วันนี้ (14 เม.ย.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ประกาศขยายเวลามาตรการล็อกดาวน์ที่บังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา ออกไปจนถึงวันที่ 11 พ.ค.นี้ พร้อมทั้งระบุว่าสถานการณ์การระบาดในประเทศเริ่มทรงตัว การต่อสู้กับไวรัส COVID-19 มีความคืบหน้า แต่ยังไม่สามารถเอาชนะไวรัสได้
ผู้นำฝรั่งเศส เปิดเผยอีกว่า โรงเรียนและร้านค้าจะค่อยๆ กลับมาเปิดในวันที่ 11 พ.ค.นี้ แต่ร้านอาหาร ร้านกาแฟ โรงภาพยนตร์ พิพิธภัณฑ์และคอนเสิร์ต ฮอลล์ ยังคงปิดต่อไป และห้ามจัดการชุมนุมขนาดใหญ่ จนถึงกลางเดือน ก.ค.2563
นอกจากนี้ยังยอมรับถึงความล้มเหลวและความบกพร่องในเรื่องการขาดแคลนหน้ากากอนามัย รวมทั้งอุปกรณ์การแพทย์อื่นๆ และการตรวจหาเชื้อ ที่ไม่เพียงพอ ซึ่งเป็นประเด็นที่ทำให้รัฐบาลถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก โดยผู้นำฝรั่งเศสให้คำมั่นว่า ผู้ที่มีอาการของโรคทั้งหมดจะได้รับการตรวจหาเชื้อภายในวันที่ 11 พ.ค.นี้
ทั้งนี้ สถานการณ์การระบาดในฝรั่งเศสเริ่มมีแนวโน้มในทางที่ดี หลังจำนวนผู้ป่วยที่เข้ารักษาในห้องผู้ป่วยวิกฤตลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 ซึ่งเป็นสัญญานว่าอาจจะถึงจุดสูงสุดของการระบาดแล้ว โดยยอดผู้ติดเชื้อในฝรั่งเศส ล่าสุดเมื่อเวลา 11.10 น. อยู่ที่ 137,877 คน และมีผู้เสียชีวิต 14,986 คน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สเปนผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ฟื้นฟูเศรษฐกิจ
"ปักกิ่ง" เปิดเทอม นักเรียน ม.ปลายบางส่วน เริ่มเรียน 27 เม.ย.นี้
อิตาลี ขยายเวลาปิดประเทศเพื่อสกัด COVID-19 ถึงต้นเดือน พ.ค.