ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ผู้เสียหายแจ้งความถูกสามีทำร้าย ไม่พอใจเหตุรักษาโรคซึมเศร้า

อาชญากรรม
7 เม.ย. 65
15:12
755
Logo Thai PBS
ผู้เสียหายแจ้งความถูกสามีทำร้าย ไม่พอใจเหตุรักษาโรคซึมเศร้า
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
“ส.ส.ไผ่” นำผู้เสียหายถูกสามีซึ่งเป็นลูกอดีตอัยการ และนักกีฬาเทควันโด ทำร้ายร่างกาย เหตุไม่พอใจที่ไปรักษาโรคซึมเศร้า ผู้เสียหาย ระบุถูกทำร้ายร่างกายมาหลายครั้ง แต่คดียังไม่คืบหน้า

วันนี้ (7 เม.ย.2565) นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทย นำผู้เสียหายที่ปรากฏในคลิปวิดีโอบันทึกเหตุการณ์ถูกสามี ซึ่งเป็นลูกชายของอดีตอัยการทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.สุทธิสาร พร้อมทั้งติดตามความคืบหน้าคดีเก่าที่เคยแจ้งความไว้

ผู้เสียหาย เล่าว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา หลังรับประทานยารักษาโรคซึมเศร้า ทำให้มีอาการมึนงง เนื่องจากเป็นยานอนหลับ จากนั้นสามีได้มาชวนทะเลาะ และทำร้ายร่างกายในห้องนอนจนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งมีลูกอายุ 5 ขวบอยู่ในเหตุการณ์ด้วย จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความ เพราะที่ผ่านมาตั้งแต่ปลายปี 2563 สามีเริ่มมาทำร้ายร่างกาย และมีปัญหาเรื่องฝ่ายชายนอกใจจนทะเลาะกันมาก่อน


ผู้เสียหาย ยังระบุว่า สามีไม่พอใจที่ไปรักษาโรคซึมเศร้า และบอกว่า ไม่ได้ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าและคิดไปเอง นอกจากนี้ฝ่ายชายยังข่มขู่ไม่ให้ไปแจ้งความ และจะทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต ซึ่งส่วนตัวยังรู้สึกเป็นห่วงลูก เนื่องจากยังอยู่ในความดูแลของฝ่ายชาย

ขณะที่ พ.ต.อ.สุทธิศักดิ์ พิริยะภิญโญ ผกก.สน.สุทธิสาร ระบุว่า จากการตรวจสอบพบว่า มีการเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนในวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งผู้ที่เข้าแจ้งความเป็นน้องชายของผู้เสียหาย แต่ตัวผู้เสียหายไม่ได้เดินทางเข้ามาแจ้งความด้วยตนเอง ทำให้พนักงานสอบสวนไม่ได้มีการสอบปากคำ รวมถึงไม่ได้มีการส่งมอบหลักฐานวงจรปิดหรือหลักฐานอื่น ๆ ประกอบเพื่อใช้ในการดำเนินคดี

นอกจากนี้ ผู้เสียหายยังไม่มีการเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อสอบปากคำในฐานะผู้เสียหาย ทำให้ไม่สามารถดำเนินการในคดีต่อได้ ส่วนผู้ก่อเหตุมีรายงานจากพนักงานสอบสวนว่า ได้มีการเดินทางไปพบกับคู่กรณีที่เป็นผู้ก่อเหตุแล้ว ซึ่งหากผู้เสียหายพร้อมเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนทางตำรวจยืนยันว่าพร้อมจะดำเนินคดีเอาผิดกับผู้ก่อเหตุทันที

เบื้องต้น จากการพิจารณาคลิปวงจรปิดที่มีการแชร์กันในโซเชียล พบว่า น่าจะเข้าข่ายความผิดเกี่ยวกับการทำร้ายร่างกายส่วนจะถึงขั้นบาดเจ็บสาหัสหรือไม่ ผู้เสียหายต้องนำผลตรวจจากแพทย์มาทำการยื่นประกอบอีกครั้ง

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง