วันนี้ (16 ก.พ.2560 ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณประตู 7 ของวัดพระธรรมกาย มีความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เช้าที่ผ่านมา พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ เดินทางเข้าไปเจรจากับพระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ผอ.สำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย เพื่อขอเข้าตรวจค้นพื้นที่วัด ตามหมายค้นของศาลอาญา และอำนาจตามคำสั่งหัวหน้า คสช.มาตรา 44 ประกาศให้วัดพระธรรมกายเป็นพื้นที่ควบคุมพิเศษ ซึ่งไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนหรือบุคคลอื่นเข้าไปภายในวัด
หลังจากใช้เวลาเจรจาประมาณ 2 ชั่วโมง พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เดินทางเข้าร่วมเจรจาเพื่อขอเข้าตรวจค้นตามหมายอาญา เพื่อจับกุมพระธัมมชโย โดยกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า การเข้าไปครั้งนี้ เป็นเพียงการเข้าร่วมเจรจา ยังไม่มีการพิจารณาจัดกำลังเข้าไปภายในวัด ซึ่งเป็นหน้าที่ของดีเอสไอ
พระมหานพพร ปุญฺญชโย ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย เดินทางออกมารับเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ เพื่อเข้าร่วมเจรจากับรองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1ที่เข้าไปก่อนหน้า
พระมหานพพร ระบุว่า การเจรจามีความคืบหน้า ไปมาก คาดว่าใช้เวลาเจรจาอีกไม่นาน
ทั้งนี้ บริเวณด้านหน้าประตู 7 ตำรวจภูธรภาค 1 วางกำลังไว้จำนวน 3 กองร้อย เพื่รอคำสั่งว่าจะให้เข้าไปภายในวัดหรือไม่
ส่วนบรรยากาศบริเวณประตู 8 ของวัดพระธรรมกาย บริเวณนี้มีประตูกั้น 2 ชั้น เจ้าหน้าที่ยังคงตรึงกำลังปักหลักอย่างใกล้ชิด เพื่อทำการเจรจาขอเข้าไปตรวจสอบภายในวัด แต่ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ของวัดออกมาเจรจา เจ้าหน้าที่นำเครื่องตัดถ่างมาเตรียมไว้ และย้ำว่าจะใช้ต่อเมื่อมีคำสั่งเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 11.00 น.วัดพระธรรมกายยอมเปิดประตูให้เจ้าหน้าที่นำกำลังเข้าตรวจค้น แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะตรวจสอบจุดใดก่อน
สำหรับถนนบริเวณโดยรอบวัด มีการตั้งด่านตรวจหลายจุด ส่งผลให้การจราจรชะลอตัว และบางจุดมีการปิดกั้นไม่ให้เข้าพื้นที่ ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นแนะนำหลีกเลี่ยงเส้นทางจนกว่าภารกิจจะเสร็จสิ้น
ทั้งนี้ ยังไม่มีการยืนยันจากเจ้าหน้าที่วัดพระธรรมกาย ว่าพระธัมมชโย ยังรักษาอาการอาพาธอยู่ภายในวัดหรือไม่