วันนี้ (18 พ.ค.2566) "สูตรก้าวไกล กับ 7 พรรค 313" เสียงจากคุณสุพันธ์ุ มงคลสุธี รองหัวหน้าพรรคและประธานคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ พรรคไทยสร้างไทย ยืนยันว่า พรรคน้อยลง เสียงมาจากประชาชนและเอกชนชัดเจน มองในมุมนักลงทุนไม่มีปัญหา การเป็น คุณพิธา หรือ ก้าวไกล ไม่ใช่ประเด็น เพราะ ประเด็นที่ตลาดทุนกังวล คือ
ส.ว. จะเอายังไง และ ท่าทีของฝ่ายที่พ่ายแพ้การเลือกตั้ง ยังไม่มีใครออกมาประกาศยอมรับผลการเลือกตั้ง ตามมารยาททางการเมือง
ถามว่ากังวลกับท่าทีกองทัพหรือไม่ สุพันธ์ุ ชี้ว่าน้ำหนักความกังวลมีไม่มาก เชื่อว่าคงไม่ง่ายขนาดนั้น เพราะประเทศจะยิ่งเดินต่อไปยาก จึงเป็นเหตุผลที่เชื่อว่า
หากโหวตนายกได้ จัดตั้งรัฐบาลชัดเจน ตลาดหุ้น ตลาดทุน จะไปได้อย่างสดใส และเข้มแข็ง
ถามว่าการเป็นรัฐบาลร่วมกันระหว่าง ก้าวไกล กับ เพื่อไทย จะมีปัญหาในการปรับนโยบายที่ต่างกัน ให้ไปด้วยกันได้อย่างไร สุพันธ์ุ ชี้ว่านโยบายส่วนใหญ๋คล้ายๆ กัน เน้นการเพิ่มสวัสดิการ แม้รายละเอียดไม่ตรงกัน แต่ไม่ขัดกันหรือแม้แต่เรื่องการลดความเหลื่อมล้ำ ช่วย SME ที่จะต้องไปลดทอนอำนาจผูกขาดของขนาดธุรกิจใหญ่ ทิศทางการหารือออกมาดี เพียงแต่จุดโฟกัสต่างกัน
จับตาจุดร่วมนโยบายเศรษฐกิจ ก้าวไกล-เพื่อไทย
ผศ. ธนพร ศรียากูล ผู้อำนวยการสถาบันวิเคราะห์การเมืองและนโยบาย ชี้ว่า "ก้าวไกลกับเพื่อไทย" มองนโยบายไม่เหมือนกัน พูดง่ายๆ คือ "เพื่อไทย" มาแบบต้องรีบปั๊มหัวใจ ส่วน "ก้าวไกล" มองเรื่องแก้ที่ระบบ แต่เกณฑ์ที่เป็นเรื่องที่ไม่อาจปฏิเสธก็คือ วินัยการเงินการคลังกับเม็ดเงินที่เหลืออยู่ 2 แสนล้านบาท จะทำอะไรได้ไวที่สุด
ดิจิทัลวอลเล็ต กับ เติมสวัสดิการ อย่างหลังอาจจะเกิดได้ไวกว่า และยิ่งต้องจับตาดู ถ้าก้าวไกลไม่ปล่อยเก้าอี้ รมว.คลัง
และในเชิงอำนาจ สิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับแนวทางของเพื่อไทยก็คือ การรื้อระบบ กฎเกณฑ์ เพื่อลดการผูกขาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งที่ผ่านมา พ.ร.บ.แข่งขันการค้า และ จัดการวิธีปฏิบัติงานคณะกรรมการแข่งขันการค้า ที่เป็นต้นตอของการเอื้อทุนผูกขาด จะขยับกันรุนแรงแค่ไหน
อ่านข่าวเพิ่ม :
เลือกตั้ง2566 : "พิธา" นำ 8 พรรคแถลงร่วมตั้งรัฐบาล 313 เสียง มั่นใจโหวตผ่านนายกฯ