ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"บิ๊กก้อง" เอาผิด ม.157 ตำรวจ 15 นายงานเลี้ยงกำนันนก - ผกก.เบิ้ม พ้นผิด

อาชญากรรม
26 ก.ย. 66
10:54
3,677
Logo Thai PBS
"บิ๊กก้อง" เอาผิด ม.157 ตำรวจ 15 นายงานเลี้ยงกำนันนก - ผกก.เบิ้ม พ้นผิด
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
สอบสวนกลาง เอาผิด ม.157 ตำรวจร่วมงานเลี้ยง "กำนันนก" 15 นาย ส่วน ผกก.เบิ้ม ไม่พบความผิด กล้องวงจรปิด ชัด! ช่วยเหลือผู้ถูกยิงอย่างต่อเนื่อง เตรียมส่งกล้องวงจรปิดตัวที่ 6 กู้ไฟล์ไขปริศนาวันยิง สารวัตรแบงค์

วันนี้ 26 ก.ย.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดี จากกรณีนายธนัญชัย อายุ 45 ปี หรือ "หน่อง ท่าผา" ลูกน้องคนสนิท นายประวีณ หรือ กำนันนก ใช้อาวุธปืนยิง พ.ต.ต.ศิวกร หรือ สารวัตรแบงค์ สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. เสียชีวิต และ พ.ต.ท.วศิน รอง ผกก.2 บก.ทล. ได้รับบาดเจ็บ ในพื้นที่ ต.ตาก้อง อ.เมือง จ.นครปฐม เมื่อช่วงดึกวันที่ 6 ก.ย.2566

ต่อมา ศาลได้ออกหมายจับ นายธนัญชัย ในความผิดฐาน "ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และ พยายามฆ่าผู้อื่น" และออกหมายจับ นายประวีณ ในความผิดฐาน "เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และ พยายามฆ่าผู้อื่น" ทางสํานักงานตํารวจแห่งชาติ เห็นแล้วว่า เป็นคดีที่เกี่ยวกับผู้มีอิทธิพล เป็นคดีอุกฉกรรจ์ เป็นคดีสะเทือนขวัญที่ประชาชนและสื่อมวลชนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ในวันที่ 7 ก.ย.2566 กองบังคับการปราบปราม ได้รับโอนสำนวนคดีฆ่า เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้มีอิทธิพลหรือคนที่เกี่ยวข้อง เข้ามาแทรกแซงได้ในเรื่องนี้

การแถลงความคืบหน้าคดียิงสารวัตรแบงค์ของตำรวจสอบสวนกลาง

การแถลงความคืบหน้าคดียิงสารวัตรแบงค์ของตำรวจสอบสวนกลาง

การแถลงความคืบหน้าคดียิงสารวัตรแบงค์ของตำรวจสอบสวนกลาง

จากการสืบสวนพบว่า มีข้าราชการตำรวจ 6 คน ที่ไปร่วมงานวันเกิดเหตุ ที่มีพฤติการณ์เข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และซุกซ่อนทำลายพยานหลักฐาน เมื่อวันที่ 9 ก.ย.2566 จึงได้ขอศาลอนุมัติหมายจับ และเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมตำรวจ 6 คนดังกล่าว กองบังคับการปราบปราม รวบรวมพยานหลักฐานแล้วเห็นว่า ทั้งคดีฆ่า และคดีที่เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ (ป.อาญา มาตรา 157) ล้วนเป็นเหตุการณ์เดียวกัน

ต่อมาวันที่ 14 ก.ย.2566 ทางชุดคณะทํางานของสํานักงานตํารวจแห่งชาติ จึงได้โอนสำนวนการสอบสวนมาที่กองบังคับการปราบปรามให้มีอํานาจสอบสวนฝ่ายเดียว ซึ่งในวันที่ 18 ก.ย.2566 ที่ผ่านมา กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ได้แถลงข่าวไขข้อสงสัยในประเด็นการโอนสำนวน, สำนวนคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ในที่เกิดเหตุกระทำความผิดตาม ป.อาญา มาตรา 157, แนวทางการสืบสวนและการทำงาน และแถลงความคืบหน้าในประเด็นต่าง ๆ ให้แก่สื่อมวลชน หลังจากที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ได้มีการเร่งรัดประชุมหารือกับทางคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่เป็นไปตามข้อกฎหมายอย่างครบถ้วนสมบูรณ์

ความคืบหน้าทางคดี

  1. ประเด็นความผิดตาม ป.อาญา มาตรา 157 กรณีมีภาพข่าวที่ปรากฏมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหลายนาย ไปร่วมงานในวันเกิดเหตุ ทางกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ตรวจสอบแล้วพบว่า ในวันเกิดเหตุมีข้าราชการตำรวจ ไปร่วมงาน จำนวน 29 คน ได้ร่วมกันพิจารณาข้อเท็จจริง ประกอบพยานหลักฐาน แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม 
    การแถลงความคืบหน้าคดียิงสารวัตรแบงค์ของตำรวจสอบสวนกลาง

    การแถลงความคืบหน้าคดียิงสารวัตรแบงค์ของตำรวจสอบสวนกลาง

    การแถลงความคืบหน้าคดียิงสารวัตรแบงค์ของตำรวจสอบสวนกลาง

  2. เจ้าหน้าที่ตำรวจ 6 นาย ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 9 ก.ย. ถูกนำตัวไปฝากขังต่อศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 โอนการฝากขังและโอนตัวผู้ต้องหาไปยังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง และเรือนจำพิเศษสมุทรสงคราม ได้ย้ายตัวผู้ต้องหามาที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ เมื่อวันที่ 20 ก.ย. ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการฝากขังครั้งที่ 2
  3. "กำนันนก" เข้ามอบตัววันที่ 7 ก.ย.2566 ฝากขังที่ศาลอาญา เมื่อวันที่ 9 ก.ย. ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการฝากขังครั้งที่ 2
    • กลุ่มที่ 1 กลุ่มผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ จำนวน 2 คน
    • กลุ่มที่ 2 กลุ่มที่ให้การช่วยเหลือผู้ต้องหา มีจำนวน 6 คน ซึ่งถูกออกหมายจับดำเนินคดีและนำตัวไปฝากขังแล้วก่อนหน้านี้
    • กลุ่มที่ 3 กลุ่มที่ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บโดยทันทีขณะเกิดเหตุ จำนวน 6 คน
    • กลุ่มที่ 4 กลุ่มที่มีพฤติการณ์ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ จำนวน 15 นาย จะแจ้งข้อกล่าวหาให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์นี้ ไม่เกินศุกร์ที่ 29 ก.ย.นี้
  4. หลังจากเกิดเหตุ เมื่อวันที่ 11 ก.ย. พ.ต.อ.วชิรา หรือ ผกก.เบิ้ม ได้มีการใช้อาวุธปืนปลิดชีพตนเอง ในบ้านพักย่าน อ.คูคต จ.ปทุมธานี จึงเป็นประเด็นที่สื่อมวลชนให้ความสนใจ ว่าประเด็นการเสียชีวิตดังกล่าวมีส่วนเชื่อมโยงในคดีนี้อย่างไร

พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ระบุว่าจากการสืบสวนสอบสวนพบว่า พ.ต.อ.วชิรา อยู่ในกลุ่มให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บโดยทันทีขณะเกิดเหตุ โดยหลังเกิดเหตุได้เร่งรีบนำตัว พ.ต.ต.ศิวกร และ พ.ต.ท.วศิน ไปโรงพยาบาลเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องโดยทันที ไม่เข้าข่ายเป็นความผิด เป็นเหตุจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องนำคนเจ็บส่ง โรงพยาบาล ไม่มีเจตนาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่

ส่วนในกลุ่มตำรวจที่เข้าข่ายความผิดตาม ป.อาญา มาตรา 157 ทั้ง 15 นาย คณะพนักงานสอบสวนสืบสวน จะเรียกเข้ามาพบพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งข้อหาให้ทราบ โดยจะดำเนินการตามกฎหมาย

เชื่อว่า 15 คนไม่หลบหนีและจะประสานส่งหมายเรียก พยายามทำให้จบภายในวันที่ 29 ก.ย.นี้

ขณะที่ เรื่องคดีการฮั้วประมูลของกำนันนก ปัจจุบัน กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ได้ทำการสืบสวนสอบสวนคู่ขนานกันไปกับทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI), ชุดทำงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง และหากพบการกระทำความผิดก็จะมีการดำเนินคดีตามกฎหมาย

ผลสอบกล้องวงจรปิดเตรียมส่งรีเช็กต่างประเทศ

ส่วนประเด็นที่ 2 ยืนยันตามเดิมกล้องวงจรปิดในบ้านเกิดเหตุ มีเซิร์ฟเวอร์ที่ถูกทิ้งน้ำและนำมาตรวจสอบ ประกอบการตรวจสอบที่เกิดเหตุ สายกล้องที่ติดในบ้านพักกำนันนกทั้ง 15 ตัว โดยกล้องที่มีสีแดง ที่บันทึก 12 กล้อง ส่วนตัวที่อีก 14-15 เป็นกล้องที่เสียมานานแล้ว ส่วนกล้องหมายเลข 12 เป็นกล้องที่ไม่เสียแต่ข้อมูลใน NVR ไม่ได้มีการบันทึก ส่วนกล้องหมายเลข 6 พบว่าปิดตั้งแต่เวลา 10.16 น. ของวันที่ 6 ก.ย. แต่คงไม่จบแค่นี้ และ NVR จะนำส่งสำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม และส่งไปที่ต่างประเทศที่ตรวจหาข้อมูลเพิ่มเติมว่าตรงกับข้อมูลของพิสูจน์หลักฐานหรือไม่ 

การแถลงความคืบหน้าคดียิงสารวัตรแบงค์ของตำรวจสอบสวนกลาง

การแถลงความคืบหน้าคดียิงสารวัตรแบงค์ของตำรวจสอบสวนกลาง

การแถลงความคืบหน้าคดียิงสารวัตรแบงค์ของตำรวจสอบสวนกลาง

พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า จุดที่สำคัญที่สุด คือ กล้องเบอร์ 6 ส่องไปที่ลานจัดงาน มีโต๊ะกลม 1 โต๊ะ โต๊ะยาว 1 โต๊ะ หากได้มาจะมีประโยชน์มาก แต่หากไม่ได้ ก็มั่นใจว่าดำเนินคดีผู้ต้องหาทั้ง 2 คนได้ ซึ่งกำนันและคนในบ้าน อาจไม่อยากให้ปรากฏภาพนายตำรวจที่ร่วมงานอาจกระทำอะไรไม่เหมาะสม เช่น ถอดเสื้อ สิ่งที่ทำได้คือส่งไปให้ผู้เชี่ยวชาญลองกู้ภาพ

วันนี้บันทึกหรือไม่บันทึกยังไม่รู้เลย ถ้าบันทึกแล้วเอาออกมาได้เชื่อว่าเห็น
แต่อาจมีการดึงปลั๊กหรือสายแลนออกก่อนงานเริ่ม

พล.ต.ท.จิรภพ ตอบถึงประเด็นมีตำรวจขึ้นลำกล้องปืน ว่าการพูดคุยกับทีมกฎหมายมองว่า หลังเกิดเหตุตำรวจมีหน้าที่จับกุมผู้ก่อเหตุ ยกเว้นเหตุจำเป็นต้องไปช่วยผู้บาดเจ็บ โดยพบว่า มีคนพยายามช่วยผู้บาดเจ็บทั้งหมด 6 คน คือ

เมื่อสารวัตรแบงค์ถูกยิงและร่วงลงมานั้น จากคำให้การของหลายคน ระบุว่า พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์ หรือ ผกก.เบิ้ม ได้เข้ามาช่วย จากนั้นพากันออกไป โดยมีกล้องจับภาพได้บริเวณจุดที่วิ่งมาเอารถกัน โดย จ.ส.ต.ทศพล วิ่งไปนำรถของสารวัตรแบงค์

ผกก.เบิ้ม วิ่งเข้ามาพร้อมกับ 3 คนแรก คือ สารวัตรแบงค์, ด.ต.ชนาณัฐ และ จ.ส.ต.เมทิศกร ซึ่งเป็นผู้ขับรถเก๋งโตโยต้า แคมรี่ ไปส่งโรงพยาบาล

จากนั้น ผกก.เบิ้ม ไปขึ้นรถ BMW ที่มี จ.ส.ต.ทศพล เป็นคนขับ จากนั้นได้ลงจากรถ และวิ่งไปเอาโทรศัพท์มือถือในงาน และรีบวิ่งออกมาพบ พ.ต.ท.วศิน พันปี (ถูกยิงบาดเจ็บ) และมีอาการเป็นลมในลานจอด จากนั้นได้วิ่งมาขึ้นรถกระบะนิสสัน นาวาร่า โดยมี พ.ต.ต.ณรงค์ และ พ.ต.ต.สราวุฒิ ช่วยเหลือ จากนั้น พ.ต.ต.สราวุฒิ (ผู้ขับขี่รถกระบะ) พาขึ้นรถกระบะไปส่งโรงพยาบาล

กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่พยายามช่วยผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต เป็นแค่กลุ่มเดียวที่ไม่แจ้งข้อหา 157
ข่าวที่เกี่ยวข้อง