยขณะนี้จะต้องนำไปหารือกันในพรรคว่าควรจะดำเนินการอย่างไร
นายชูศักดิ์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคก้าวไกลเห็นว่า เรื่องดังกล่าวจะเป็นก้าวแรกของการหยุดนิติสงครามว่า โดยหลักการความขัดแย้งหากยุติลงได้ก็เป็นเรื่องดี แต่ปัญหาที่จะต้องตอบคือยุติลงจริงหรือไม่ หรือจะกลายเป็นประเด็นความขัดแย้งเพิ่มเติมมากขึ้น เรื่องนี้ต้องคิดให้ดีให้รอบคอบ
ขณะที่นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้ที่ถูกดำเนินคดีหลายพันคนในรอบเกือบ 20 ปีที่ผ่านมา ทำให้เมื่อวาน (5 ต.ค.66) พรรคก้าวไกลได้ยื่นร่างกฎหมายนิรโทษกรรมฯ ส่วนตัวมองว่านักเคลื่อนไหวที่ออกมาต้องการทำให้สังคมดีขึ้น
เป้าหมายแรกที่รัฐบาลควรทำก่อน คือ การคืนความยุติธรรม เพื่อทำให้ทุกฝ่ายลดกำแพง เดินหน้าและใช้กระบวนการทางประชาธิปไตยในการที่จะร่วมกันแสวงหาฉันทามติใหม่ของสังคมไทยว่า แม้เราจะเห็นต่างกันแต่เราอยู่ร่วมกันได้
เมื่อถามว่า ฝั่งรัฐบาลเตือนว่า ต้องระวังเพราะการยื่นร่างกฎหมายนิรโทษกรรมฯ อาจนำไปสู่การสร้างความขัดแย้งใหม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ตนเชื่อว่ากระบวนการนิติบัญญัติในสภาฯจะเป็นพื้นที่ที่ทำให้เราแสดงความคิดเห็นที่ยังไม่ตรงกัน มาออกแบบร่วมกันอย่างรอบคอบและรอบด้าน
นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล
ดังนั้นหากจะผ่านสภาฯได้จนมีผลบังคับใช้ได้ไม่ใช่เพราะพรรคก้าวไกลพรรคเดียว แกนนำพรรครัฐบาลกับเพื่อไทยหรือพรรคอื่น ๆ แม้กระทั่ง สว.ก็ต้องมีความเห็นที่เป็นจุดร่วมกัน ตนขอเชิญชวนพรรคการเมืองต่าง ๆ ถ้าเป็นไปได้สามารถส่งร่างของตนเองมาประกบได้
ผมคิดว่าใช้กระบวนการทางสภาดีกว่าใช้อำนาจบริหารอย่างเดียว ถ้าเกิดไปออก พ.ร.ก.นิรโทษกรรม อันนี้ยิ่งเป็นกระบวนการที่รวบรัดและขาดการมีส่วนร่วม แต่กระบวนการทางสภาผ่านหลายขั้นตอน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
"เศรษฐา" ลุยน้ำท่วมอีสาน 6-7 ต.ค.นี้ เร่งเคลียร์รับฝนระลอกใหม่
เปิด 35 คกก.ศึกษาแนวทางทำประชามติ แก้ รธน. "ภูมิธรรม" ประธาน
ก้าวไกลยังไม่ตอบร่วมคกก.แก้ รธน. ชี้กรอบยังไม่ชัด
ปลัดมท.เซ็นให้ "ผู้ว่าฯตรัง" ออกจากราชการ เซ่นปมจัดซื้ออัลฟ่า 6