วันนี้ (6 ก.ย.2564) นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ตอบกระทู้ถามของสมาชิกวุฒิสภา ต่อความคืบหน้าแผนการจัดหาวัคซีนในปัจจุบันถึงอนาคต รวมถึงลำดับการกระจายวัคซีนว่า สถาบันวัคซีนแห่งชาติ และกระทรวงสาธารณสุข มีแผนการจัดหาวัคซีนโควิด-19 ในปี 2565 ไว้ ไม่ต่ำกว่า 200 ล้านโดส เพื่อรองรับต่อวิวัฒนาการของวัคซีน และการแพร่ระบาดของโรคที่มีการกลายพันธุ์ เพื่อนำมาใช้เป็นวัคซีนกระตุ้นภูมิให้กับประชาชนในเข็มที่ 3 ซึ่งขณะนี้ ได้เริ่มการเจรจา เพื่อเตรียมการจัดซื้อวัคซีนแอสตราเซเนกา ซึ่งเป็นวัคซีนไวรัลเวคเตอร์ ที่กำลังพัฒนาวัคซีนรุ่นที่ 2 กับบริษัทผู้ผลิตแล้ว รวมถึงวัคซีนไฟเซอร์ และวัคซีนสปุกนิก-วี
สำหรับแผนการบริหารจัดการวัคซีนในปีนี้ ไทยจะได้ประมาณ 124 ล้านโดส แบ่งเป็นวัคซีนหลัก ทั้งแอสตราเซเนกา 61 ล้านโดส ที่ในเดือน ก.ย.นี้ จะได้รับประมาณ 7,300,000 โดส ในเดือน ต.ค. จะได้รับ 10 ล้านโดส เดือน พ.ย. และเดือน ธ.ค. จะได้รับเดือนละ 13 ล้านโดส
ส่วนวัคซีนไฟเซอร์ ในเดือน ก.ย.นี้ มีแผนจะได้รับจำนวน 2 ล้านโดส เดือน ต.ค.อีก 8 ล้านโดส เดือน พ.ย. และเดือน ธ.ค. อีกเดือนละ 10 ล้านโดส รวมทั้งหมดกว่า 31 ล้านโดส
นายสาธิต กล่าวว่า การกระจายวัคซีนก่อนหน้านี้มีปัญหาในเริ่มแรก แต่หลังจากนี้ มั่นใจว่าการกระจายวัคซีนจะเป็นไปตามเป้าหมาย หลังการเจรจรกับบริษัทผู้ผลิตวัคซีนที่มีความแน่นอนมากขึ้น จึงจะทำให้ในปีนี้ ไทยจะมีปริมาณวัคซีนเพียงพอ ตรงเป้าหมาย และจะเร่งกระจายไปยังกลุ่มเสี่ยงผู้สูงอายุ กลุ่ม 7 โรคเสี่ยง และสตรีตั้งครรภ์ แต่ยังติดปัญหาว่าผู้สูงอายุในต่างจังหวัดยังกลัววัคซีน หรือบางคนมีอุปสรรคในการเดินทาง แต่กระทรวงฯ ได้จัดฉีดเชิงรุก เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายสามารถมารับวัคซีนได้เร็วที่สุด