สร้างปรากฏการณ์ไม่หยุด สำหรับภาพยนตร์บุพเพสันนิวาส ๒ หลังเปิดตัวเมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา ก็ทำรายได้สูงสุดครองอันดับ 1 ในรอบ 3 ปี ด้วยรายได้ทั่วประเทศ 51.19 ล้านบาท ทันทีที่ฉายวันแรก และทำรายได้พิ่มขึ้น 39.55 ล้านบาท รวมเป็น 90.74 ล้านบาท ทั่วประเทศ ในวันที่ 2 จากกระแสตอบรับที่คึกคักจากบรรดาแฟนละครที่เฝ้ารอภาคต่อกันมานาน
ภาพ : GDH
การเปิดตัวในช่วงวันหยุดยาวนับเป็นอีกกลยุทธ์ที่ทำให้บรรยากาศหน้าโรงภาพยนตร์หลายแห่งเต็มไปด้วยผู้ชมมากมาย ทั้งคุณตา คุณยายที่จูงมือลูกหลานมาดูร่วมกัน การันตีความโรแมนติก-คอมเมดี้ด้วยแบรนด์จีทีเอช ผนวกกับผู้จัดมากฝีมืออย่างบอรด์คาซท์ ทำให้กลุ่มผู้ชมทุกเพศทุกวัยตบเท้าต่อแถวซื้อตั๋วเข้าชมกันจนเต็มโรงในหลายพื้นที่
ภาพ : GDH
ความคึกคักที่เกิดขึ้น เห็นได้ชัดเจนว่านำไปสู่การใช้จ่ายนอกบ้านหลังเงียบเหงากันมานานในช่วง COVID-19 ระบาด โดยเฉพาะบรรยากาศการสวมใส่ชุดไทยของออเจ้าทั้งหลาย ที่เคยฟีเวอร์ช่วงละครออนแอร์ผ่านทางโทรทัศน์ก็หวนกลับมาอีกครั้ง ยังไม่รวมถึงการซื้ออาหาร เครื่องดื่มต่าง ๆ หน้าโรงภาพยนตร์ หรือบางคนก็อาจจะวางแพลนจัดบุฟเฟ่ต์ให้อิ่มท้อง หลังอิ่มใจจากภาพยนตร์กันด้วย
ไม่เพียงแต่ออฟไลน์ที่คึกคักเท่านั้น แต่ออนไลน์เองกระแสภาพยนตร์เรื่องนี้ก็มาแรงอย่างต่อเนื่อง #บุพเพสันนิวาส๒ ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ไทยต่อเนื่องมาแล้ว 4 วัน ขึ้น ๆ ลง ๆ ไต่อันดับไปมา แต่ยังเกาะอันดับอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับคำค้นหาใน Google ก็มีคำว่า บุพเพสันนิวาส ๒ มาต่อเนื่องเช่นกัน
ติดแท็ก ติดเทรนด์ พลังโซเชียล พลังแฟนคลับ
สำหรับกระแสในโลกออนไลน์ต้องยอมรับว่า เหล่าแฟนละคร และแฟนคลับนักแสดงถือเป็นอีกแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้ #บุพเพสันนิวาส๒ เป็นกระแสจนเรียกได้ว่าอาจจะกลับมาฟีเวอร์อีกครั้ง ทั้งตัว เบลล่า ราณี แคมเปน - โป๊ป ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ นักแสดงมากฝีมือที่มีฐานแฟนคลับเหนียวแน่น ถึงขั้นเหมาโรงภาพยนตร์เพื่อจัดกิจกรรมชมบุพเพสันนิวาส ๒ กันเฉพาะในกลุ่มแฟนคลับก็มีให้เห็นกันทั้งแฟนบ้านคู่ และบ้านเดี่ยว อย่างในวันนี้ แฮชแท็ก #ส้มส้มปิดโรงดูบุพเพ2 ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ไทย หลังแฟนคลับโป๊ปเหมาโรงรับชมกันอย่างอบอุ่น
ภาพ : @MOMPPLLL3
ขณะเดียวกันในภาพยนตร์บุพเพสันนิวาส ๒ ยังมีนักแสดงวัยรุ่นมากฝีมือทั้งไอซ์ พาริส อินทรโกมาลย์สุต และ นน-ชานน สันตินธรกุล ก็เป็นอีกตัวช่วยกวาดกลุ่มคนดูรุ่นใหม่ซึ่งเป็นแฟนคลับของทั้งคู่มาเพิ่มได้อีก
แรงซัพพอร์ตจากแฟนคลับก็ส่วนหนึ่ง แต่อีกส่วนที่ลืมไม่ได้ คือ การลงทุน “เหรียญบุพเพ ๒” (DESTINY TOKEN) ซึ่งผู้ที่ลงทุนจะได้สิทธิ์รับเงินต้นคืน เมื่อสิ้นสุดโครงการ (ไม่เกิน 2 ปี) และได้รับผลตอบแทน 2.99% ต่อปี และมีโอกาสรับผลตอบแทนโบนัสเพิ่มอีก 2.01% ต่อปี (รวมร้อยละ 5 ต่อปี) เมื่อรายได้จากการฉายหนังบุพเพ ๒ รวมทั่วประเทศมากกว่า 1,000 ล้านบาท ย่อมทำให้ผู้ลงทุนมีแรงที่จะชักชวนผู้คนไปร่วมรับชมภาพยนตร์ดังเพื่อเพิ่มรายได้ให้มากขึ้น
ภาพ : GDH
ปัจจัยต่าง ๆ ที่สนับสนุนซึ่งกันและกัน คงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ฉายมาเพียง 3 วัน บุพเพสันนิวาส ๒ ก็ทำรายได้ทั่วประเทศรวม 134 ล้านบาทแล้ว ซึ่งนับว่าเป็นสถิติทะลุ 100 ล้านบาทที่เร็วมาก และเร็วกว่าภาพยนตร์ 1,000 ล้านอย่าง "พี่มาก...พระโขนง" จากค่ายเดียวกันที่ใช้เวลา 4 วัน จึงทะลุ 100 ล้านอีกด้วย
ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้สร้างความประทับใจในประเทศไทยเท่านั้น แต่กำลังจะไปสร้างปรากฏการณ์ในอีก 4 ประเทศ ได้แก่ ลาว เข้าฉาย 28 ก.ค.2565, ออสเตรเลีย เข้าฉาย 30 ก.ค.2565, สิงคโปร์ เข้าฉาย 11 ส.ค.2565 และกัมพูชา เข้าฉาย 11 ส.ค.2565 หลังจากนี้อาจต้องจับตากันต่อไปว่า ภาพยนตร์บุพเพสันนิวาส ๒ จะสร้างสถิติใหม่อะไรในแวดวงภาพยนตร์ไทยอีกบ้าง เป้าหมาย 1,000 ล้านอาจอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมนะออเจ้า
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิดตัว Destiny Token ระดมทุนสร้างหนัง
#เรียกออนนี่อย่าเรียกออเจ้า ไทย-เกาหลี ผุด "บุพเพสันนิวาส" ฉบับเว็บตูน
“บุพเพสันนิวาส” สร้างโอกาสในแสงริบหรี่วงการหนังสือไทย
ตามรอย "บุพเพสันนิวาส" แต่งชุดไทย เที่ยววัดไชยวัฒนาราม จ.พระนครศรีอยุธยา