ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

น้ำมัน อาหาร-เครื่องดื่มขึ้น ดันเงินเฟ้อปี67 พุ่ง 0.4%

เศรษฐกิจ
6 ม.ค. 68
13:37
202
Logo Thai PBS
น้ำมัน อาหาร-เครื่องดื่มขึ้น ดันเงินเฟ้อปี67 พุ่ง 0.4%
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
“สนค.” เผยเงินเฟ้อเดือน ธ.ค.67 เพิ่มขึ้น 1.23% จากราคาน้ำมัน หมวดอาหารและเครื่องดื่ม ต่อเนื่อง 9 เดือน ส่งผลทั้งปี 67 เพิ่ม 0.4% ส่วนปี 2568 ตั้งเป้า 0.3-1.3% ค่ากลาง 0.8% จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ การลงทุน การบริโภค และท่องเที่ยว

วันนี้ (6 ม.ค.2568) นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กล่าวถึง ดัชนีราคาผู้บริโภค (เงินเฟ้อทั่วไป)ปี2568 ว่า ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่สูงขึ้นเนื่องจาก ฐานปีก่อนราคาต่ำ รวมถึงราคาสินค้าในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มปรับตัวสูงขึ้นจากราคาผลไม้สด เครื่องประกอบอาหาร และเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ส่วนราคาสินค้าและบริการอื่น ๆ ส่งผลกระทบต่อภาวะเงินเฟ้อไม่มากนัก ส่งผลให้ปี 2567 (ม.ค.-ธ.ค.) เพิ่มขึ้น 0.4% ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่คาดไว้ว่าเงินเฟ้อจะอยู่ที่ 0.2-0.8% ค่ากลาง 0.5%

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.)

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.)

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.)

ส่วนเงินเฟ้อเดือน ธ.ค.2567 เท่ากับ 108.28 เทียบกับ พ.ย.2567 ลดลง 0.18% เทียบกับเดือน ธ.ค.2566 เพิ่มขึ้น 1.23% เป็นบวกต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 9

สำหรับรายละเอียดเงินเฟ้อเดือน ธ.ค.2567 ที่สูงขึ้น 1.23% มาจากการสูงขึ้นของหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ 1.28% โดยสินค้าสำคัญที่ราคาสูงขึ้น อาทิ กลุ่มผลไม้สด (กลุ่มเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ กลุ่มเครื่องประกอบอาหาร กลุ่มข้าว แป้ง และผลิตภัณฑ์จากแป้ง กลุ่มอาหารสำเร็จรูป และกลุ่มเนื้อสัตว์ เป็ดไก่ และสัตว์น้ำ

ส่วนสินค้าที่ราคาลดลง เช่น ผักสด พริกสด มะเขือเทศ มะนาว ผักคะน้า กะหล่ำปลี ผักกาดขาว ผักชี) ไข่ไก่ เนื้อสุกร ไก่ย่าง นมเปรี้ยว น้ำมันพืช และอาหารโทรสั่ง (Delivery) เป็นต้น

ขณะที่หมวดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม เพิ่มขึ้น 1.21% จากการสูงขึ้นของราคาสินค้าสำคัญ โดยเฉพาะน้ำมันเชื้อเพลิง เช่น น้ำมันดีเซล แก๊สโซฮอล์ น้ำมันเบนซิน และยังมีค่ากระแสไฟฟ้า ค่าเช่าบ้าน ค่าโดยสารเครื่องบิน ค่ารถรับส่งนักเรียน และค่าบริการส่วนบุคคล ปรับตัวสูงขึ้น ส่วนสินค้าที่ราคาลดลง เช่นของใช้ส่วนบุคคล สิ่งที่เกี่ยวกับการทำความสะอาด และเสื้อผ้า เป็นต้น

ผอ.สนค. กล่าวถึง แนวโน้มเงินเฟ้อเดือน ม.ค.2568 คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.25% และไตรมาส 1 ปี 2568 เฉลี่ยจะสูงกว่า 1% ส่วนไตรมาส 2 และ 3 จะลดลงไม่น่าถึง 1% จากนั้นจะกลับมาสูงขึ้นในระดับ 1% ขึ้นไปในไตรมาสที่ 4 รวมเงินเฟ้อทั้งปี 2568 จะอยู่ระหว่าง 0.3-1.3% ค่ากลาง 0.8%

โดยมีสมมติฐานจากอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ 2.3-3.3% น้ำมันดิบดูไบเฉลี่ย 70-80 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และอัตราแลกเปลี่ยน 34-35 บาทต่อเหรียญสหรัฐ และยังมีแรงหนุนจากเศรษฐกิจไทยในปี 2568 มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น จากการขยายตัวของการลงทุนและการบริโภคภาคเอกชน การท่องเที่ยวที่จะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ความต้องการสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น และราคาน้ำมันดีเซลที่กำหนดเพดานไม่เกิน 33 บาทต่อลิตร ยังสูงกว่าค่าเฉลี่ยในไตรมาสที่ 1 และ 2 ปี 2567

อย่างไรก็ตาม มีปัจจัยที่จะฉุดให้เงินเฟ้อลดลง เช่น ภาครัฐมีแนวโน้มดำเนินมาตรการช่วยเหลือลดภาระค่าครองชีพอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการปรับลดค่าไฟฟ้าและการตรึงราคาก๊าซ LPG ฐานราคาผักและผลไม้สด ปี 2567 อยู่ในระดับสูง ซึ่งเป็นผลจากสถานการณ์เอลนีโญและลานีญา

ขณะที่ในปี 2568 คาดว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะไม่รุนแรงและส่งผลกระทบต่อราคาไม่มากนัก และการชะลอตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์และการจำหน่ายรถยนต์ภายในประเทศ ส่งผลให้ค่าเช่าบ้านและราคารถยนต์เพิ่มขึ้นอย่างจำกัด รวมทั้งยังมีความเสี่ยงที่จะทำให้เงินเฟ้อสูงหรือต่ำ จากการดำเนินนโยบายกีดกันทางการค้า ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ การเปลี่ยนนโยบายส่งออกสินค้าเกษตรของผู้ผลิตรายใหญ่ เช่น ข้าว น้ำมันปาล์ม ส่วนการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ เบื้องต้นไม่มีผลกระทบต่อเงินเฟ้ออย่างมีนัยสำคัญ

อ่านข่าว:

ตรุษจีนนี้ รัฐบาลแจก 10,000 "กลุ่มผู้สูงวัย" รับเงินผ่านพร้อมเพย์

นาทีทองคนตัวเล็ก คต.ปลดล็อกขั้นตอนส่งออกข้าวเริ่มแล้ว 3 ม.ค.

ดีเซลแพง ท่องเที่ยว ส่งออกโต ดันดัชนีค่าขนส่ง Q4 ปี 67 เพิ่ม 2.7%

ข่าวที่เกี่ยวข้อง