วันนี้ (24 ม.ค.2568) พล.ต.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม ชี้แจงถึงการดำเนินการจัดการจำหน่ายกระแสไฟฟ้าข้ามแดนในพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา ว่า ก่อนหน้านี้มีการจ่ายไฟฟ้าข้ามแดนจำนวน 4 แห่ง แต่ปัจจุบันได้ปรับลดเหลือเพียง 2 แห่ง ได้แก่ 1.บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 และบ้านห้วยม่วง อ.แม่สอด จ.ตาก ยังคงจำหน่ายไฟฟ้าให้พื้นที่ อ.เมียวดี จ.เมียวดี ประเทศเมียนมา เพื่อใช้ในการดำเนินชีวิต
ส่วนพื้นที่ที่ถูกระงับการจำหน่ายไฟฟ้า 2 แห่ง คือ 1.บ้านแม่กุใหม่ท่าสองยาง อ.แม่สอด จ.ตาก (เคเค พาร์ค) 2.บ้านวังผา อ.แม่ระมาดจ.ตาก ที่คาดว่าจะเป็นแหล่งที่ตั้งพนันผิดกฎหมาย รวมถึงเครือข่ายอาชญากรรมทางไซเบอร์ แก็งคอลเซนเตอร์ ซึ่งการติดตั้งเสาไฟฟ้าและโครงสร้างพื้นฐานยังคงอยู่ เพียงแต่มีการระงับการจ่ายไฟฟ้าไปเมื่อวันที่ 5 มิ.ย.2567 โดยการดำเนินการจ่ายไฟฟ้าจะทำเป็นสัญญาปีต่อปี
ส่วนการจัดการสัญญาณอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ตามแนวชายแดน หน่วยงานความมั่นคงร่วมกับสำนักงาน กสทช. ได้ดำเนินการลงพื้นที่ตรวจสอบเมื่อช่วงเดือน ต.ค.2567 โดยสัญญาที่ถูกต้องกับ กสทช.จะทำการถอดจานส่งสัญญาณ แต่ยังคงเสาสัญญาณไว้
ส่วนกรณีลักลอบติดตั้ง จะทำการรื้อถอนเสาสัญญาณและจานส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ต รวมถึงตัดสายสัญญาณที่ลักลอบข้ามแดนในพื้นที่ชายแดน เช่น ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ จ.ตาก เพื่อป้องกันผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่
"อนุทิน" ยืนยัน กฟภ.ขายไฟให้บริษัทที่รัฐบาลเมียนมารับรอง
ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่สื่อเมียนมาพาดพิงประเทศเพื่อนบ้านซึ่งคาดว่าเป็นประเทศไทย ขายไฟฟ้าให้กับแก๊งคอลเซนเตอร์ ว่า การไฟฟ้าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ขายไฟฟ้าให้ประเทศเพื่อนบ้าน จะต้องทำสัญญาซื้อขายกับบริษัทที่ประเทศเพื่อนบ้านเป็นผู้เสนอชื่อมาให้ทางการไทย ซึ่งสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) จะตรวจสอบคุณสมบัติและยืนยันให้ กฟภ.ทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้าได้ ถือว่าจบ
เขาจะนำไฟฟ้าไปทำอะไรต่อเป็นกฎหมายของเขา แต่ไม่มีที่ กฟภ.จะไปขายไฟให้กับบริษัทที่ทำสแกมเมอร์ แบบนี้ไม่มี พูดง่าย ๆ คือการไฟฟ้าไทยขายให้กับการไฟฟ้าเมียนมา แต่เขาไปส่งใคร มันเกินอำนาจอธิปไตยที่เราจะไปยุ่งได้
ทั้งนี้ นายอนุทิน ย้ำว่า ในสัญญามีการระบุไว้ชัดเจนว่าจะต้องนำไปใช้เพื่อสาธารณประโยชน์
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย
ส่วนกรณีที่นายรังสิมันต์ โรม สส.พรรคประชาชน ตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการขายไฟให้กับบริษัทที่ทำคอลเซนเตอร์และทางการไทยไม่มีการตรวจสอบคุณสมบัติของบริษัทคู่สัญญานั้น นายอนุทิน กล่าวย้ำว่า หากมีการขายให้คอลเซนเตอร์ ผู้ที่ขายไม่ใช่ กฟภ. แต่เป็นบริษัทที่รับซื้อไฟจากไทยไปขายต่อ จึงไม่ใช่หน้าที่ของตนและ กฟภ.ที่จะต้องตรวจสอบ เพราะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในประเทศเพื่อนบ้าน ขณะเดียวกันบริษัทดังกล่าวก็ได้รับการรับรองจากรัฐบาลเมียนมา
รัฐบาลเมียนมายืนยันแล้ว เราต้องเชื่อการรับรองจากรัฐบาลเมียนมา เขาบอกให้ขายกับบริษัทนี้ ไม่ได้ขายให้กับบุคคลหรือบริษัทบุคคล แต่เป็นบริษัทที่ได้รับการตรวจสอบ
ผู้สื่อข่าวถามเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า สมช.ยอมรับกับคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ว่า กิจการตามแนวชายแดนเป็นภัยต่อความมั่นคง มีการรายงานเรื่องนี้ต่อรัฐมนตรีหรือไม่ รมว.มหาดไทย ระบุว่า เป็นเรื่องของ สมช.เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับกระทรวงมหาดไทย
อ่านข่าว
"ภูมิธรรม" ยืนยันต้นตอแก๊งคอลเซนเตอร์ไม่ได้มาจากไทย