วันนี้ (28 ธ.ค. 67) พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศธ. ในฐานะประธาน ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 แถลงข้อมูลช่วง "10 วันอันตราย" ระหว่างวันที่ 27 ธ.ค. 2567 - 5 ม.ค.2568 โดยวันแรก (27 ธ.ค.) เกิดอุบัติเหตุ 322 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 318 คน ผู้เสียชีวิต 52 คน
จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช จำนวน 17 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานครและนครศรีธรรมราช จังหวัดละ 4 คน จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช จำนวน 17 ครั้ง ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เวลา 16.01 - 17.00 น. ร้อย 9.01 จัดตั้งจุดตรวจหลัก 1,753 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 51,001 คน
สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็ว ร้อยละ 39.44 ตัดหน้ากระชั้นชิด ร้อยละ 20.50 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 85.16 ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง ร้อยละ 86.96 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุดอยู่ในช่วงอายุ 50 - 59 ปี ร้อยละ 15.41 ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 47.83 ถนน ใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 27.95
พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าวเพิ่มเติมว่า สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) โดยกระทรวงศึกษาธิการ ได้ร่วมกับกรมการขนส่งทางบก จัดตั้งจุดบริการ อาชีวะ - ขนส่ง อาสาช่วยประชาชน จำนวน 150 จุด กระจายอยู่ใน 77 จังหวัดทั่วประเทศ ทั้งถนนสายหลักและสายรอง โดยจุดบริการที่ตั้งอยู่บนถนนสายหลักให้บริการตั้งแต่เวลา 06.00 - 00.00 น. และจุดบริการที่ตั้งอยู่บนถนนสายรองให้บริการตั้งแต่เวลา 06.00 - 20.00 น. เพื่อให้บริการประชาชนในการเดินทางสัญจรในช่วงเทศกาลปีใหม่
นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านสาธารณภัยและพัฒนาเมือง ในฐานะประธานการประชุมคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปี เพื่อรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2568 กล่าวว่า ในวันนี้การเดินทางของประชาชนในการกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยว ช่วงเทศกาลปีใหม่ ประชาชนบางส่วนเดินทางถึงจุดหมายแล้ว บางส่วนยังอยู่ระหว่างเดินทาง
จากสถิติอุบัติเหตุทางถนน พบว่า ถนน กรมทางหลวง ถนนใน อบต. และหมู่บ้าน รวมถึงถนนที่เป็นเส้นทางตรง เป็นจุดที่เกิดอุบัติเหตุสูง จึงได้เน้นย้ำจังหวัดให้ความสำคัญกับการดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชน ทั้งถนนสายหลักและสายรอง โดยเปิดช่องทางพิเศษ ปิดจุดกลับรถ ประชาสัมพันธ์เส้นทางเลี่ยง ทางลัด เพื่อให้การสัญจรเป็นไปด้วยความคล่องตัว
รวมถึงเฝ้าระวังจุดเสี่ยงอุบัติเหตุ ทั้งทางแยก ทางร่วม และบริเวณที่มีการก่อสร้างถนน พร้อมดูแลเส้นทางตรงที่มีระยะทางยาว เพื่อคุมเข้มพฤติกรรมเสี่ยงขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด ตลอดจนเพิ่มความถี่ในการเรียกตรวจความพร้อมของผู้ขับขี่ยานพาหนะทุกประเภท โดยฉพาะพฤติกรรมเสี่ยง ดื่มแล้วขับ ขับรถเร็ว และไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุทางถนนให้ได้มากที่สุด
รองปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า กรณีผู้ขับขี่อายุต่ำกว่า 20 ปี ที่ดื่มแล้วขับ และได้มีการสืบสวนขยายผลเพื่อดำเนินคดีให้ประชาสัมพันธ์ประชาชนในพื้นที่รับทราบผลของการกระทำผิดของผู้ที่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และผู้สนับสนุนผู้ขับขี่อายุต่ำกว่า 20 ปี และหากในพื้นที่มีการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่ผู้ที่อายุไม่ถึงเกณฑ์ตามกฎหมาย ให้ขยายผลการสอบสวนดำเนินคดีไปจนถึงผู้จำหน่ายและผู้ปกครอง และหากมีผู้ฝ่าฝืนกฎหมายจราจรให้ใช้บทลงโทษสูงสุดตามกฎหมาย
อ่านข่าว : วันแรกรณรงค์ลดอุบัติเหตุช่วงปีใหม่ จับเมาขับ 344 คดี
พิกัดสถานที่ "เคานต์ดาวน์" ร่วมส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2568