วันนี้ (14 เม.ย.2563) สเปนหนึ่งในประเทศที่ไวรัส COVID-19 ระบาดรุนแรงที่สุด เริ่มผ่อนคลายข้อจำกัด ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ หลังสถานการณ์มีแนวโน้นในทางที่ดี เมื่อตัวเลขผู้เสียชีวิตและผู้ติดเชื้อลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยทางการสเปนอนุญาตให้โรงงานบางแห่ง และคนงานก่อสร้างเริ่มกลับไปทำงานได้หลังหยุดชะงักไปนาน 2 สัปดาห์ แต่ธุรกิจที่ไม่จำเป็นยังคงปิดให้บริการต่อไป
นายซัลวาดอร์ อิลลา รัฐมนตรีสาธารณสุขสเปนเน้นย้ำว่า การผ่อนคลายข้อจำกัดดังกล่าว ไม่ได้เป็นการยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ทั้งหมด เพียงแต่รัฐบาลต้องการให้เศรษฐกิจ เริ่มกลับมาเดินหน้าได้อีกครั้ง ขณะที่พนักงานออฟฟิศยังคงต้องทำงานจากที่บ้าน ร้านค้าปลีกและบริการอื่นๆ ยังคงต้องปิดให้บริการต่อไป
ส่วนคำสั่งห้ามประชาชนออกจากบ้านเป็นเวลา 1 เดือน ยกเว้นออกไปซื้อสิ่งของจำเป็นเพื่อการดำรงชีพ รวมทั้งยา ยังคงบังคับใช้ต่อไปอีกอย่างน้อย 2 สัปดาห์ภายใต้การประกาศภาวะฉุกเฉิน ของทางการสเปนเมื่อวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ทางการสเปนยังมอบหน้ากากอนามัยให้ตำรวจและเจ้าหน้าที่ป้องกันภัยพลเรือนนำไปแจกให้กับ ประชาชนที่เดินทางไปทำงานตามสถานีขนส่งต่างๆ
ทั้งนี้ มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศเป็นเวลานาน 1 เดือน ช่วยให้สเปนสามารถชะลอการระบาด จากตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันที่พุ่งสูงกว่าร้อยละ 20 เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ลดลงมาเหลือร้อยละ 3
ขณะที่สถานการณ์การระบาดทั่วโลก จนถึงขณะนี้ มียอดผู้ติดเชื้อสะสมรวม 1,912,923 คน ผู้เสียชีวิตรวม 118,966 คน สหรัฐฯ ยังคงเป็นประเทศทีมียอดผู้ติดเชื้อสูงสุด (ข้อมูลจาก Johns Hopkins University เวลา 05.55 น.)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
"ปักกิ่ง" เปิดเทอม นักเรียน ม.ปลายบางส่วน เริ่มเรียน 27 เม.ย.นี้
"โอเปก-พันธมิตร" ลดกำลังผลิตน้ำมัน 9.7 ล้านบาร์เรล/วัน
อิตาลี ขยายเวลาปิดประเทศเพื่อสกัด COVID-19 ถึงต้นเดือน พ.ค.