ทุกปี รางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Picture) ถือเป็นรางวัลที่ทรงเกียรติที่สุดของงานประกาศผลรางวัลออสการ์ (Oscars หรือ Academy Awards) และประกาศออกมาเป็นรางวัลสุดท้ายเสมอ
ปีนี้ Thai PBS NOW จึงรวบรวมสถิติที่น่าสนใจจากภาพยนตร์ที่ชนะ (และแพ้) รางวัล Oscars สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม อีกทั้งยังอัปเดตผลรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมปีล่าสุดจากงานฯ ครั้งที่ 97 ซึ่งตกเป็นของ Anora ภาพยนตร์แนวคอเมดี-ดรามาจากผู้กำกับ Sean Baker
1. เรื่องแรกที่ชนะ Best Picture : Wings (1927)
2. เรื่องล่าสุดที่ชนะ Best Picture : Anora (2024)
3. ภาพยนตร์แนว "มหากาพย์ (Epic)” ชนะ Best Picture มากสุด 23 เรื่อง - เรื่องล่าสุด Oppenheimer (2023)
4. ทำเงินทั่วโลกสูงสุด : Titanic (1997) 2,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ*
5. ทำเงินทั่วโลกน้อยสุด : Cimarron (1931) 1.38 ล้านดอลลาร์สหรัฐ*
6. เรื่องแรกที่นำแสดงโดยคนพิการและมาจากสตรีมมิง : CODA (2021)
7. เรื่องแรกจากเอเชียและและไม่ได้พูดอังกฤษ : Parasite (2019)
8. เรื่องแรกจากผู้กำกับหญิง : The Hurt Locker (2008) โดย แคทริน บิเกโลว์
9. เรื่องแรกที่เกี่ยวกับ LGBTQ+ และแสดงโดยนักแสดงเชื้อสายแอฟริกันทั้งหมด : Moonlight (2016)
10. ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมที่ชนะรางวัลมากสุด : Ben-Hur (1959), Titanic (1997), The Lord of the Rings: The Return of the King (2003) เรื่องละ 11 รางวัล
11. ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมกลุ่ม “Big Five” : It Happened One Night (1934), One Flew Over the Cuckoo’s Nest (1975), The Silence of the Lambs (1991)
12. ภาพยนตร์ชิงรางวัล Best Picture ที่แพ้สูงสุด : The Color Purple (1985) ชิง 11 ชนะ 0
นอกจากนี้ ยังมีเกร็ดข้อมูลเพิ่มเติมจากสถิติดังกล่าว ดังนี้
รางวัล “Big Five” ของ Oscars ประกอบด้วยภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ผู้กำกับยอดเยี่ยม นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม และบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (ดั้งเดิมหรือดัดแปลง)
แม้ Titanic และ Cimarron จะเป็นภาพยนตร์ Oscars ที่ทำเงินสูงสุดและน้อยสุดตามลำดับ แต่หากปรับค่าเงินปี 2024 ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมที่ทำเงินมากที่สุดทั่วโลกจะตกเป็นของ Gone with the Wind (1940) คิดเป็นรายได้ปัจจุบันอยู่ที่ 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนภาพยนตร์ยอดเยี่ยมที่ทำเงินต่ำที่สุดจะกลายเป็น CODA (2021) ที่คิดเป็นรายได้ปัจจุบันได้ 2.2 2 ล้านดอลลาร์ฯ ทั้งนี้ CODA เข้าฉายทั่วโลกแบบจำกัดโรง และลงสตรีมมิง Apple TV+ โดยตรง จึงอาจทำให้รายได้ไม่มากนัก
ภาพยนตร์แนว “มหากาพย์” มีองค์ประกอบสำคัญ ได้แก่ การผจญภัยของตัวละครเอกที่มักจะเป็น “มวยรอง” ในเรื่อง การใช้เวลาสำรวจปมขัดแย้งต่าง ๆ การเน้นอารมณ์ความรู้สึก เทคนิคการเล่าเรื่องไม่เหมือนใคร ฉากหลังที่ยิ่งใหญ่ และการดำเนินเรื่องที่มักอิงกับช่วงเวลาหรือเหตุการณ์สำคัญ ภาพยนตร์ที่เข้าค่าย “มหากาพย์" จึงมีหลากหลายตั้งแต่ Gone with the Wind (1940), Bridge on the River Kwai (1957), The Godfather (1972) จนมาถึง Titanic (1997), The Hurt Locker (2008) และล่าสุด Oppenheimer (2023)
ในงานประกาศผลรางวัล Oscars ครั้งที่ 89 เกิดเหตุการณ์ “จดหมายผิดซอง” ขึ้น เพราะตอนแรก มีการประกาศว่า La La Land ภาพยนตร์มิวสิคัล-ดรามาชนะรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม แต่ไม่กี่นาทีถัดมา ทีมงานของ Oscars นำซองรางวัลขึ้นมาใหม่และประกาศว่า Moonlight เป็นผู้ชนะ ส่วนซองที่เขียนว่า La La Land นั้น แท้จริงแล้วเป็นซองประกาศรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมให้แก่ Emma Stone
โปสเตอร์ภาพยนตร์จาก: Letterboxd
อ้างอิง: CNN, Gamespot, The Hollywood Reporter
ทุกปี รางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Picture) ถือเป็นรางวัลที่ทรงเกียรติที่สุดของงานประกาศผลรางวัลออสการ์ (Oscars หรือ Academy Awards) และประกาศออกมาเป็นรางวัลสุดท้ายเสมอ
ปีนี้ Thai PBS NOW จึงรวบรวมสถิติที่น่าสนใจจากภาพยนตร์ที่ชนะ (และแพ้) รางวัล Oscars สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม อีกทั้งยังอัปเดตผลรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมปีล่าสุดจากงานฯ ครั้งที่ 97 ซึ่งตกเป็นของ Anora ภาพยนตร์แนวคอเมดี-ดรามาจากผู้กำกับ Sean Baker
1. เรื่องแรกที่ชนะ Best Picture : Wings (1927)
2. เรื่องล่าสุดที่ชนะ Best Picture : Anora (2024)
3. ภาพยนตร์แนว "มหากาพย์ (Epic)” ชนะ Best Picture มากสุด 23 เรื่อง - เรื่องล่าสุด Oppenheimer (2023)
4. ทำเงินทั่วโลกสูงสุด : Titanic (1997) 2,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ*
5. ทำเงินทั่วโลกน้อยสุด : Cimarron (1931) 1.38 ล้านดอลลาร์สหรัฐ*
6. เรื่องแรกที่นำแสดงโดยคนพิการและมาจากสตรีมมิง : CODA (2021)
7. เรื่องแรกจากเอเชียและและไม่ได้พูดอังกฤษ : Parasite (2019)
8. เรื่องแรกจากผู้กำกับหญิง : The Hurt Locker (2008) โดย แคทริน บิเกโลว์
9. เรื่องแรกที่เกี่ยวกับ LGBTQ+ และแสดงโดยนักแสดงเชื้อสายแอฟริกันทั้งหมด : Moonlight (2016)
10. ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมที่ชนะรางวัลมากสุด : Ben-Hur (1959), Titanic (1997), The Lord of the Rings: The Return of the King (2003) เรื่องละ 11 รางวัล
11. ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมกลุ่ม “Big Five” : It Happened One Night (1934), One Flew Over the Cuckoo’s Nest (1975), The Silence of the Lambs (1991)
12. ภาพยนตร์ชิงรางวัล Best Picture ที่แพ้สูงสุด : The Color Purple (1985) ชิง 11 ชนะ 0
นอกจากนี้ ยังมีเกร็ดข้อมูลเพิ่มเติมจากสถิติดังกล่าว ดังนี้
รางวัล “Big Five” ของ Oscars ประกอบด้วยภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ผู้กำกับยอดเยี่ยม นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม และบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (ดั้งเดิมหรือดัดแปลง)
แม้ Titanic และ Cimarron จะเป็นภาพยนตร์ Oscars ที่ทำเงินสูงสุดและน้อยสุดตามลำดับ แต่หากปรับค่าเงินปี 2024 ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมที่ทำเงินมากที่สุดทั่วโลกจะตกเป็นของ Gone with the Wind (1940) คิดเป็นรายได้ปัจจุบันอยู่ที่ 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนภาพยนตร์ยอดเยี่ยมที่ทำเงินต่ำที่สุดจะกลายเป็น CODA (2021) ที่คิดเป็นรายได้ปัจจุบันได้ 2.2 2 ล้านดอลลาร์ฯ ทั้งนี้ CODA เข้าฉายทั่วโลกแบบจำกัดโรง และลงสตรีมมิง Apple TV+ โดยตรง จึงอาจทำให้รายได้ไม่มากนัก
ภาพยนตร์แนว “มหากาพย์” มีองค์ประกอบสำคัญ ได้แก่ การผจญภัยของตัวละครเอกที่มักจะเป็น “มวยรอง” ในเรื่อง การใช้เวลาสำรวจปมขัดแย้งต่าง ๆ การเน้นอารมณ์ความรู้สึก เทคนิคการเล่าเรื่องไม่เหมือนใคร ฉากหลังที่ยิ่งใหญ่ และการดำเนินเรื่องที่มักอิงกับช่วงเวลาหรือเหตุการณ์สำคัญ ภาพยนตร์ที่เข้าค่าย “มหากาพย์" จึงมีหลากหลายตั้งแต่ Gone with the Wind (1940), Bridge on the River Kwai (1957), The Godfather (1972) จนมาถึง Titanic (1997), The Hurt Locker (2008) และล่าสุด Oppenheimer (2023)
ในงานประกาศผลรางวัล Oscars ครั้งที่ 89 เกิดเหตุการณ์ “จดหมายผิดซอง” ขึ้น เพราะตอนแรก มีการประกาศว่า La La Land ภาพยนตร์มิวสิคัล-ดรามาชนะรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม แต่ไม่กี่นาทีถัดมา ทีมงานของ Oscars นำซองรางวัลขึ้นมาใหม่และประกาศว่า Moonlight เป็นผู้ชนะ ส่วนซองที่เขียนว่า La La Land นั้น แท้จริงแล้วเป็นซองประกาศรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมให้แก่ Emma Stone
โปสเตอร์ภาพยนตร์จาก: Letterboxd
อ้างอิง: CNN, Gamespot, The Hollywood Reporter