สารคดีต่างประเทศของสำนักข่าวอัลจาซีรา ที่ พล.ต.ต.ตรี ปวีณ พงศ์สิรินทร์ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 และหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีค้ามนุษย์โรฮิงญาในช่วงปี 2558 ให้สัมภาษณ์กำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ ถึงปัญหาทุจริตคอรัปชัน การละเมิดสิทธิมนุษยชน และการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะการใช้อำนาจฝ่ายการเมืองซึ่งเป็นเหตุให้ต้องลาออกจากราชการและขอลี้ภัยไปออสเตรเลีย
พล.ต.ต.ปวีณ เปิดเผยผ่านสารคดีนี้ด้วยว่า ปัจจุบันทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมรถยนต์แห่งหนึ่ง ทำหน้าที่ติดกระดุม บนเบาะรถยนต์ ชีวิตทุกวันนี้ ไม่มีทางเลือก และจำเป็นต้องยืนหยัดให้ได้
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ระบุว่า จะให้ตำรวจชี้แจงรายละเอียดทุกข้อเท็จจริงกรณีที่ พล.ต.ต.ปวีณ ให้สัมภาษณ์ในสารคดี สื่อต่างประเทศพาดพิง พร้อมปฏิเสธสั่งการให้นายตำรวจคนสนิท โทรศัพท์ไปหา พล.ต.ต.ปวีณ เพื่อขอเคลียร์ให้ พล.ท.มนัส คงแป้น ผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์ ได้รับการประกันตัว
ส่วน พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ระบุว่า คำสัมภาษณ์ของ พล.ต.ต.ปวีณ อาจไม่ยุติธรรมกับกองทัพในภาพรวมที่ถูกพาดพิง รวมถึงการกล่าวหา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร แทรกแซงกระบวนการยุติธรรมไทยโดยไม่มีข้อมูลและหลักฐาน ทำให้เกิดความสับสนกับสังคมและต่างประเทศ และอาจกระทบต่อผลประโยชน์ประเทศชาติในภาพรวม
โฆษกกระทรวงกลาโหม ย้ำว่า การจับกุม พล.ท.มนัส ถือเป็นการยืนยันถึงความจริงใจในการบังคับใช้กฎหมาย โดยทำงานร่วมกับภาคประชาสังคมและองค์การระหว่าง ประเทศ ซึ่งหากช่วยเหลือ-แทรกแซงกระบวนการยุติธรรมผู้ต้องหาในคดีนี้อาจไม่ต้องถูกจำคุก ยืนยันรัฐบาล-กองทัพ ไม่มีการปกป้อง-ยกเว้นคนกระทำผิด โดยเด็ดขาด