หนึ่งในผู้นำที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดในโลกขณะนี้ กำลังพยายามควบคุมการเลือกตั้งทั่วไปของประเทศที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยที่เขาหวังว่าเขายังจะสามารถควบคุมทุกอย่าง เพื่อส่งต่ออำนาจไปสู่ลูกชายคนโต ทายาททางการเมืองของตัวเองได้
ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาวัย 70 ปี ครองอำนาจมาตั้งแต่ปี 2528 มีเพียง พอล บิยา อดีต ปธน.คนที่ 2 ของแคเมอรูนที่ดำรงตำแหน่งนานถึง 41 ปี และ เตโอโดโร โอเบียง อึงเกมา อึมบาโซโก ปธน.แห่งอิเควทอเรียลกินี ที่ขณะนี้ดำรงตำแหน่งนานที่สุดในโลกถึง 43 ปีแล้ว
การเลือกตั้งทั่วไปของกัมพูชาที่กำลังจะเปิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ (23 ก.ค.2566) เป็นการเลือกตั้งครั้งที่ 7 ของประเทศ แม้ผู้คนกัมพูชาจะตื่นตัวในการเลือกตั้ง แต่ส่วนใหญ่ก็พอคาดเดาได้ว่า ไม่น่าจะมีอะไรเปลี่ยนไปจากเดิม เนื่องจากมีการรณรงค์และการปราบปรามบุคคลฝ่ายค้านก่อนหน้าช่วงเลือกตั้งนานหลายสัปดาห์ โดยพรรคประชาชนกัมพูชา (CPP) ที่ปกครองโดยสมเด็จ ฮุน เซน
การเลือกตั้งในวันที่ 23 ก.ค.นี้ เป็นเพียงวันที่ ฮุน เซน จะกำหนด (ทางเลือกของเขา) ให้กับชาวกัมพูชา นโยบายและการปฏิบัติที่ไร้ความปรานีของเขา ทั้งการกำจัดคู่แข่งทางการเมืองและนักวิจารณ์คนอื่นๆ ทั้งหมดก็เพื่อปกป้องอำนาจและส่งต่อไปยังลูกชายคนโตของเขา ฮุน มาเนต
มุ สุจัว นักการเมืองกัมพูชาที่ขณะนี้ลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศกล่าวกับ CNN
จากประชาธิปไตยสู่อัตตาธิปไตย
"ราชอาณาจักรกัมพูชา" ประเทศที่มีประชากร 16.5 ล้านคน แม้จะมีชื่อเสียงในด้านปราสาทนครวัด โบราณสถานที่สวยงาม แต่ยังมีประวัติศาสตร์ที่สับสนวุ่นวายคู่ขนานไปด้วย เมื่อระบอบการปกครองของ "เขมรแดง" ทำให้เกิดการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวกัมพูชากันเอง "ฮุน เซน" เข้าร่วมกับกองกำลังทหารจากเวียดนาม เพื่อโค่นล้มระบอบเขมรแดง และปลดปล่อยประเทศและประชาชนกัมพูชาจากระบอบการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของกัมพูชาได้สำเร็จ ในปี 2522
ตั้งแต่นั้นมาเขาก็กลายเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลและมีชื่อเสียง เข้าดำรงตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศในสาธารณรัฐประชามานิตกัมพูชา ตอนอายุ 26 ปี เขาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศที่อายุน้อยที่สุดในโลกในเวลานั้น
สาธารณรัฐประชามานิตกัมพูชา : เป็นรัฐบาลที่จัดตั้งในกัมพูชาโดยแนวร่วมปลดปล่อย ซึ่งเป็นกลุ่มของกัมพูชาฝ่ายซ้ายที่อยู่ตรงข้ามกับกลุ่มของเขมรแดง ล้มล้างรัฐบาลกัมพูชาประชาธิปไตยของพล พต โดยร่วมมือกับกองทัพของเวียดนาม ทำให้เกิดการรุกรานเวียดนามของกัมพูชา เพื่อผลักดันกองทัพเขมรแดงออกไปจากพนมเปญ
6 ปีหลังเปลี่ยนแปลงการปกครองของกัมพูชา "ฮุน เซน" ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ในเดือน ม.ค.2528 และดำรงตำแหน่งนั้นยาวเรื่อยมาจนปัจจุบัน
ขบวนหาเสียงพรรค CPP
นักวิเคราะห์การเมืองหลายคนมองว่า การเลือกตั้งของกัมพูชาในช่วงแรกมีการแข่งขันและฝ่ายค้าน แต่ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ฮุน เซน กลับกลายเป็นเผด็จการมากขึ้น ปราบปรามผู้เห็นต่างและสั่งจำคุกนักวิจารณ์ รวมถึงบีบให้หลายคนต้องลี้ภัยไปต่างประเทศ
อ่าน : ไม่เปลี่ยนแปลง! ฮุน เซน มั่นใจชนะเลือกตั้งกัมพูชา
แม้ ฮุน เซน จะต้องเผชิญกับคำวิจารณ์ด้านลบ แต่เขาเลือกปฏิเสธด้วยการอนุญาตให้จัดตั้งพรรคการเมืองขนาดเล็กอีก 17 พรรคเพื่ออ้างว่าเป็นประชาธิปไตยที่หลากหลาย แต่ บริดเจต เวลช์ นักวิเคราะห์การเมือง กล่าวว่าพรรคฝ่ายค้านและบุคคลสำคัญทั้งหมดจะถูกทำหมันทางการเมือง ถูกสั่งจำคุก ไปในที่สุด
นายกรัฐมนตรีในอนาคต?
นักวิเคราะห์การเมืองกล่าวว่าการเลือกตั้งทั่วไปของกัมพูชาที่กำลังจะเกิดขึ้น จะเป็นเวทีสำหรับการเปลี่ยนผ่านอำนาจของฮุน เซน ไปสู่ ฮุน มาเนต ลูกชายของเขา
ฮุน มาเนต วัย 45 ปี รับราชการในกองทัพกัมพูชาและถูกมองว่าจะเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งนายกฯ ของกัมพูชาในอนาคต เขาเติบโตและได้รับการศึกษาในกรุงพนมเปญ ก่อนเข้าร่วมกองทัพกัมพูชาในปี 2538 ในปีเดียวกันนั้น เขาเข้าโรงเรียนทหารสหรัฐที่ เวสต์พอยต์ กลายเป็นชาวกัมพูชาคนแรกที่สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนแห่งนี้
นอกจากนี้ ฮุน มาเนต ยังได้รับปริญญาด้านเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก ในปี 2545 และ มหาวิทยาลัยบริสตอล ปี 2551 ฮุน เซน กล่าวอย่างชัดเจนในการปราศรัยในปี 2564 ว่าลูกชายของเขาจะเป็น "นายกรัฐมนตรีในอนาคต"
อ่าน : ชาติตะวันตกส่งสัญญาณ "กัมพูชา" เลือกตั้งเป็นธรรม
บริดเจต เวลส์ กล่าวอีกว่า ปีนี้ ฮุน มาเนต จะเปิดตัวทางการเมือง โดยได้ที่นั่งในรัฐสภาอย่างแน่นอนจากการเลือกตั้งวันอาทิตย์นี้ สิ่งที่ท้ายทายสำหรับเขา คือ จะสามารถออกมาจากเงาของพ่อและกำหนดรูปแบบการเป็นผู้นำของตัวเองได้หรือไม่
เขาจำเป็นต้องได้รับความชอบธรรม เพื่อจะเป็นนายกฯ ในอนาคตของกัมพูชา
ฮุน มาเนต ขณะหาเสียง
ขณะที่ มาร์คุส คาร์บอม นักวิเคราะห์การเมืองชาวเยอรมัน มองว่า ฮุน มาเนต ได้รับการศึกษาระดับเฟิร์สคลาสในต่างประเทศ และเป็นผู้มีคะแนนนิยมในหมู่ชาวกัมพูชารุ่นใหม่ แต่เขาต้องเผชิญกับความท้าทายที่ยากลำบากในการก้าวเข้าสู่บทบาทของพ่อ เพราะ ฮุน เซน ได้ทิ้งมรดกทางการเมืองที่เป็นพิษจากการทุจริตและการเลือกที่รักมักที่ชังเอาไว้อย่างยาวนาน
ตราบใดที่ ฮุน เซน ยังแข็งแรง จะเป็นเรื่องยากมากสำหรับ ฮุน มาเนต ที่จะก้าวออกจากเงาของเขา
เขาจะเป็นเพียงนักการเมืองที่ไม่มีอำนาจและไม่ได้รับการยอมรับทั้งจากคนในกัมพูชาและเวทีโลก
ที่มา : CNN