วันนี้ (22 พ.ย.2567) นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ประธานคณะทำงานขับเคลื่อนการตรวจสอบและพิจารณาความผิดเกี่ยวกับผู้ได้รับการจัดที่ดิน และผู้ถือครองที่ดินโดยมิชอบในเขตปฏิรูปที่ดิน พร้อมคณะทำงานประกอบด้วย กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน. (ปปง.) และ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่สวนท่องเที่ยวแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ใน ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังได้รับข้อมูลและการร้องเรียนว่า พื้นที่ดังกล่าวอาจเข้าข่ายรุกที่ ส.ป.ก.
จากการตรวจสอบพบ สถานที่ดังกล่าวเปิดให้บริการเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรวัฒนธรรมมีสิ่งปลูกสร้างถาวร ภายในมีสระน้ำขนาดใหญ่ 2 บ่อ รวมถึงมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยว เช่น ให้อาหารและเลี้ยงช้าง มีเนื้อที่ประมาณ 150 ไร่
นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวจีน มีการเก็บค่าเข้าชม ซึ่งทันทีที่มาถึงผู้ดูแลสถานที่ซึ่งเป็นหุ้นส่วนเจ้าของพื้นที่ได้เข้ามาต้อนรับคณะทำงานพร้อมนำชี้จุดและชี้แจงข้อมูลการได้มาซึ่งการครอบครองของที่ดิน
คณะทำงานตรวจสอบ ชี้แจงว่า เหตุผลที่เดินทางมาตรวจสอบสถานที่ดังกล่าวเนื่องจาก พบข้อมูลว่า อาจเข้าข่ายใช้ประโยชน์จากที่ดินผิดวัตถุประสงค์
นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ประธานคณะทำงานขับเคลื่อนการตรวจสอบและพิจารณาความผิดเกี่ยวกับผู้ได้รับการจัดที่ดิน และผู้ถือครองที่ดินโดยมิชอบในเขตปฏิรูปที่ดิน
นายธนดล เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่า ที่ดินจำนวน 150 ไร่ เคยออกเอกสารสิทธิ์การครอบครองที่ดินแบบ สปก.ก่อนจะสละสิทธิ์ไป 80 ไร่ เพื่อ ขอใช้ที่ดินแบบสนับสนุนกิจการเกี่ยวเนื่อง บริเวณอาคารที่ใช้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและเลี้ยงช้างทำให้พื้นที่ดังกล่าว ยังไม่มีการจัดสรรที่ดินจาก สปก.ทำให้ไม่มีสิทธิ์นำไปใช้ทำประโยชน์ใด ๆ ได้ แต่ทางเจ้าของพื้นที่อ้างว่า ตัวเองอาศัยสิทธิ์การทำประโยชน์ในที่ดิน ตามเอกสารสิทธิ์ครอบครอง แบบ สค.1
ด้านผู้ดูแลพื้นที่ เปิดเผยว่า พื้นที่ทั้งหมด เจ้าของที่ดินยืนยันว่า เป็นที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ์ สค.1 ซึ่งเจ้าของปัจจุบัน ได้รับที่ดินผืนดังกล่าวมาจากมรดกของพ่อแม่และมีการไปยื่นขอออกใบ สค.1 ช่วงระหว่างปี 2497 - 2498 ส่วนการตรวจสอบที่ดินผืนดังกล่าว ก็ต้องให้เจ้าของที่ดินนำเอกสารสิทธิ์มาชี้แจง
สำหรับการตรวจสอบหลังจากนี้ เจ้าของพื้นที่จะต้องนำ สค.1 ไปยื่นขอออกโฉนด โดยกรมที่ดินจะตรวจสอบว่าพื้นที่ดังกล่าวสามารถออกโฉนดได้กี่ไร่ และที่ดินส่วนที่เหลือจะต้องเข้าสู่กระบวนการปฏิรูปที่ดินตามกฎหมายของ ส.ป.ก.
อ่านข่าว : ร้องสอบ จนท.ป่าไม้ หลอกโอนสิทธิที่ดิน สปก.
กมธ.ที่ดินลงพื้นที่เขาใหญ่ จับตาความขัดแย้ง “อุทยานฯ-สปก.”
ส.ป.ก.-อุทยานฯ ทับซ้อน 190 แห่งพื้นที่ 5.2 แสนไร่