วันนี้ (2 มิ.ย.2565) เวลาประมาณ 21.30 น. บรรยากาศการประชุมสภาอภิปราย ร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566
นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ลุกขึ้นอภิปรายงบประมาณ โดยกล่าวถึงสำนักงบประมาณ ระบุว่า ประเทศไทยมีรายจ่ายประจำเกินกว่ารายได้ และนำไปสู่การกู้เงินเพิ่มเพื่อมาสมทบรายจ่ายประจำ นับเป็นอันตรายที่เกิดขึ้นมาหลายสิบปี และสะท้อนถึงวินัยการเงินการคลัง
อย่างไรก็ตาม หลังอภิปรายเสร็จสิ้น นายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ ส.ส.พรรคชาติไทยพัฒนา ลุกขึ้นประท้วงประธานในที่ประชุมว่า นายชาดา ไม่มีรายชื่อในการอภิปราย และแทรกคิวการอภิปราย พร้อมระบุว่า การอภิปรายต้องสลับฝ่ายกันเพื่อความเป็นธรรม
ประธานในที่ประชุมก็ชี้แจงว่า สลับฝ่ายละ 2 คนอยู่แล้ว ยืนยันกระทำตามข้อกำหนด ส่วนชื่อของนายชาดา มีอยู่ในสิสต์บนบังลังก์สามารถมาตรวจสอบได้
ทันทีที่ประธานในที่ประชุมพูดจบ นายณัฐวุฒิ ก็ลุกขึ้นพูดอีกครั้งว่า ลิสต์รายชื่อในมือตัวเองไม่มีชื่อนายชาดา
ขณะเดียวกันนายชาดาก็ลุกขึ้นถามว่า มีปัญหาอะไรกับการลุกขึ้นอภิปรายในครั้งนี้ แม้ประธานจะปิดไมค์แล้ว นายชาดาก็ยังถามเสียงดังว่า มีปัญหาอะไร
ทั้งนี้ ประธานในที่ประชุมได้สั่งให้ทั้งสองฝ่ายนั่งลง และนำที่ประชุมกลับเข้าสู่การอภิปรายต่อไป แต่ปรากฏว่า นายชาดา พร้อมด้วย ส.ส.พรรคภูมิใจไทยได้เดินไปบริเวณด้านหลังห้องประชุมสภาซึ่งเป็นพื้นที่ที่นายณัฐวุฒินั่งอยู่
มีรายงานสาเหตุความเข้าใจผิดกรณีคิวอภิปรายคลาดเคลื่อนในครั้งนี้ เนื่องจากประธานวิปรัฐบาลเพิ่มชื่อนายชาดาในการอภิปราย โดยแจ้งเพียงประธานในที่ประชุม แต่ไม่ได้แจ้งพรรคร่วมที่รอคิวอยู่
จากนั้นนายณัฐวุฒิ ได้คิวอภิปรายและเริ่มอภิปรายด้วยการยกคำพระ "อภัยทานัน อมิสทานัน ทิมาติ การรู้จักให้อภัยเป็นคุณ มีประโยชน์แก่ผู้ให้เป็นอย่างยิ่ง"
ต่อมา นายณัฎฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ส.ส.สงขลา พรรคภูมิใจไทย ในฐานะผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ระหว่างช่วงที่นายชาดาเดินไปหานายณัฐวุฒิได้เล่าเหตุการณ์ดังกล่าวกับสื่อมวลชนรัฐสภา โดยยืนยันว่า ไม่มีการทำร้ายร่างกาย ไม่มีการถึงเนื้อถึงตัว ระหว่างนายชาดาและนายณัฐวุฒิ เพราะหากมีการทำร้ายกันก็จะวุ่นวาย
ไม่มีแย่งโทรศัพท์ ไม่มีการตบหรือการต่อยกัน ยอมรับมีความชุลมุน แต่นายชาดาเข้าไปถามว่าติดใจอะไร
สำหรับกรณีที่เกิดขึ้น นายอนุทินชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคทราบเรื่องแล้ว และเรื่องจบลงด้วยต่างคนต่างเข้าใจกัน