วันนี้ (3 พ.ค.2565) น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบแผนการบริหารจัดการประมงทะเลของไทย พ.ศ.2563–2565 วงเงิน 2,970 ล้านบาท โดยใช้งบประมาณของแต่ละหน่วยงานในการดำเนินการ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ซึ่งเป็นแผนการดำเนินงานต่อเนื่องจากแผนการบริหารจัดการประมงทะเลของไทย พ.ศ. 2558-2562 โดยมีเป้าประสงค์ 5 ด้าน ดังนี้
ทรัพยากรประมงฟื้นคืนสู่ระดับที่เหมาะสม ขยายทำประมงอย่างยั่งยืน
- ควบคุมจำนวนเรือประมง และใบอนุญาตอย่างเข้มงวด และจัดสรรจำนวนวันทำการประมงของเรือให้เหมาะสม
- กำหนดขนาดตาอวนที่เหมาะสม เพื่อลดการจับลูกสัตว์น้ำ
- สร้างแหล่งอาศัยสัตว์ทะเลอย่างต่อเนื่อง
- ดำเนินโครงการธนาคารสัตว์น้ำ
การประมงที่ปลอดจากการทำการประมง IUU
- ทบทวนความก้าวหน้าแผนปฏิบัติการระดับชาติว่าด้วยการป้องกัน ยับยั้ง และขจัดการทำการประมง IUU (Thailand NPOA-IUU)
- เสริมสร้างความเข้มแข็งของระบบการติดตาม/การตรวจสอบย้อนกลับ
- ร่วมมือกับหน่วยงานระหว่างประเทศ เช่น ศูนย์พัฒนาการประมงแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ องค์การบริหารจัดการประมงระดับภูมิภาค
แหล่งอาศัยของสัตว์น้ำและสิ่งแวดล้อมมีความสมบูรณ์
- ป่าชายเลน แหล่งหญ้าทะเล และแนวปะการังได้รับการฟื้นฟู
- บริหารจัดการทรัพยากรประมงเชิงระบบนิเวศน์สำหรับชุมชนชายฝั่งและจัดตั้งพื้นที่อนุรักษ์
- นำขยะทะเลคืนฝั่งและจัดตั้งธนาคารขยะทะเล
- ลดการใช้ถุงพลาสติกในเรือประมงพาณิชย์และประเมินปริมาณขยะที่พื้นท้องน้ำอ่าวไทย
การปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่-ชุมชนประมงชายฝั่ง
- สร้างความเข้มแข็งให้กับคณะกรรมการประมงประจำจังหวัด
- จัดทำระบบบันทึกจำนวนเรือประมงพื้นบ้าน
- ให้สิทธิการทำประมงตามความเหมาะสมและเป็นธรรม
- ปรับปรุงกระบวนการหลังการจับสัตว์น้ำอย่างต่อเนื่อง เช่น การเพิ่มมูลค่าสัตว์น้ำ เพิ่มช่องทางการตลาด การลดการเกิดของเสีย เป็นต้น
ศักยภาพในการบริหารจัดการประมง อย่างมีประสิทธิภาพ
- พัฒนาระบบการจัดการข้อมูลประมงที่เชื่อมโยงแหล่งข้อมูลต่างๆ เพื่อใช้ในการประเมินกลุ่มประชากรสัตว์น้ำ
- ฝึกอบรมและสร้างเสริมประสบการณ์ให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการบริหารจัดการการประมง
น.ส.รัชดา กล่าวว่า จากผลการดำเนินงานตามแผนการบริหารจัดการประมงทะเลของไทย พ.ศ.2558 –2562 ทำให้สถานการณ์ของการประมงทะเลของไทยมีการปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น เช่น การบังคับใช้กฎหมายสำหรับการทำประมง IUU มีความเข้มแข็งขึ้น มาตรการในการควบคุมเรือประมงที่ผิดกฎหมายมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ความหลากหลายทางชีวภาพถูกฟื้นฟูให้มีความสมบูรณ์ขึ้น