ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

สนข.ยันติดเครื่องอ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรถเมล์-รถไฟทันกำหนด

สังคม
8 ก.ย. 60
12:17
906
Logo Thai PBS
สนข.ยันติดเครื่องอ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรถเมล์-รถไฟทันกำหนด
ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ยืนยันว่าการติดตั้งเครื่องอ่านบัตรที่ใช้กับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐสำหรับรถเมล์ ขสมก.และรถไฟนั้น จะสามารถติดตั้งให้พร้อมใช้งานได้ก่อนวันที่ 1 ต.ค.2560 โดยเบื้องต้นให้ใช้กับรถเมล์ ขสมก.ได้ก่อน 800 คัน

นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยว่า กรณีการใช้ตั๋วร่วมภายใต้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรผู้มีรายได้น้อย จะสามารถใช้กับรถเมล์ของ ขสมก.จำนวน 800 คันได้ในวันที่ 1 ต.ค.2560

ส่วนรถไฟ ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตั้งเครื่องอ่านบัตร ซึ่งมีความคืบหน้าแล้วกว่าร้อยละ 70-80 มั่นใจว่าจะแล้วเสร็จก่อนวันที่ 1 ต.ค.2560 โดยเครื่องรูดบัตรจะติดตั้งที่สถานีรถไฟเป้าหมาย 444 สถานี โดยการบริหารจัดการเดินเข้าสู่ชานชาลาจะติดตั้งเครื่องรูดบัตรบริเวณทางเข้า 2-3 ช่อง เพื่อให้ผู้มีรายได้น้อยใช้บริการ

ขณะที่ภาพรวมตั๋วร่วม หรือบัตรแมงมุม เพื่อใช้ในการเดินทางของประชาชนทั่วไป โดยวันที่ 18 ก.ย.2560 คณะกรรมการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) จะประชุมเพื่อสรุปแนวทางในการดำเนินการระบบตั๋วร่วม โดยเฉพาะรายละเอียดการออกบัตร เครื่องอ่านบัตร หลักเกณฑ์การแจกบัตรฟรี 200,000 ใบและหลักเกณฑ์ที่จะอนุญาตให้มีผู้ออกบัตรร่วม เช่น บัตรเอทีเอ็มของธนาคารพาณิชย์ ซึ่งขณะนี้มีผู้สนใจเข้าร่วมที่จะออกบัตรจำนวนมาก

ส่วนระบบตั๋วร่วมรถเมล์ หลังจากให้บริการกับผู้มีรายได้น้อยแล้ว จากนั้นจะเร่งรัดให้ประชาชนทั่วไปสามารถใช้ตั๋วร่วมกับรถเมล์ให้ได้ภายในปี 2560 ส่วนการเชื่อมต่อรถไฟฟ้า 4 สาย ทั้งรถไฟฟ้าใต้ดิน รถไฟฟ้าบีทีเอส รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ และรถไฟฟ้าสายสีม่วง คาดว่าจะสามารถเชื่อมต่อการเดินทางโดยตั๋วร่วมทั้งหมดไม่เกินช่วงกลางปี 2561

สำหรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ให้ผู้มีรายได้น้อยใช้ซื้อสินค้าราคาถูก เบื้องต้นกระทรวงพาณิชย์รับสมัครร้านค้าปลีกดั้งเดิม หรือร้านโชห่วย เพื่อเข้าร่วมโครงการร้านธงฟ้าประชารัฐ ตั้งแต่วันที่ 3-6 ก.ย.2560 มีร้านค้าทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการแล้ว 4,506 แห่งและคาดว่าเมื่อถึงกำหนดวันจำหน่ายสินค้าจะมีร้านค้าเข้าร่วมโครงการทั่วถึงตามเป้าหมาย ครอบคลุมอย่างน้อยตำบลละ 1 ร้านค้า โดยมีเป้าหมายให้ร้านค้ากระจายทั่วถึงไม่ต่ำกว่า 20,000 ร้าน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง