พนักงานบริษัทสาวในพื้นที่เขตหนองแขม จ.กรุงเทพฯ ตัดสินใจเล่าประสบการณ์ตรงของเธอให้กับ Thai PBS Verify ได้ฟัง หลังจากตกเป็นเหยื่อให้กับมิจฉาชีพ ที่เข้ามาหลอกให้ทำภารกิจแลกค่าตอบแทน จนสูญเสียเงินเก็บก้อนเดียวของเธอไปถึง 300,000 บาท เพื่อเตือนคนอื่นไม่ให้ตกเป็นเหยื่อเหมือนที่เธอเคยเป็น
จุดเริ่มต้น
จุดเริ่มต้นของการเป็นเหยื่อในครั้งนี้ เกิดขึ้นจากความต้องการหารายได้เสริม ที่เธอบังเอิญเลื่อนไปเจอจากเฟซบุ๊ก และติดต่อสอบถามเข้าไปในข้อความของเพจดังกล่าว
เพจแห่งนี้อ้างว่า สามารถรับสินค้าไปแพ็กทำงานที่บ้าน แต่ระหว่างรอการตรวจสอบคุณสมบัติ จำเป็นต้องเพิ่มเพื่อนในแอปพลิเคชันไลน์ เพื่อร่วมทำ “ภารกิจง่าย ๆ ” พร้อมคำสัญญาว่าจะได้ค่าตอบแทนตอบกลับทันที
รูปแบบการหลอกลวง
สำหรับภารกิจดังกล่าว มิจฉาชีพจะแนะนำให้เหยื่อร่วมแคมเปญพิเศษ คือการที่เธอจะต้องเพิ่มยอดไลก์ โดยอ้างว่าเป็นการประเมินก่อนรับงานกลับไปทำที่บ้าน ซึ่งภารกิจที่ให้ทำนั้นมีค่าตอบแทน แต่ต้องทำในระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งในช่วงแรกเธอยอมรับว่า ได้เงินค่าตอบแทนจริง แต่จำนวนยังไม่มาก เพราะเป็นเพียงเงินหลักร้อย แต่นั่นก็เพียงพอที่จะสร้างความมั่นใจว่า จะสามารถได้เงินจากการทำงานนี้
เธอเริ่มถลำเข้าสู่ภารกิจที่ 3 ซึ่งเธอถูกขอให้โอนเงินลงทุน แต่ต้องทำภารกิจพร้อมกับคนอื่น ๆ อีก 4 คน ที่อยู่ในกลุ่มไลน์เดียวกัน ด้วยการถูกกดดันจากคนอื่น ๆ ที่อ้างว่าหากไม่ทำภารกิจ คนอื่น ๆ จะไม่สามารถถอนเงินได้ ทำให้เธอต้องเร่งทำภารกิจต่อไป ทว่าเงินก้อนนั้นกลับไม่ถูกส่งคืน โดยมิจฉาชีพอ้างว่า เธอทำผิดขั้นตอน ต้องโอนเงินเพิ่มเพื่อ “ปลดล็อก” ระบบถอนเงิน ซึ่งจะต้องโอนเงินเป็นจำนวน 3 เท่าของเงินที่อยู่ในระบบ ด้วยความ "เสียดาย" ทำให้เธอตัดสินใจโอนเงินเข้าไปเพื่อหวังจะได้เงินทั้งหมดกลับคืน
"เขาอ้างว่าคุณทำผิดกฎ และไม่ได้ทำตามที่แจ้ง คุณจะถอนเงินออกไม่ได้ ต้องโอนเงินเข้าไปแก้ไขระบบ เพื่อดึงเงินกลับมา แต่ต้องโอนเงินคูณ 3 ของยอดเงินที่ต้องการถอน"
ในเวลาเพียงแค่ 2 ชั่วโมง เธอโอนเงินไปทั้งหมด 6 ครั้ง สูญเสียเงินเก็บทั้งหมดในชีวิตไปกว่า 300,000 บาท – เริ่มต้นจากความเสียดายเงิน 799 บาท ในภารกิจแรก จนสุดท้ายเธอต้องสูญเสียเงินเก็บทั้งหมดที่มี
“หนูอยู่คนเดียวในช่วงเวลานั้น และไม่ได้บอกเรื่องนี้กับใคร เพราะกลัวที่บ้านจะว่า แม้ในใจลึก ๆ จะระวังตัว ว่านี่อาจเป็นมิจฉาชีพ แต่ด้วยความเสียดายเงิน และต้องการเงินของตนเองคืน แต่สุดท้ายมันก็ไม่มีทางเอากลับคืนมาได้”
แม้ในด้านการดำเนินคดีจะมีการแจ้งความเอาไว้แล้ว แต่โอกาสได้เงินคืนก็ดูริบหรี่ เพราะบัญชีที่เธอโอนเงินไปนั้น พบว่าเป็นเพียงบัญชีม้า
ถอดรูปแบบกลลวง
มิจฉาชีพกลุ่มนี้ทำงานเป็นทีม มีเทคนิคหลอกลวงที่ซับซ้อน รวดเร็ว และเจาะจิตใจเหยื่อได้อย่างแม่นยำ สามารถแบ่งรูปแบบการหลอกลวงได้ ดังนี้
1. การใช้โปรไฟล์ปลอม หลอกว่าเป็นบริษัท ส่งสินค้าให้คนหางานรับงานกลับไปทำที่บ้าน
2. การหลอกลวงว่ามีภารกิจให้ทำ ด้วยการลงทุนที่ไล่ระดับจากการลงทุนเพียงเล็กน้อย สู่การลงทุนที่เพิ่มสูงขึ้น เพื่อแลกกับค่าตอบแทน
3. การใช้จิตวิทยา
- การใช้หน้าม้าเข้ามาในกลุ่มไลน์ และอ้างว่าหากไม่ทำภารกิจพร้อมกับคนอื่น ๆ อีก 4 คน ที่อยู่ในกลุ่มไลน์เดียวกัน ก็จะไม่สามารถถอนเงินได้ด้วยเช่นกัน
- ความเสียดาย ความเสียดายถือเป็นอีกหนึ่งจิตวิทยาที่คนร้ายนำมาใช้ในการหลอกลวง ซึ่งทำให้เหยื่อต้องมีการโอนเงินเพิ่ม เพื่อที่จะได้เงินคืนตามที่คนร้ายกล่าวอ้าง
- การกดดันด้วยระยะเวลาของการทำภารกิจ ที่มีระยะเวลาที่จำกัด เป็นการเร่งให้เหยื่อต้องตัดสินใจอย่างรวดเร็ว
ท้ายที่สุดอย่าคิดว่า “แค่ลงทุนเล็กน้อย” จะไม่เป็นไร เพราะเงินที่ได้มาในครั้งแรก อาจเป็นกับดักที่พาคุณสู่หายนะครั้งใหญ่เช่นเหยื่อสาวรายนี้
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
ตรวจสอบพบ : เพจปลอมหลอกแพ็ก "ดินสอ-ปากกา" พบเหยื่อหลงเชื่อเพียบ https://www.thaipbs.or.th/now/content/2412
ตรวจสอบพบ : เพจปลอมหลอกแพ็กเทียนหอม อ้างรายได้ 500-1,200/วัน https://www.thaipbs.or.th/now/content/2128
จิตวิทยาสายมืด : รู้ทันเทคนิคที่ "มิจฉาชีพ" ใช้หลอกลวงเหยื่อ https://www.thaipbs.or.th/now/content/2148
ตรวจสอบพบ : เพจทำงานที่บ้าน จ้างพับถุงกาแฟร้านดัง 620 บาท/วัน ที่แท้ลวงมัดจำ https://www.thaipbs.or.th/now/content/1990
ตรวจสอบพบ : เพจทำงานที่บ้านนำภาพบริษัทอื่นมาสวมรอย พบคนเชื่อสอบถามกว่า 3,000 คน https://www.thaipbs.or.th/now/content/1886